นาฬิกาข้อมือสุดหรูราคาเป็นล้าน
-
นาฬิกาข้อมือสุดหรูราคาเป็นล้าน อู้หู...เรือนบอกเวลาสุดหรูราคาเป็นล้าน!
นาฬิการาคาเป็นล้าน ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับแบรนด์นาฬิกาชั้นสูง
มักจะเป็นคอลเลกชันค...
digital camera camcorder video camera Sanyo Sony Panasonic ไอโฟน notebook, เน็ตบุ๊ก,LCD,LCD TV Samsung,Canon EOS 1100D,Canon EOS 600D
วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2553
Sanyo อวดโฉมกล้อง Xacti น้องใหม่ ประเดิม Power Buy Photo Fest 2010
Sanyo อวดโฉมกล้อง Xacti น้องใหม่ ประเดิม Power Buy Photo Fest 2010
“ซันโย” นำทัพกล้องแซคติ 5 รุ่นน้องใหม่ จัดโปรโมชั่นแรง! อวดโฉมครั้งแรกในงาน “Power Buy Photo Fest 2010”
ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม - 4 เมษายน 2553 ณ. Central World
นายพศณัฐ ทองเจือ รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซันโย (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากเปิดตัวกล้องวิดีโอแบบพกพา “SANYO Xacti Dual Camera” เมื่อกลางเดือนมีนาคม ได้รับกระแสตอบรับดีมากจากตลาดผู้บริโภค บริษัทจึงตัดสินใจกระตุ้นตลาดโดยหวังว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดกล้องวิดีโอเป็นอันดับ 2 ในประเทศไทย ด้วยการจัดโปรโมชั่นครั้งยิ่งใหญ่ เพื่ออวดโฉมกล้องตระกูลแซคติทั้ง 5 รุ่นเป็นครั้งแรกในงาน “Power Buy Photo Fest 2010 @ CW”
ซันโย นำทัพกล้องแซคติ 5 รุ่นน้องใหม่ จัดโปรโมชั่นแรง! อวดโฉมครั้งแรกในงาน “Power Buy Photo Fest 2010” ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม - 4 เมษายน 2553 ณ ลานอีเดน เซ็นทรัลเวิลด์...การอวดโฉมกล้องตระกูลแซคติทั้ง 5 รุ่นเป็นครั้งแรกในงาน “Power Buy Photo Fest 2010” จะได้พบกับกล้องแซคติ 5 รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ รุ่น VPC-CS1, VPC-SH1, VPC-CG100, VPC-GH1 และ VPC-CG20 พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ โดยตัวกล้องถูกออกแบบฟังก์ชั่นเน้นคุณภาพระดับไฮเดฟฟินิชั่น ด้วยคุณสมบัติการใช้งานที่มีจุดเด่นแตกต่างกัน โดยเฉพาะ รุ่น VPC–CS1 ที่มีขนาดเล็ก เบาและบางที่สุดในโลก ผสานความสามารถทั้งการถ่ายรูปที่ให้ความละเอียดถึง 8 ล้านพิกเซล และบันทึกวิดีโอด้วยความละเอียดระดับ Full HD (1920 x 1080) ในตัวกล้องเดียวกัน น้ำหนักเพียง 142 กรัม (เฉพาะตัวกล้อง) ไม่เพียงเท่านั้น! ซันโยยังท้าพิสูจน์ประสิทธิภาพเทคโนโลยีการซูมภาพสูงสุดถึง 30 เท่าในรุ่น VPC-SH1 อีกด้วย
ที่มา http://www.igadgety.com/article.php?id=6803
วันพุธที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2553
Samsung to launch two new 14.2mp camera
Samsung to launch two new 14.2mp camera Samsung เปิดตัวกล้องดิจิตอลขนาดเล็กรุ่นใหม่ สองรุ่น ที่มาพร้อมความละเอียดสูงถึง 14.2 ล้านพิกเซล และยังเป็นกล้องคอนซูเมอร์รุ่นแรกที่ใช้การผลิตด้วยเทคโนโลยี ไฮโดร โฟมมิ่ง (Hydro Foaming) ทำให้ตัวบอดี้กล้องได้ดีไซน์ที่สวยงามเรียบรื่น เนียนปิ๊ง สำหรับทั้งสองรุ่นนี้คือ Samsung CL80 ราคาประมาณ 430 เหรียญสหรัฐ และรุ่น TL240 ราคาประมาณ 368 เหรียญสหรัฐ
สำหรับรุ่น CL80 (ST5500 ชื่อในยุโรป) มีหน้าจอขนาด 3.7 นิ้วแบบ AMOLED touch-sensitive ส่วนรุ่น TL240 (ST5000) หน้าจอ LCD ขนาด 3.5 นิ้ว
นอกจากนี้ CL80 ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi และ BlueTooth ด้วย ที่ช่วยให้สามารถโอนถ่ายไฟล์ภาพและวิดีโอได้อย่างสะดวก ตัวกล้องมาพร้อมกับการซุม 7x รองรับ 720p HD video
Samsung are all set to bring out two peppy cameras that will add style to some great photography. Both of these will be 14.2 megapixel shooters and also happen to be the first consumer electronic products to be manufactured using Hydro forming technology. This technology allows for greater flexibility during the design process and allows for a smoother, sleeker finish for the cameras body
The cameras will be called the ST5500 ($430) and the ST5000 ($368). Both of them have KREUZNACH lenses that are inspired by mirror writings by Leonardo da Vinci.
ที่มา : newlaunches , pookluk
สำหรับรุ่น CL80 (ST5500 ชื่อในยุโรป) มีหน้าจอขนาด 3.7 นิ้วแบบ AMOLED touch-sensitive ส่วนรุ่น TL240 (ST5000) หน้าจอ LCD ขนาด 3.5 นิ้ว
นอกจากนี้ CL80 ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi และ BlueTooth ด้วย ที่ช่วยให้สามารถโอนถ่ายไฟล์ภาพและวิดีโอได้อย่างสะดวก ตัวกล้องมาพร้อมกับการซุม 7x รองรับ 720p HD video
Samsung are all set to bring out two peppy cameras that will add style to some great photography. Both of these will be 14.2 megapixel shooters and also happen to be the first consumer electronic products to be manufactured using Hydro forming technology. This technology allows for greater flexibility during the design process and allows for a smoother, sleeker finish for the cameras body
The cameras will be called the ST5500 ($430) and the ST5000 ($368). Both of them have KREUZNACH lenses that are inspired by mirror writings by Leonardo da Vinci.
ที่มา : newlaunches , pookluk
วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2553
กล้องไซเบอร์ช็อตรุ่นล่าสุด DSC-TX5 ดีไซน์บางเฉียบ สีสันสุดอินเทรนด์
กล้องไซเบอร์ช็อตรุ่นล่าสุด DSC-TX5 ดีไซน์บางเฉียบ สีสันสุดอินเทรนด์
มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นอีกระดับเอาใจบรรดาสาวกแฟชั่น ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์แบบสุดขั้วไม่ว่าจะหรูหรา หรือสมบุกสมบัน กับคุณสมบัติที่เสริมความทนทานด้วยการปกป้องตัวกล้องจากการใช้งานในสภาวะต่าง ๆ ถึง 4 ประการ คือ - สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 3 เมตร ให้คุณถ่ายภาพระหว่างท่องเที่ยวทะเล น้ำตก หรือใต้น้ำได้อย่างสบายใจ
- ป้องกันฝุ่นละออง
- ป้องกันการกระแทกจากการตกหล่นจากความสูงได้ถึง 1.5 เมตร ด้วยการออกแบบ และวัสดุที่แข็งแกร่ง
- ทนทานต่อสภาพอากาศ สามารถใช้งานได้แม้ในสถานที่ที่อุณหภูมิติดลบถึง 10 องศา
พร้อมด้วยระบบการถ่ายภาพพาโนรามาง่าย ๆ แบบ Intelligent Sweep Panorama ระบบ Handheld Twilight ที่ช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้อย่างคมชัดโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง รวมทั้งโหมดการถ่ายภาพย้อนแสง Backlight Correction HDR เป็นต้น นอกจากนี้ยังมั่นใจกับรายละเอียดที่คมชัดด้วยเลนส์ Carl Ziess Vario-Tessar 25 ม.ม. และเซ็นเซอร์รับภาพ Exmor R CMOS พร้อมระบบถ่ายภาพเคลื่อนไหวด้วยรายละเอียดระดับไฮเดฟฟินิชั่น
มีความละเอียด 10.6 ล้านพิกเซล มาพร้อมเลนส์ 28 – 112 มม. ซูมได้ 4 เท่า ระยะมาโครโฟกัส 1 เซนติเมตร มีรูรับแสง f3.5 – f6.3 สามารถ่ายภาพที่ความเร็วชัตเตอร์ 2 – 1/1600 วินาที กล้อง Sony Cybershot DSC TX5 ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 10 เฟรมต่อวินาที สามารถปรับสมดุลแสงสีขาวได้เช่น Auto, Cloudy, Daylight, Flash, Fluorescent, Incandescent มีระบบวัดแสง Centre weighted, Multi-segment, Spot ปรับแก้ชดเชยแสง -2EV – +2EV with 1/3EV steps มีความไวแสง auto, 125, 200, 400, 800, 1600, 3200 รองรับหน่วยความจำแบบ Memory Stick Duo, Memory Stick Pro Duo, SDHC, Secure Digital ไม่มีช่องมองภาพแบบออพติคอล ขนาดจอ LCD 3 นิ้ว ที่ความละเอียดจอ 230,000 พิกเซล ใช้แบตเตอรี่ Li-Ion
DSC-TX5 มีให้เลือก 5 สี – สีเงิน สีดำ สีชมพู สีเขียว และสีแดง วางจำหน่ายราคา 14,990 บาท
ข้อมูลทางเทคนิคของ Sony DSC TX5
ความละเอียด 10.60 Mpixel ตัวคูณโฟกัส n/a
ขนาดภาพสูงสุด 3648×2736 ขนาดภาพเล็กสุด 640×480
ชนิดเซนเซอร์ Exmor R CMOS ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.4-inch
ถ่ายต่อเนื่อง 10 fps ชดเชยแสง -2EV – +2EV with 1/3EV steps
ซูมเลนส์ 4X ซูมดิจิตอล Yes
ระยะไวด์ 28 mm ระยะเทเล 112 mm
รูรับแสงช่วงไวด์ f3.5 – unknown รูรับแสงช่วงเทเล f6.3 – unknown
ระบบโฟกัสอัตโนมัติ Yes ระบบแมนวลโฟกัส Unknown
โหมด Aperture priority No โหมด Shutter priority No
ช่องมองภายออพติคอล No ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ No
ระยะโฟกัส 8 cm ระยะมาโครโฟกัส 1 cm
ระบบวัดแสง Centre weighted, Multi-segment, Spot ความไวแสง auto, 125, 200, 400, 800, 1600, 3200
Flash Mode anti red-eye, auto, fill in, off, slow flash ชนิดแฟลชภายนอก n/a
แฟลชภายใน Yes แฟลชภายนอก No
ถ่ายวิดีโอ Yes ถ่ายวิดีโอพร้อมเสียง Yes
ขนาดวิดีโอใหญ่สุด 1280×720 Pixels ขนาดวิดีโอเล็กสุด 320×240 Pixels
ความละเอียดจอแอลซีดี 230,000 Pixels สมดุลสีขาว Auto, Cloudy, Daylight, Flash, Fluorescent, Incandescent
ขนาดจอแอลซีดี 3-inch จอแอลซีดี Yes
ตั้งเวลาถ่ายภาพ Yes USB USB 2.0 Hi-Speed
ช่องต่อวิดีโอ Yes Bluetooth No
ความเร็วชัตเตอร์ 2 – 1/1600 Firewire No
บันทึกเสียง Yes แบตเตอรี่ Li-Ion
น้ำหนัก 128g. ขนาด 94×57x18 mm
รองรับไฟล์ JPEG สื่อบันทึก Memory Stick Duo, Memory Stick Pro Duo, SDHC, Secure Digital
ที่มา : sony
Sanyo เปิดตัวกล้องวีดิโอ เล็ก บาง เบาที่สุดในโลก
Sanyo เปิดตัวกล้องวีดิโอ เล็ก บาง เบาที่สุดในโลก
"ซันโย" ปลุกกระแสตลาดกล้องวีดิโอด้วย Xacti พร้อมกันถึง 5 รุ่น โดดเด่นด้วย Full High Definition เจาะตลาดผู้หญิง-ผู้นิยมกล้องวีดิโอแบบพกพา 2553 บริษัทขอแนะนำกล้องวีดิโอแบบพกพา ตระกูล Xacti 5 รุ่นล่าสุด ออกแบบฟังก์ชั่นเน้นคุณภาพ Full HD เป็นหลัก ประกอบด้วยรุ่น VPC-CS1 VPC-SH1 VPC-CG100 VPC-GH1 และVPC-CG20 โดยวางแผนเจาะตลาดกลุ่มผู้หญิงและผู้ใช้ ที่เน้นความคล่องตัวในการเดินทาง เนื่องจากจุดเด่นตัวกล้องอยู่ที่ความเบาบาง และกะทัดรัดขึ้นกว่าเดิม
โดยเฉพาะรุ่น VPC–CS1 กล้องลูกผสมแบบ Slim Type Dual Camera ขนาดเล็กที่สุด เบา และบางที่สุดในโลก ผสานความสามารถทั้งการถ่ายรูป ที่ให้ความละเอียดถึง 8 ล้านพิกเซล ซูมได้ 10 เท่า และถ่ายวีดิโอด้วยความละเอียดระดับ Full HD (1920X1080) ในตัวกล้องเดียวกัน น้ำหนักเพียง 142 กรัม (เฉพาะตัวกล้อง)
นอกจากนี้ ยังมีรุ่นกล้องในตระกูล Xacti ที่น่าสนใจเช่นกัน อาทิ VPC-SH1 สามารถบันทึกวีดิโอต่อเนื่องนาน 110 นาที และซูมภาพได้ถึง 30 เท่า ตามด้วยรุ่น VPC-CG100 และ VPC-GH1 ถ่ายภาพนิ่ง ความละเอียดสูงสุด 16 ล้านพิกเซล เทคโนโลยีรับภาพแบบ C-MOS Sensor ล้ำหน้าด้วยฟังก์ชั่นซูมเสียง เฉพาะจุดที่ต้องการ ถ่ายภาพระยะใกล้สุด Super macro 1 cm. เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งว่า พบโปรโมชั่นจาก Xacti ได้ที่บูธ Sanyo Xacti Summer 2010 ตั้งแต่วันนี้- 31 พ.ค. 2553 พร้อมผ่อนแบบสบายคลายร้อนด้วยบัตร KTC City Bank UOB GE K-Bank ผ่อน 0% นานถึง 10 เดือน หรือผู้ใช้บัตร First Choice Aeon ผ่อน 0% นาน 4 เดือน สัมผัสการใช้งานจริงได้แล้ว ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป หรือสามารถเยี่ยมชม บูธซันโย ซึ่งตระเวนจัดกิจกรรมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ในช่วงสงกรานต์ดังนี้ วันที่ 13-14 เม.ย.53 จังหวัดนครราชสีมา ณ ร้านใต้ฟ้าซิตี้ วันที่ 13-14 เม.ย.53 จังหวัดเชียงใหม่ ณ ร้านเชียงใหม่สยามทีวี และวันที่ 14-15 เม.ย.53 จังหวัดพิษณุโลก ณ ร้านไทยมาร์ท
a
ที่มา http://www.igadgety.com/article.php?id=6756
"ซันโย" ปลุกกระแสตลาดกล้องวีดิโอด้วย Xacti พร้อมกันถึง 5 รุ่น โดดเด่นด้วย Full High Definition เจาะตลาดผู้หญิง-ผู้นิยมกล้องวีดิโอแบบพกพา 2553 บริษัทขอแนะนำกล้องวีดิโอแบบพกพา ตระกูล Xacti 5 รุ่นล่าสุด ออกแบบฟังก์ชั่นเน้นคุณภาพ Full HD เป็นหลัก ประกอบด้วยรุ่น VPC-CS1 VPC-SH1 VPC-CG100 VPC-GH1 และVPC-CG20 โดยวางแผนเจาะตลาดกลุ่มผู้หญิงและผู้ใช้ ที่เน้นความคล่องตัวในการเดินทาง เนื่องจากจุดเด่นตัวกล้องอยู่ที่ความเบาบาง และกะทัดรัดขึ้นกว่าเดิม
โดยเฉพาะรุ่น VPC–CS1 กล้องลูกผสมแบบ Slim Type Dual Camera ขนาดเล็กที่สุด เบา และบางที่สุดในโลก ผสานความสามารถทั้งการถ่ายรูป ที่ให้ความละเอียดถึง 8 ล้านพิกเซล ซูมได้ 10 เท่า และถ่ายวีดิโอด้วยความละเอียดระดับ Full HD (1920X1080) ในตัวกล้องเดียวกัน น้ำหนักเพียง 142 กรัม (เฉพาะตัวกล้อง)
นอกจากนี้ ยังมีรุ่นกล้องในตระกูล Xacti ที่น่าสนใจเช่นกัน อาทิ VPC-SH1 สามารถบันทึกวีดิโอต่อเนื่องนาน 110 นาที และซูมภาพได้ถึง 30 เท่า ตามด้วยรุ่น VPC-CG100 และ VPC-GH1 ถ่ายภาพนิ่ง ความละเอียดสูงสุด 16 ล้านพิกเซล เทคโนโลยีรับภาพแบบ C-MOS Sensor ล้ำหน้าด้วยฟังก์ชั่นซูมเสียง เฉพาะจุดที่ต้องการ ถ่ายภาพระยะใกล้สุด Super macro 1 cm. เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งว่า พบโปรโมชั่นจาก Xacti ได้ที่บูธ Sanyo Xacti Summer 2010 ตั้งแต่วันนี้- 31 พ.ค. 2553 พร้อมผ่อนแบบสบายคลายร้อนด้วยบัตร KTC City Bank UOB GE K-Bank ผ่อน 0% นานถึง 10 เดือน หรือผู้ใช้บัตร First Choice Aeon ผ่อน 0% นาน 4 เดือน สัมผัสการใช้งานจริงได้แล้ว ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป หรือสามารถเยี่ยมชม บูธซันโย ซึ่งตระเวนจัดกิจกรรมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ในช่วงสงกรานต์ดังนี้ วันที่ 13-14 เม.ย.53 จังหวัดนครราชสีมา ณ ร้านใต้ฟ้าซิตี้ วันที่ 13-14 เม.ย.53 จังหวัดเชียงใหม่ ณ ร้านเชียงใหม่สยามทีวี และวันที่ 14-15 เม.ย.53 จังหวัดพิษณุโลก ณ ร้านไทยมาร์ท
a
ที่มา http://www.igadgety.com/article.php?id=6756
วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2553
กล้องถ่ายรูป Fuji FinePix XP10 กล้องทนทุกสภาพอากาศ
กล้องถ่ายรูป Fuji FinePix XP10 กล้องทนทุกสภาพอากาศ
ฟูจิฟิล์มแนะนำกล้องดิจิตอลซีรี่ย์ใหม่ Fuji FinePix XP10 ออกแบบมาให้ทนทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็นน้ำ, การกระแทก, ฝุ่นละออง และ อุณหภูมิที่เย็นจัด คุณจึงสามารถพกพากล้องถ่ายรูป ออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างสนุกสนาน พร้อมบันทึกภาพประทับใจได้ทุกสถานการณ์ ด้วยเลนส์กล้อง CCD ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซูมออพติคอล 5 เท่า คมชัดด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหว จดจำใบหน้าคนโปรดด้วยเทคโนโลยี Face Detection บันทึกวีดีโอในระดับ HD - 1280 x 720 พิกเซล
กล้องดิจิตอล Fuji FinePix XP10 สามารถถ่ายภาพใต้น้ำลึกสูงสุด 3 เมตร ป้องกันแรงกระแทกจากการตกในระดับ 1 เมตร ใช้งานได้ในอุณหภูมิ -10 องศาเซลเซียส ป้องกันฝุ่นละอองจากการทำกิจกรรมกลางแจ้ง มีขนาดตัวเครื่อง 95.6 x 63.8 x 23.2 มิลลิเมตร น้ำหนัก 135 กรัม หน่วยความจำในตัว 13 MB รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก SD หรือ SDHC ผลิตออกมา 5 สี คือ บรอนซ์เงิน, น้ำเงิน, เขียว, ดำ และ ชมพู
ข้อมูลรายละเอียดของกล้อง Fuji XP 10
หน่วยประมวลผล
เซนเซอร์รับภาพ SuperCCD EXR 1/2.3
ความละเอียดใช้งาน 12 ล้านพิกเซล
ความละเอียดเซนเซอร์ 12 ล้านพิกเซล
โปรเซสเซอร์
ข้อมูลรายละเอียดของ เลนส์
ความยาวโฟกัส 36 - 180 มม.
รูรับแสง f/4.0 / 6.7 (wide); f/4.8 / 8.0 (tele)
ออพติคอลซูม 5 เท่า
ดิจิตอลซูม 6.3 เท่า
ข้อมูลรายละเอียดของ ชัตเตอร์
ความเร็วชัตเตอร์ 1/4 - 1/2000 ถ่ายภาพต่อเนื่อง
ข้อมูลรายละเอียดของ การโฟกัส
ชนิดโฟกัส มาโคร ขึ้นอยู่กับเลนส์ที่ใช้
ข้อมูลรายละเอียดของ ระบบเกี่ยวกับแสง
ระบบวัดแสง TTL 256-zone metering
ระบบชดเชยแสง +/- 2.0EV in 0.3EV steps
ความไวแสง (ISO) Auto,100, 200, 400, 800, 1600
สมดุลแสงสีขาว (WB) Auto, Fine, Shade, Incandescent light, Fluorescent light 1 - 3
ข้อมูลรายละเอียดของ ช่องมองภาพและ LCD
ช่องมองภาพ ไม่มี ใช้จอ LCD แทน ขนาด 2.7 นิ้ว ความละเอียดจอ 230,000 จุด
การปรับตำแหน่งจอ ไม่ได้
ข้อมูลรายละเอียดของ แฟลช
ระบบแฟลช
Auto, Red-eye Reduction,Forced Flash, Suppressed Flash, Slow Synchro, Red-eye Reduction
ระยะแฟลช
Wide : App. 0.7m / 2.3 ft. to 3.1m / 10.2 ft.; Tele : 0.7m / 2.3 ft. to 2.7m / 8.9
แฟลชภายนอก
ไม่มี
ข้อมูลรายละเอียดของ ภาพเคลื่อนไหว
ภาพเคลื่อนไหว บันทึกภาพพร้อมเสียง ระยะเวลาบันทึกภาพเคลื่อนไหว
ข้อมูลรายละเอียดของ หน่วยความจำ
หน่วยความจำภายใน มีจำนวน ขนาด 13 MB
หน่วยความจำที่ใช้ในเพิ่มเติม SD / SDHC
ข้อมูลรายละเอียดของไฟล์และการเชื่อมต่อ
ไฟล์ภาพนิ่ง เมื่อถ่ายเสร็จจะได้ไฟร์ นามสกุล .JPEG
ไฟล์ภาพเคลื่อนไหว มีให้เลือกแบบ 1280x720, 640x480, 320x240 @ 30 / 30 / 30
เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ด้วยช่อง USB 2.0 High Speed
สามารถเชื่อมต่อทีวีได้โดยตรง จากสาย AV
ข้อมูลรายละเอียดของอื่นๆ
ชนิดแบตเตอรี่ ที่ใช้ขนาด NP-45A
ขนาดของตัวกล้อง กว้าง สูง ลึก 96 x 64 x 23 มม.
น้ำหนักตัวกล้องรวม 152 กรัม
ลองรับเมนูภาษาไทย
ที่มา http://gadget.siamphone.com/news-01696.html
Sony DSC-T2 กล้องคอมแพ็คสุดฮิบ ความละเอียด 8 ล้าน
Sony DSC-T2 กล้องคอมแพ็คสุดฮิบ ความละเอียด 8 ล้าน
Sony Cyber-shot DSC-T2 กล้องดิจิตอล ขนาดคอมแพ็ค รูปร่างน่ารัก ใช้เซนเซอร์รับภาพแบบ CCD ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
บันทึกได้ทั้งภาพนิ่ง (JPEG) และภาพเคลื่อนไหว (MPEG1) สั่งพิมพ์ภาพโดยตรง (PictBridge) ผ่านสาย USB 2.0 มีช่อง AV ส่งภาพออกโทรทัศน์ จอแสดงผลระบบสัมผัส กว้าง 2.7 นิ้ว สะดวกในการตกแต่งภาพถ่าย และไม่ลืมใส่ฟังก์ชั่น Smile shutter ถ่ายภาพอัตโนมัติเมื่อคุณยิ้ม ราคาเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่น ประมาณ 17,990 บาท
คุณสมบัติกล้องดิจิตอล Sony Cyber-shot
ขนาด 86.8 x 56.8 x 20.2 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 156 กรัม (รวมแบตเตอรี่)
จอแสดงผล ระบบสัมผัส TFT LCD 230,400 พิกเซล กว้าง 2.7 นิ้ว
- ปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ
หน่วยความจำในตัว 3.82 กิ๊กกะไบต์
รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก
- Memory stick duo / Memory stick PRO duo / Memory stick PRO-HG duo
การเชื่อมต่อ USB 2.0 / AVระบบพิมพ์ภาพ Exif Print / PRINT Image MatchingIII / PictBridge
เซนเซอร์รับภาพ CCD ความละเอียด 8.3 ล้านพิกเซล
ความละเอียดในการถ่ายภาพ 8.1 ล้านพิกเซล
- ปรับภาพอัตโนมัติ 9 จุด (Multipoint AF)
- ปรับสมดุลแสงสีขาว (White balance)
- ปรับโทนสี Vivid / Natural / Monotone / Sepia
- โหมดถายภาพในเวลากลางคืน
- โหมดถ่ายภาพดอกไม้ไฟ
- ตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติ 2, 10 วินาที
- ฟังก์ชั่นลบจุดตาแดง (Red eye reduction)
บันทึกภาพนิ่งรูปแบบ JPEG ซูมออพติคอล 3 เท่า
- ความละเอียด 8 Mega size - 3,264 x 2,448 พิกเซล
- ความละเอียด 3 : 2 size - 3,264 x 2,176 พิกเซล
- ความละเอียด 5 Mega sizes - 2,592 x 1,944 พิกเซล
- ความละเอียด 3 Mega size - 2,048 x 1,536 พิกเซล
- ความละเอียด 16 : 9 - 1,920 x 1,080 พิกเซล
- ความละเอียด VGA - 640 x 480 พิกเซล
บันทึกภาพเคลื่อนไหวรูปแบ MPEG1
- ความละเอียด VX fine - 640 x 480 พิกเซล - 30 เฟรมต่อวินาที
- ความละเอียด VX standard - 640 x 480 พิกเซล - 17 เฟรมต่อวินาที
- ความละเอียด Presentation - 320 x 240 พิกเซล - 8 เฟรมต่อวินาที
ติดตั้งไมโครโฟนและลำโพงเสียงในตัว
Sony Cyber-shot DSC-T2 กล้องดิจิตอล ขนาดคอมแพ็ค รูปร่างน่ารัก ใช้เซนเซอร์รับภาพแบบ CCD ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
บันทึกได้ทั้งภาพนิ่ง (JPEG) และภาพเคลื่อนไหว (MPEG1) สั่งพิมพ์ภาพโดยตรง (PictBridge) ผ่านสาย USB 2.0 มีช่อง AV ส่งภาพออกโทรทัศน์ จอแสดงผลระบบสัมผัส กว้าง 2.7 นิ้ว สะดวกในการตกแต่งภาพถ่าย และไม่ลืมใส่ฟังก์ชั่น Smile shutter ถ่ายภาพอัตโนมัติเมื่อคุณยิ้ม ราคาเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่น ประมาณ 17,990 บาท
คุณสมบัติกล้องดิจิตอล Sony Cyber-shot
ขนาด 86.8 x 56.8 x 20.2 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 156 กรัม (รวมแบตเตอรี่)
จอแสดงผล ระบบสัมผัส TFT LCD 230,400 พิกเซล กว้าง 2.7 นิ้ว
- ปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ
หน่วยความจำในตัว 3.82 กิ๊กกะไบต์
รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก
- Memory stick duo / Memory stick PRO duo / Memory stick PRO-HG duo
การเชื่อมต่อ USB 2.0 / AVระบบพิมพ์ภาพ Exif Print / PRINT Image MatchingIII / PictBridge
เซนเซอร์รับภาพ CCD ความละเอียด 8.3 ล้านพิกเซล
ความละเอียดในการถ่ายภาพ 8.1 ล้านพิกเซล
- ปรับภาพอัตโนมัติ 9 จุด (Multipoint AF)
- ปรับสมดุลแสงสีขาว (White balance)
- ปรับโทนสี Vivid / Natural / Monotone / Sepia
- โหมดถายภาพในเวลากลางคืน
- โหมดถ่ายภาพดอกไม้ไฟ
- ตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติ 2, 10 วินาที
- ฟังก์ชั่นลบจุดตาแดง (Red eye reduction)
บันทึกภาพนิ่งรูปแบบ JPEG ซูมออพติคอล 3 เท่า
- ความละเอียด 8 Mega size - 3,264 x 2,448 พิกเซล
- ความละเอียด 3 : 2 size - 3,264 x 2,176 พิกเซล
- ความละเอียด 5 Mega sizes - 2,592 x 1,944 พิกเซล
- ความละเอียด 3 Mega size - 2,048 x 1,536 พิกเซล
- ความละเอียด 16 : 9 - 1,920 x 1,080 พิกเซล
- ความละเอียด VGA - 640 x 480 พิกเซล
บันทึกภาพเคลื่อนไหวรูปแบ MPEG1
- ความละเอียด VX fine - 640 x 480 พิกเซล - 30 เฟรมต่อวินาที
- ความละเอียด VX standard - 640 x 480 พิกเซล - 17 เฟรมต่อวินาที
- ความละเอียด Presentation - 320 x 240 พิกเซล - 8 เฟรมต่อวินาที
ติดตั้งไมโครโฟนและลำโพงเสียงในตัว
Sony Cyber-shot “บางสุด-กันน้ำ“ ได้
Sony Cyber-shot “บางสุด-กันน้ำ“ ได้
รายงานข่าวล่าสุด โซนี่ (Sony) เตรียมวางตลาดกล้องดิจิตอล Cyber-shot รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในงาน CES 2010 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยรุ่นแรกจะเป็น DSC-TX5 ซึ่งทางบริษัทอ้างว่า มันเป็นกล้องดิจิตอลที่บางที่สุดในโลก แถมยัง
มา ดูรายละเอียดของ Sony Cyber-shot DSC-TX5 กันดีกว่าครับ กล้องรุ่นนี้จะมีขนาดเล็กกะทัดรัด (3.75x 2.25x0.72 นิ้ว) และมีน้ำหนักเบา (128 กรัม) ซึ่งจะสังเกตได้ว่ามันมีความบางมากจริงๆ แค่ 1.83 ซม.เท่านั้น แถมยังอึดมากๆ สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 10 ฟุต (3 เมตร) และในที่อากาศเย็นจัดถึง -10 องศาเซลเซียส อีกทั้งยังกันกระแทกจากการตกจากทีสูงถึง 5 ฟุต (1.5 เมตร) สำหรับความละเอียดของ DSC-TX5 จะอยู่ที่ 10.2 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 25 - 100 มม. ซูมออปติคัล 4x พร้อมหน้าจอระบบสัมผัส 3 นิ้ว นอกจากนี้ DSC-TX5 ยังสนับสนุนการบันทึกวิดีโอไฮเดฟ 720p และมีช่องต่อสัญญาณภายนอก HDMI ให้อีกด้วย โดยจะมีให้เลือก 5 สีด้วยกันคือ เงิน ดำ ชมพู เขียว และแดง วางตลาดเมษายน สนนราคา 350 เหรียญฯ (ประมาณ 12,000 บาท)
สำหรับ กล้องดิจิตอลอีกรุ่นหนึ่งจะเป็น Sony Cyber-shpt DSC-H55 จะเป็นกล้องที่เน้นเรืองความสามารถในการซูมเป็นหลัก โดยรุ่นนี้จะมีความละเอียดของการถ่าย 14.1 ล้านพิกเซล และใช้เลนส์มุมกว้างเป็นพิศษ (25-250 มม.) ซูมออปติคัลได้ 10x (Super-Zoom) และหน้าจอ LCD 3 นิ้ว อัดแน่นอยู่ในตัวกล้องที่ค่อนข้างบางอีกเช่นกัน DSC-H55 จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหว Optical SteadyShot ของโซนี่ แม้แต่ตอนที่ถ่ายภาพยนต์ไฮเดฟฯ 720p ซึ่ง H55 (และ TX5) จะรองรับฟอร์แมตของการ์ดหน่วยความจำทั้ง MemoryStick และ SD/SDHC โดย H55 จะมีให้เลือกเป็นเจ้าของได้ 2 สีด้วยกันคือ ดำ และเงิน สนนราคาอยู่ที่ 250 เหรียญฯ (ประมาณ 8,500 บาท) วางตลาดในเดือนเมษายนเช่นเดียวกัน
ข้อมูลจาก: pcmag
รายงานข่าวล่าสุด โซนี่ (Sony) เตรียมวางตลาดกล้องดิจิตอล Cyber-shot รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในงาน CES 2010 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยรุ่นแรกจะเป็น DSC-TX5 ซึ่งทางบริษัทอ้างว่า มันเป็นกล้องดิจิตอลที่บางที่สุดในโลก แถมยัง
มา ดูรายละเอียดของ Sony Cyber-shot DSC-TX5 กันดีกว่าครับ กล้องรุ่นนี้จะมีขนาดเล็กกะทัดรัด (3.75x 2.25x0.72 นิ้ว) และมีน้ำหนักเบา (128 กรัม) ซึ่งจะสังเกตได้ว่ามันมีความบางมากจริงๆ แค่ 1.83 ซม.เท่านั้น แถมยังอึดมากๆ สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 10 ฟุต (3 เมตร) และในที่อากาศเย็นจัดถึง -10 องศาเซลเซียส อีกทั้งยังกันกระแทกจากการตกจากทีสูงถึง 5 ฟุต (1.5 เมตร) สำหรับความละเอียดของ DSC-TX5 จะอยู่ที่ 10.2 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 25 - 100 มม. ซูมออปติคัล 4x พร้อมหน้าจอระบบสัมผัส 3 นิ้ว นอกจากนี้ DSC-TX5 ยังสนับสนุนการบันทึกวิดีโอไฮเดฟ 720p และมีช่องต่อสัญญาณภายนอก HDMI ให้อีกด้วย โดยจะมีให้เลือก 5 สีด้วยกันคือ เงิน ดำ ชมพู เขียว และแดง วางตลาดเมษายน สนนราคา 350 เหรียญฯ (ประมาณ 12,000 บาท)
สำหรับ กล้องดิจิตอลอีกรุ่นหนึ่งจะเป็น Sony Cyber-shpt DSC-H55 จะเป็นกล้องที่เน้นเรืองความสามารถในการซูมเป็นหลัก โดยรุ่นนี้จะมีความละเอียดของการถ่าย 14.1 ล้านพิกเซล และใช้เลนส์มุมกว้างเป็นพิศษ (25-250 มม.) ซูมออปติคัลได้ 10x (Super-Zoom) และหน้าจอ LCD 3 นิ้ว อัดแน่นอยู่ในตัวกล้องที่ค่อนข้างบางอีกเช่นกัน DSC-H55 จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหว Optical SteadyShot ของโซนี่ แม้แต่ตอนที่ถ่ายภาพยนต์ไฮเดฟฯ 720p ซึ่ง H55 (และ TX5) จะรองรับฟอร์แมตของการ์ดหน่วยความจำทั้ง MemoryStick และ SD/SDHC โดย H55 จะมีให้เลือกเป็นเจ้าของได้ 2 สีด้วยกันคือ ดำ และเงิน สนนราคาอยู่ที่ 250 เหรียญฯ (ประมาณ 8,500 บาท) วางตลาดในเดือนเมษายนเช่นเดียวกัน
ข้อมูลจาก: pcmag
Panasonic Lumix DMC-FX48 Handy and Funny Camera
Panasonic Lumix DMC-FX48 Handy and Funny Camera
หลังจากคราวที่ได้รีวิว Lumix DMC-LX3 ไปไม่นานนี้ โชคดีได้ Lumix มาทดลองใช้งานอีกแล้วครับ คราวนี้เป็นรุ่น DMC-FX48 ซึ่งก็เป็นหนึ่งในกล้องในตระกูล Lumix ของ Panasonic มีเอกลักษณ์ของตัวเองที่ชัดเจน ตัวเครื่องของ Lumix DMC-FX48 มีให้เลือกหลายสีครับ ไม่ว่าจะเป็น สีเงิน, สีดำ, สีทอง, สีแดง, สีชมพู และสีขาว ตัวที่ได้รับมาทดลองใช้งานครั้งนี้เป็นสีดำด้าน ดูภูมิฐานดีครับ ตรงกระบอกเลนส์เป็นสีเงินที่ตัดกันอย่างลงตัวให้ความรู้สึกที่ High-End เหมือนกัน
Lumix DMC-FX48 ใช้เซ็นเซอร์แบบ CCD ให้ความละเอียด 12.1 ล้านพิกเซล สามารถเลือกตั้ง aspect ratio ได้ไม่ว่าจะเป็น 4:3, 3:2 หรือ 16:9 สำหรับค่าความไวแสง ISO จะอยู่ที่ระหว่าง 80-1600 จอแอลซีดี TFT ที่ด้านหลังของตัวกล้องขนาด 2.5 นิ้วแสดงผลได้ที่ 230,000 dots สามารถตรวจวัดพร้อมปรับความสว่างให้เหมาะสมกับสภาพแสงโดยรอบอัตโนมัติ ได้ถึง 11 ระดับ boost ความสว่างได้สูงสุดถึง 40% และให้มุมมองของจอในองศาที่ชมได้กว้างมากขึ้นทั้งในแนวตั้งและแนวนอน
ตัวเครื่องมีขนาด 95.3 x 52.9 x 21.5 มิลลิ- เมตร ส่วนน้ำหนักถ้ารวมแบตเตอรี่และเมโมรี่การ์ดแล้วจะอยู่ที่ 150 กรัมเท่านั้น ด้านเมโมรี่การ์ดที่ใช้จะเป็น SD/SDHC การ์ด และ MMC (เฉพาะภาพนิ่ง) แถมยังมีหน่วยความจำในตัวอีกถึง 40 MB
เลนส์คุณภาพสูง
แน่นอนครับว่ากล้องในตระกูล Lumix ก็ต้องมาคู่กับเลนส์ Leica อยู่แล้ว สำหรับตัวนี้จะเป็น LEICA DC VARIO-ELMARIT ทางยาวโฟกัส 25–125 มิลลิเมตร (เมื่อเทียบเท่ากล้องฟิล์ม 35 มิลลิเมตร) ออพติคัลซูม 5x แถม ดิจิตอลซูม 4x
ส่วนรู้รับแสงสามารถเปิดกว้างสุดได้ถึง f2.8 สำหรับช่วง wide และกว้างสุด 5.9 เมื่อซูมไปช่วง tele
โหมดสำเร็จรูปให้เลือกมากมาย
กล้องคอมแพ็คมักจะมาพร้อมกับโหมดใช้งานแบบสำเร็จรูปให้เลือกใช้มากมายนะครับ สำหรับ Lumix DMC-FX48 จะเรียกว่าเป็น Scene Mode มีให้เลือกใช้ครอบคลุมตามสถานการณ์หลายรูปแบบ เช่น Portrait Mode, Sunset Mode, Fireworks และอื่นๆ ใช้ง่าย ที่หน้าจอจะแสดงเป็น icon ให้เลือกน่ารักดี
High-Speed Burst Mode
โหมดนี้เป็นอีกฟีเจอร์เด่นของกล้องตัวนี้เลย เอาง่ายๆ ก็คือโหมดที่ถ่ายภาพต่อเนื่องอย่างรวดเร็วนั่นเอง สามารถเลือกได้สองโหมดคือ Speed Priority หรือ Image Priority โดยในโหมดแรก Panasonic เคลมว่าสามารถถ่ายได้สูงสุด 10 เฟรมต่อหนึ่งวินาทีเลยทีเดียว (ว้าว) เอาไปใช้ถ่ายสถานการณ์ที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เช่นพวกภาพกีฬาหรือแข่งรถ ถ่ายเก็บไว้แล้วค่อยมาเลือกภาพที่ลงตัวที่สุดในภายหลัง
Face Recognition
เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า (face detection) ได้รับความนิยมมากในกล้องคอมแพ็คยุคปัจจุบัน
แต่สำหรับ Lumix ตัวนี้ยังมีระบบจดจำใบหน้า (face recognition) เพิ่มเข้ามาด้วย ภาพรวมคือกล้องจะให้ความสำคัญกับบุคคลที่เราได้บันทึกข้อมูลไว้ (Register) ง่ายๆ ก็เพียงถ่ายภาพคนที่เราต้องการและป้อนข้อมูลส่วนตัว เช่นชื่อ อายุ ฯลฯ เก็บเอาไว้ หลังจากนั้นถ้าเราถ่ายภาพคนนั้นซ้ำอีก (ในสถานการณ์อื่น) กล้องก็จะจดจำใบหน้าคนนั้นได้ พร้อมปรับโฟกัส, รูรับแสง, แก้ตาแดงอัตโนมัติ โดยเน้นให้ความสำคัญกับคนดังกล่าวที่เราได้บันทึกข้อมูลไว้เป็นอันดับแรก ส่วนคนอื่นๆ ที่อยู่ในเฟรมก็จะให้ความสำคัญในอันดับที่รองลงไป
ทดลองใช้งาน
สัมผัสแรกที่รู้สึกคือ Lumix DMC-FX48 มีขนาดที่ค่อนข้างเล็กและน้ำหนักเบา ตัวกล้องสามารถพกพาได้สะดวก ใส่กระเป๋าเสื้อหยิบใช้งานได้ง่าย มีสายคล้องข้อมือแถมมาด้วย (ถ้าเปลี่ยนเป็นแบบที่สามารถรูดให้รัดพอดีกับข้อมือก็จะเยี่ยมเลย) ตอนที่เปิดเครื่องขึ้นมาดูจะช้าไปนิดนึง สำหรับปุ่ม On / Off กับปุ่มเลือกโหมด ถ่ายภาพ / ดูภาพ ใช้งานง่ายดีครับ รวมทั้งจัดวางไว้ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งาน ด้านปุ่มช็อตคัตมาตรฐานต่างๆ เช่น Menu / Set, ปุ่มเลือกโหมดการทำงาน Flash, ปุ่มตั้งเวลาถ่าย Self Timer ฯลฯ ก็จัดวางอยู่ที่ด้านขวาเป็นปกติทั่วไป แต่ที่น่าสังเกตคือปุ่มเลือกโหมดการทำงาน (Mode Dial) ที่อยู่ด้านหลังกล้องบริเวณมุมขวาบนดูเหมือนจะจมลงไปในตัวกล้อง ค่อนข้างมิดชิด ซึ่งดีช่วยป้องกันการเผลอไปโดนแล้วปุ่มเลื่อนโดยไม่ได้ตั้งใจ
จอแอลซีดีแสดงผลที่ด้านหลังมีขนาดใหญ่ดีครับ รวมทั้งให้มุมมองในองศาที่กว้าง ไม่ว่าจะเป็นแนวตั้งหรือแนวนอน เวลาถ่ายรูปแล้วแบ่งให้คนอื่นดูได้หลายคนพร้อมกัน ดูง่าย ดีกว่าจอแบบเก่า ที่ดูเฉียงๆ แล้วจะมองไม่เห็นเท่าไหร่ จอแอลซีดีของ Lumix DMC-FX48 สามารถแสดงภาพในพื้นที่แบบ 100% คือเรามองเห็นที่ด้านหลังยังไง ภาพที่ถ่ายออกมาก็จะเป็นอย่างนั้นเลย ซึ่งต่างกับกล้องยกตัวอย่างเช่น DSLR บางรุ่นที่ช่องมองภาพอาจจะแสดงได้เพียง 95% ทำให้เวลามองในช่องมองภาพเห็นได้ไม่ครบ แต่พอถ่ายออกมาแล้วบริเวณขอบภาพจะติดส่วนที่ไม่สามารถมองเห็นในตอนแรกมาด้วย
ที่จอแอลซีดีมีการแสดงผลที่มากมาย หนึ่งในนั้นคือฟีเจอร์ Real-Time Histograms แสดงผลแบบเรียลไทม์น่าสนใจและมีประโยชน์มากทีเดียว ลักษณะจะเป็นกราฟแท่งแสดงค่าช่วยให้เรารู้ว่าภาพที่ถ่ายออกมาจะมีลักษณะแสงเป็นอย่างไร มืดไป สว่างไป หรือกำลังพอดี ถ้ามีเวลาลองศึกษาดูมี
ประโยชน์จริงๆ ครับ
การจัดเรียงเมนูของ Lumix DMC-FX48 เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน ส่วนตัวรู้สึกว่านี่คือแนวทางที่กล้องดิจิตอลควรจะเป็น ต้องใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งหาว่าเมนูตรงนี้อยู่ไหน หรือทำไมหาตรงนั้นหาไม่เจอ เสียเวลาและเสียจังหวะในการถ่ายภาพไป นอกจากนี้ยังมีปุ่ม Q. Menu เป็นช็อตคัตสำหรับเมนูที่เรียกใช้งานเป็นประจำอีกด้วย
Lumix DMC-FX48 มาพร้อมโหมดการทำงานที่ใช้ได้สะดวกจริงๆ โหมด iA (Intelligent Auto) ไม่ต้องคิดอะไรมาก กดถ่ายอย่างเดียวครับโหมดนี้ กล้องจะคำนวณค่าทุกอย่างให้เราเองเลย ที่ลองใช้งานให้ผลลัพธ์ที่ดีมาก เหมาะกับสถานการณ์ที่ต้องการความรวดเร็วในการงาน โหมดนี้วัดแสงได้เยี่ยมมาก ด้านโหมด NormalPicture ใช้งานได้ยืดหยุ่น สามารถตั้งการชดเชยแสง (Exposure Compensation) ตามที่เราต้องการเพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์ เช่นอยากถ่ายให้ภาพออกอารมณ์มืดนิดนึง (Low Key) หรืออยากถ่ายให้สว่างเป็นพิเศษ (High Key) ก็ทำได้ดีกับโหมดนี้
รวมทั้งโหมด Scene ก็มีโปรแกรมสำเร็จรูปให้เลือกสะดวกมากมาย ที่ชอบมากเลยก็คือโปรแกรม Film Grain ชอบภาพที่ถ่ายออกมาจะเป็นขาวดำที่มีคอนทราสต์จัดมาก แล้วก็จะเป็นจุดๆ คล้ายเกรนของฟิล์มขาวดำสมัยก่อน สวยดีทีเดียว หรืออย่างโหมด Panorama Assist ก็ถ่ายสนุกดีครับ ช่วยให้ถ่ายภาพพาโนรามาได้ง่ายขึ้น โดยจะแสดงภาพที่เราถ่ายไปก่อนซ้อนลางๆ ขึ้นมาช่วยไกด์เพื่อที่เวลาเอาภาพไปต่อกันในคอมพิวเตอร์จะได้ซ้อนกันเป็นภาพใหญ่ได้อย่างพอดี
โหมด Hi-Speed Burst นี่สุดยอดมาก ที่ Panasonic เคลมเอาไว้ว่าสามารถถ่ายได้สูงสุด 10 เฟรมต่อวินาที แต่รู้สึกผมจะกดถ่ายเกิน 10 ตลอด มันส์มาก ถ่ายเสร็จแล้วเอามาดู อารมณ์เหมือนหนังที่ใช้เทคนิค Stop Motion เลยครับ
ฟังก์ชัน Clipboard ก็เป็นอีกหนึ่งความสามารถที่มีประโยชน์จริง เหมาะกับการถ่ายพวกแผนที่เก็บไว้ในกล้อง แล้วเราก็พกกล้องไปอย่างเดียวไม่ต้องพกแผนที่ไปด้วย เวลาใช้งานก็แค่เลือกปุ่ม Mode Dial ไปที่โหมด Clipboard แล้วก็กดชัตเตอร์ถ่ายเหมือนปกติ หลังจากที่ถ่ายแล้วเราก็สามารถตั้งค่า Zoom Mark เพื่อกำหนดการซูมขยายไปยังบริเวณเฉพาะส่วนของภาพตามที่ต้องการ
ที่มา http://hitech.sanook.com/panasonic-lumix-dmc-fx48-handy-and-funny-camera-839663.html
หลังจากคราวที่ได้รีวิว Lumix DMC-LX3 ไปไม่นานนี้ โชคดีได้ Lumix มาทดลองใช้งานอีกแล้วครับ คราวนี้เป็นรุ่น DMC-FX48 ซึ่งก็เป็นหนึ่งในกล้องในตระกูล Lumix ของ Panasonic มีเอกลักษณ์ของตัวเองที่ชัดเจน ตัวเครื่องของ Lumix DMC-FX48 มีให้เลือกหลายสีครับ ไม่ว่าจะเป็น สีเงิน, สีดำ, สีทอง, สีแดง, สีชมพู และสีขาว ตัวที่ได้รับมาทดลองใช้งานครั้งนี้เป็นสีดำด้าน ดูภูมิฐานดีครับ ตรงกระบอกเลนส์เป็นสีเงินที่ตัดกันอย่างลงตัวให้ความรู้สึกที่ High-End เหมือนกัน
Lumix DMC-FX48 ใช้เซ็นเซอร์แบบ CCD ให้ความละเอียด 12.1 ล้านพิกเซล สามารถเลือกตั้ง aspect ratio ได้ไม่ว่าจะเป็น 4:3, 3:2 หรือ 16:9 สำหรับค่าความไวแสง ISO จะอยู่ที่ระหว่าง 80-1600 จอแอลซีดี TFT ที่ด้านหลังของตัวกล้องขนาด 2.5 นิ้วแสดงผลได้ที่ 230,000 dots สามารถตรวจวัดพร้อมปรับความสว่างให้เหมาะสมกับสภาพแสงโดยรอบอัตโนมัติ ได้ถึง 11 ระดับ boost ความสว่างได้สูงสุดถึง 40% และให้มุมมองของจอในองศาที่ชมได้กว้างมากขึ้นทั้งในแนวตั้งและแนวนอน
ตัวเครื่องมีขนาด 95.3 x 52.9 x 21.5 มิลลิ- เมตร ส่วนน้ำหนักถ้ารวมแบตเตอรี่และเมโมรี่การ์ดแล้วจะอยู่ที่ 150 กรัมเท่านั้น ด้านเมโมรี่การ์ดที่ใช้จะเป็น SD/SDHC การ์ด และ MMC (เฉพาะภาพนิ่ง) แถมยังมีหน่วยความจำในตัวอีกถึง 40 MB
เลนส์คุณภาพสูง
แน่นอนครับว่ากล้องในตระกูล Lumix ก็ต้องมาคู่กับเลนส์ Leica อยู่แล้ว สำหรับตัวนี้จะเป็น LEICA DC VARIO-ELMARIT ทางยาวโฟกัส 25–125 มิลลิเมตร (เมื่อเทียบเท่ากล้องฟิล์ม 35 มิลลิเมตร) ออพติคัลซูม 5x แถม ดิจิตอลซูม 4x
ส่วนรู้รับแสงสามารถเปิดกว้างสุดได้ถึง f2.8 สำหรับช่วง wide และกว้างสุด 5.9 เมื่อซูมไปช่วง tele
โหมดสำเร็จรูปให้เลือกมากมาย
กล้องคอมแพ็คมักจะมาพร้อมกับโหมดใช้งานแบบสำเร็จรูปให้เลือกใช้มากมายนะครับ สำหรับ Lumix DMC-FX48 จะเรียกว่าเป็น Scene Mode มีให้เลือกใช้ครอบคลุมตามสถานการณ์หลายรูปแบบ เช่น Portrait Mode, Sunset Mode, Fireworks และอื่นๆ ใช้ง่าย ที่หน้าจอจะแสดงเป็น icon ให้เลือกน่ารักดี
High-Speed Burst Mode
โหมดนี้เป็นอีกฟีเจอร์เด่นของกล้องตัวนี้เลย เอาง่ายๆ ก็คือโหมดที่ถ่ายภาพต่อเนื่องอย่างรวดเร็วนั่นเอง สามารถเลือกได้สองโหมดคือ Speed Priority หรือ Image Priority โดยในโหมดแรก Panasonic เคลมว่าสามารถถ่ายได้สูงสุด 10 เฟรมต่อหนึ่งวินาทีเลยทีเดียว (ว้าว) เอาไปใช้ถ่ายสถานการณ์ที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เช่นพวกภาพกีฬาหรือแข่งรถ ถ่ายเก็บไว้แล้วค่อยมาเลือกภาพที่ลงตัวที่สุดในภายหลัง
Face Recognition
เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า (face detection) ได้รับความนิยมมากในกล้องคอมแพ็คยุคปัจจุบัน
แต่สำหรับ Lumix ตัวนี้ยังมีระบบจดจำใบหน้า (face recognition) เพิ่มเข้ามาด้วย ภาพรวมคือกล้องจะให้ความสำคัญกับบุคคลที่เราได้บันทึกข้อมูลไว้ (Register) ง่ายๆ ก็เพียงถ่ายภาพคนที่เราต้องการและป้อนข้อมูลส่วนตัว เช่นชื่อ อายุ ฯลฯ เก็บเอาไว้ หลังจากนั้นถ้าเราถ่ายภาพคนนั้นซ้ำอีก (ในสถานการณ์อื่น) กล้องก็จะจดจำใบหน้าคนนั้นได้ พร้อมปรับโฟกัส, รูรับแสง, แก้ตาแดงอัตโนมัติ โดยเน้นให้ความสำคัญกับคนดังกล่าวที่เราได้บันทึกข้อมูลไว้เป็นอันดับแรก ส่วนคนอื่นๆ ที่อยู่ในเฟรมก็จะให้ความสำคัญในอันดับที่รองลงไป
ทดลองใช้งาน
สัมผัสแรกที่รู้สึกคือ Lumix DMC-FX48 มีขนาดที่ค่อนข้างเล็กและน้ำหนักเบา ตัวกล้องสามารถพกพาได้สะดวก ใส่กระเป๋าเสื้อหยิบใช้งานได้ง่าย มีสายคล้องข้อมือแถมมาด้วย (ถ้าเปลี่ยนเป็นแบบที่สามารถรูดให้รัดพอดีกับข้อมือก็จะเยี่ยมเลย) ตอนที่เปิดเครื่องขึ้นมาดูจะช้าไปนิดนึง สำหรับปุ่ม On / Off กับปุ่มเลือกโหมด ถ่ายภาพ / ดูภาพ ใช้งานง่ายดีครับ รวมทั้งจัดวางไว้ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งาน ด้านปุ่มช็อตคัตมาตรฐานต่างๆ เช่น Menu / Set, ปุ่มเลือกโหมดการทำงาน Flash, ปุ่มตั้งเวลาถ่าย Self Timer ฯลฯ ก็จัดวางอยู่ที่ด้านขวาเป็นปกติทั่วไป แต่ที่น่าสังเกตคือปุ่มเลือกโหมดการทำงาน (Mode Dial) ที่อยู่ด้านหลังกล้องบริเวณมุมขวาบนดูเหมือนจะจมลงไปในตัวกล้อง ค่อนข้างมิดชิด ซึ่งดีช่วยป้องกันการเผลอไปโดนแล้วปุ่มเลื่อนโดยไม่ได้ตั้งใจ
จอแอลซีดีแสดงผลที่ด้านหลังมีขนาดใหญ่ดีครับ รวมทั้งให้มุมมองในองศาที่กว้าง ไม่ว่าจะเป็นแนวตั้งหรือแนวนอน เวลาถ่ายรูปแล้วแบ่งให้คนอื่นดูได้หลายคนพร้อมกัน ดูง่าย ดีกว่าจอแบบเก่า ที่ดูเฉียงๆ แล้วจะมองไม่เห็นเท่าไหร่ จอแอลซีดีของ Lumix DMC-FX48 สามารถแสดงภาพในพื้นที่แบบ 100% คือเรามองเห็นที่ด้านหลังยังไง ภาพที่ถ่ายออกมาก็จะเป็นอย่างนั้นเลย ซึ่งต่างกับกล้องยกตัวอย่างเช่น DSLR บางรุ่นที่ช่องมองภาพอาจจะแสดงได้เพียง 95% ทำให้เวลามองในช่องมองภาพเห็นได้ไม่ครบ แต่พอถ่ายออกมาแล้วบริเวณขอบภาพจะติดส่วนที่ไม่สามารถมองเห็นในตอนแรกมาด้วย
ที่จอแอลซีดีมีการแสดงผลที่มากมาย หนึ่งในนั้นคือฟีเจอร์ Real-Time Histograms แสดงผลแบบเรียลไทม์น่าสนใจและมีประโยชน์มากทีเดียว ลักษณะจะเป็นกราฟแท่งแสดงค่าช่วยให้เรารู้ว่าภาพที่ถ่ายออกมาจะมีลักษณะแสงเป็นอย่างไร มืดไป สว่างไป หรือกำลังพอดี ถ้ามีเวลาลองศึกษาดูมี
ประโยชน์จริงๆ ครับ
การจัดเรียงเมนูของ Lumix DMC-FX48 เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน ส่วนตัวรู้สึกว่านี่คือแนวทางที่กล้องดิจิตอลควรจะเป็น ต้องใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งหาว่าเมนูตรงนี้อยู่ไหน หรือทำไมหาตรงนั้นหาไม่เจอ เสียเวลาและเสียจังหวะในการถ่ายภาพไป นอกจากนี้ยังมีปุ่ม Q. Menu เป็นช็อตคัตสำหรับเมนูที่เรียกใช้งานเป็นประจำอีกด้วย
Lumix DMC-FX48 มาพร้อมโหมดการทำงานที่ใช้ได้สะดวกจริงๆ โหมด iA (Intelligent Auto) ไม่ต้องคิดอะไรมาก กดถ่ายอย่างเดียวครับโหมดนี้ กล้องจะคำนวณค่าทุกอย่างให้เราเองเลย ที่ลองใช้งานให้ผลลัพธ์ที่ดีมาก เหมาะกับสถานการณ์ที่ต้องการความรวดเร็วในการงาน โหมดนี้วัดแสงได้เยี่ยมมาก ด้านโหมด NormalPicture ใช้งานได้ยืดหยุ่น สามารถตั้งการชดเชยแสง (Exposure Compensation) ตามที่เราต้องการเพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์ เช่นอยากถ่ายให้ภาพออกอารมณ์มืดนิดนึง (Low Key) หรืออยากถ่ายให้สว่างเป็นพิเศษ (High Key) ก็ทำได้ดีกับโหมดนี้
รวมทั้งโหมด Scene ก็มีโปรแกรมสำเร็จรูปให้เลือกสะดวกมากมาย ที่ชอบมากเลยก็คือโปรแกรม Film Grain ชอบภาพที่ถ่ายออกมาจะเป็นขาวดำที่มีคอนทราสต์จัดมาก แล้วก็จะเป็นจุดๆ คล้ายเกรนของฟิล์มขาวดำสมัยก่อน สวยดีทีเดียว หรืออย่างโหมด Panorama Assist ก็ถ่ายสนุกดีครับ ช่วยให้ถ่ายภาพพาโนรามาได้ง่ายขึ้น โดยจะแสดงภาพที่เราถ่ายไปก่อนซ้อนลางๆ ขึ้นมาช่วยไกด์เพื่อที่เวลาเอาภาพไปต่อกันในคอมพิวเตอร์จะได้ซ้อนกันเป็นภาพใหญ่ได้อย่างพอดี
โหมด Hi-Speed Burst นี่สุดยอดมาก ที่ Panasonic เคลมเอาไว้ว่าสามารถถ่ายได้สูงสุด 10 เฟรมต่อวินาที แต่รู้สึกผมจะกดถ่ายเกิน 10 ตลอด มันส์มาก ถ่ายเสร็จแล้วเอามาดู อารมณ์เหมือนหนังที่ใช้เทคนิค Stop Motion เลยครับ
ฟังก์ชัน Clipboard ก็เป็นอีกหนึ่งความสามารถที่มีประโยชน์จริง เหมาะกับการถ่ายพวกแผนที่เก็บไว้ในกล้อง แล้วเราก็พกกล้องไปอย่างเดียวไม่ต้องพกแผนที่ไปด้วย เวลาใช้งานก็แค่เลือกปุ่ม Mode Dial ไปที่โหมด Clipboard แล้วก็กดชัตเตอร์ถ่ายเหมือนปกติ หลังจากที่ถ่ายแล้วเราก็สามารถตั้งค่า Zoom Mark เพื่อกำหนดการซูมขยายไปยังบริเวณเฉพาะส่วนของภาพตามที่ต้องการ
ที่มา http://hitech.sanook.com/panasonic-lumix-dmc-fx48-handy-and-funny-camera-839663.html
Nikon D5000
Nikon D5000
กล้อง Nikon D5000 เป็นกล้องที่มีน้ำนักเบาสามารถใช้งานได้ง่าย โดยถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายและเด็กก็สามารถใช้งานได้ จึงเป็นคุณสมบัติที่แตกต่าง ด้วยความละเอียดถึง 12.3 ล้านพิเซล
Nikon D5000 เป็นกล้องแบบ Single-lens reflex digital camera มีความละเอียด 12.3 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ Nikon DX format (23.6 x 15.8 มม.) CMOS sensor รองรับ ขนาดภาพ 4,288 x 2,848 [L], 3,216 x 2,136 [M], 2,144 x 1,424 [S] พิกเซล สามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้ (D-movie) 1280 x 720 / 24fps, 640 x 480 / 24fps, 320 x 240 / 24fps
Nikon D5000 มีความไวแสง ISO 200 ถึง 3,200 ครังละ 1/3 EV, plus HI-0.3, HI-0.7, HI-1 (ISO 6400); LO-0.3, LO-0.7 and LO-1 (ISO 100)Nikon D5000
Nikon D5000 รองรับฟอร์แมทไฟล์แบบ NEF (12 bit compressed RAW); JPEG (Baseline-compliant); AVI movie (Motion JPEG compression format with monaural sound) ใช้เมมโมรี่การ์ดแบบ SD memory card (รองรับ SDHC ด้วย)Nikon D5000
Nikon D5000 ใช้ระบบบันทึกภาพแบบ
1) Single frame
2) Continuous
3) Self-timer
4) Delayed remote
5) Quick-response remote
6) Silent shooting
7) D-Movie
Nikon D5000
Nikon D5000 สามารถปรับ White Balance ได้แบบ Auto (hybrid control with image sensor and 420-segment RGB sensor) 12 manual modes, 31 color temperature settings, รวมถึงการปรับแบบแมนนวล, fine tuning, white-balance bracketing
Nikon D5000 มีขนาดหน้าจอ LCD 2.7 นิ้ว ให้ความละเอียด 230,000 พิกเซล เป็นจอแบบ low-temperature polysilicon TFT vari-angle LCD
Nikon D5000 มาพร้อมฟังก์ชั่นการแสดงภาพ
1) Full-frame
2) Thumbnail (4/9/72, calendar)
3) playback zoom
4) RGB histogram display
5) RGB histogram for portion of the image visible in the monitor with playback zoom
6) Slide show
7) Movie playback
8) stop-motion movies
Nikon D5000 มีการเชื่อมต่อ NTSC หรือ PAL (สามารถเลือกได้), HDMI Type C connector, มีพอร์ต USB 2.0 (High-speed): MTP/PT, GP-1 (GPS Unit)
Nikon D5000
Nikon D5000 มีช่องมองภาพแบบออฟติคอล โดยเป็นช่องมองภาพแบบ Eye-level penta-Dach mirror type พร้อมกับการปรับ diopter ได้ (-1.7 ถึง +0.5m-1) ครอบคลุมการเห็นภาพในช่องมองประมาณ 95%
Nikon D5000 มีระบบออโต้โฟกัสแบบ TTL phase detection โดยใช้ Nikon Multi-CAM 1000 autofocus module with AF-assist (range approx. 0.5-3m/1ft 8 in. - 9ft 10 in.); Detection range: -1 to +19 EV (ISO 100 at (ISO 100 at 20?C/68?F)
Nikon D5000 มีโหมดโฟกัส
1) Autofocus (AF): Single-servo AF (AF-S); Continuous servo AF (AF-C); Auto AF-S/AF-C selection (AF-A)
2) Manual focus (MF) สามารถเลือกได้ 3 โฟกัส
Nikon D5000 มีระบบวัดแสงแบบ
1) Scene-recognition system compatible 3D color matrix metering (สำหรับเลนส์ชนิด G และ D), color matrix metering II (สำหรับเลนส์แบบอื่นๆ)
2) Center-weighted (กินพื้นที่ 8 มม.จากส่วนของกึ่งกลางภาพ)
3) spot metering (กินพื้นที่ 3.5 มม. ของส่วนโฟกัสที่เลือก)
Nikon D5000 มีช่วงการวัดแสง 1) 0 ถึง 20 EV (ระบบ 3D-Color Matrix หรือ Center-weighted metering), 2) 2 ถึง 20 EV (ระบบ Spot metering)
Nikon D5000 มีระบบบันทึกภาพ
1) Digital Vari-Program (Auto, Auto [Flash Off], Portrait, Landscape, Child, Sports, Close Up, Night Portrait)
2) Programmed Auto [P]
3) Shutter-Priority Auto [S]
4) Aperture Priority Auto [A]
5) Manual [M]
6) Scene modes สามารถเลือกทำงานได้แบบ Night landscape, Party/Indoor, Beach/Snow, Sunset, Dusk/Dawn, Pet portrait, Candlelight, Blossom, Autumn colors, Food, Sihouette, High key, Low key
Nikon D5000 สามารถถ่ายภาพคร่อมอัตโนมัติได้ 3 ภาพ โดยปรับค่าได้ระหว่าง 2.0 - +2.0 (ครั้งล่ะ 1/2 หรือ 1/3 EV) มีความไวชัตเตอร์เร็วสุดที่ 1/4000 วินาที มีความไวชัตเตอร์ช้าสุดที่ 30 วินาที
Nikon D5000 มีระบบชัตเตอร์แบบ Electronically controlled vertical-travel focal plane shutter, 30 ถึง 1/4000 วินาที สามารถปรับได้ 1/3 EV พร้อมโหมด bulb
Nikon D5000 มีช่องซิงค์แฟลชนอกแบบ X-contact ทำงานที่ 1/200 วินาที มีการควบคุมแฟลชแบบ i-TTL flash control โดยใช้เซอร์ RGB 420 ส่วน, i-TTL balanced fill-flash สำหรับ digital SLR, standard i-TTL flash สำหรับ digital SLR มีโหมดซิงค์แฟลช 4 แบบ คือ 1) Front-curtain sync, 2) Red-eye reduction, 3) Slow sync with red-eye reduction, 4) Slow sync, rear-curtain sync
Nikon D5000 สามารถถ่ายภาพแบบหน่วงเวลาได้ระหว่าง 2, 5, 10 or 20 วินาที มีรีโมทคอนโทรล Wireless Remote Control ML-L3 (optional) มี GPS แบบ GP-1 GPS Unit (optional)
Nikon D5000 มีเมนูภาษาให้เลือกถึง 17 ภาษา คือ German, English, Spanish, Finnish, French, Italian, Dutch, Polish, Portuguese, Russian, Swedish, Traditional Chinese, Simplified Chinese, Japanese, Korean, Danish, Norwegian เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่มีภาษาไทย
Nikon D5000 ใช้แหล่งพลังงานแบบ Rechargeable EN-EL9a Li-ion, EH-5a AC adapter มีระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ประมาณ 510 ภาพ
Nikon D5000 มีขนาด 127 x 104 x 80 มม. น้ำหนัก (ไม่รวมแบตเตอรี่) ประมาณ 560 กรัม
Nikon D5000 คุณลักษณะอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกก็คือ ตัวจอ LCD สามารถพับปิด-เปิดได้ 0-180 องศา และหมุนได้ -90-180 องศา มาพร้อมระบบ Dust Reductions System, Graphic User Interface, Live view (with face-priority AF), D-Movie
ที่มา http://hitech.sanook.com/nikon-d5000-844082.html
กล้อง Nikon D5000 เป็นกล้องที่มีน้ำนักเบาสามารถใช้งานได้ง่าย โดยถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายและเด็กก็สามารถใช้งานได้ จึงเป็นคุณสมบัติที่แตกต่าง ด้วยความละเอียดถึง 12.3 ล้านพิเซล
Nikon D5000 เป็นกล้องแบบ Single-lens reflex digital camera มีความละเอียด 12.3 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ Nikon DX format (23.6 x 15.8 มม.) CMOS sensor รองรับ ขนาดภาพ 4,288 x 2,848 [L], 3,216 x 2,136 [M], 2,144 x 1,424 [S] พิกเซล สามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้ (D-movie) 1280 x 720 / 24fps, 640 x 480 / 24fps, 320 x 240 / 24fps
Nikon D5000 มีความไวแสง ISO 200 ถึง 3,200 ครังละ 1/3 EV, plus HI-0.3, HI-0.7, HI-1 (ISO 6400); LO-0.3, LO-0.7 and LO-1 (ISO 100)Nikon D5000
Nikon D5000 รองรับฟอร์แมทไฟล์แบบ NEF (12 bit compressed RAW); JPEG (Baseline-compliant); AVI movie (Motion JPEG compression format with monaural sound) ใช้เมมโมรี่การ์ดแบบ SD memory card (รองรับ SDHC ด้วย)Nikon D5000
Nikon D5000 ใช้ระบบบันทึกภาพแบบ
1) Single frame
2) Continuous
3) Self-timer
4) Delayed remote
5) Quick-response remote
6) Silent shooting
7) D-Movie
Nikon D5000
Nikon D5000 สามารถปรับ White Balance ได้แบบ Auto (hybrid control with image sensor and 420-segment RGB sensor) 12 manual modes, 31 color temperature settings, รวมถึงการปรับแบบแมนนวล, fine tuning, white-balance bracketing
Nikon D5000 มีขนาดหน้าจอ LCD 2.7 นิ้ว ให้ความละเอียด 230,000 พิกเซล เป็นจอแบบ low-temperature polysilicon TFT vari-angle LCD
Nikon D5000 มาพร้อมฟังก์ชั่นการแสดงภาพ
1) Full-frame
2) Thumbnail (4/9/72, calendar)
3) playback zoom
4) RGB histogram display
5) RGB histogram for portion of the image visible in the monitor with playback zoom
6) Slide show
7) Movie playback
8) stop-motion movies
Nikon D5000 มีการเชื่อมต่อ NTSC หรือ PAL (สามารถเลือกได้), HDMI Type C connector, มีพอร์ต USB 2.0 (High-speed): MTP/PT, GP-1 (GPS Unit)
Nikon D5000
Nikon D5000 มีช่องมองภาพแบบออฟติคอล โดยเป็นช่องมองภาพแบบ Eye-level penta-Dach mirror type พร้อมกับการปรับ diopter ได้ (-1.7 ถึง +0.5m-1) ครอบคลุมการเห็นภาพในช่องมองประมาณ 95%
Nikon D5000 มีระบบออโต้โฟกัสแบบ TTL phase detection โดยใช้ Nikon Multi-CAM 1000 autofocus module with AF-assist (range approx. 0.5-3m/1ft 8 in. - 9ft 10 in.); Detection range: -1 to +19 EV (ISO 100 at (ISO 100 at 20?C/68?F)
Nikon D5000 มีโหมดโฟกัส
1) Autofocus (AF): Single-servo AF (AF-S); Continuous servo AF (AF-C); Auto AF-S/AF-C selection (AF-A)
2) Manual focus (MF) สามารถเลือกได้ 3 โฟกัส
Nikon D5000 มีระบบวัดแสงแบบ
1) Scene-recognition system compatible 3D color matrix metering (สำหรับเลนส์ชนิด G และ D), color matrix metering II (สำหรับเลนส์แบบอื่นๆ)
2) Center-weighted (กินพื้นที่ 8 มม.จากส่วนของกึ่งกลางภาพ)
3) spot metering (กินพื้นที่ 3.5 มม. ของส่วนโฟกัสที่เลือก)
Nikon D5000 มีช่วงการวัดแสง 1) 0 ถึง 20 EV (ระบบ 3D-Color Matrix หรือ Center-weighted metering), 2) 2 ถึง 20 EV (ระบบ Spot metering)
Nikon D5000 มีระบบบันทึกภาพ
1) Digital Vari-Program (Auto, Auto [Flash Off], Portrait, Landscape, Child, Sports, Close Up, Night Portrait)
2) Programmed Auto [P]
3) Shutter-Priority Auto [S]
4) Aperture Priority Auto [A]
5) Manual [M]
6) Scene modes สามารถเลือกทำงานได้แบบ Night landscape, Party/Indoor, Beach/Snow, Sunset, Dusk/Dawn, Pet portrait, Candlelight, Blossom, Autumn colors, Food, Sihouette, High key, Low key
Nikon D5000 สามารถถ่ายภาพคร่อมอัตโนมัติได้ 3 ภาพ โดยปรับค่าได้ระหว่าง 2.0 - +2.0 (ครั้งล่ะ 1/2 หรือ 1/3 EV) มีความไวชัตเตอร์เร็วสุดที่ 1/4000 วินาที มีความไวชัตเตอร์ช้าสุดที่ 30 วินาที
Nikon D5000 มีระบบชัตเตอร์แบบ Electronically controlled vertical-travel focal plane shutter, 30 ถึง 1/4000 วินาที สามารถปรับได้ 1/3 EV พร้อมโหมด bulb
Nikon D5000 มีช่องซิงค์แฟลชนอกแบบ X-contact ทำงานที่ 1/200 วินาที มีการควบคุมแฟลชแบบ i-TTL flash control โดยใช้เซอร์ RGB 420 ส่วน, i-TTL balanced fill-flash สำหรับ digital SLR, standard i-TTL flash สำหรับ digital SLR มีโหมดซิงค์แฟลช 4 แบบ คือ 1) Front-curtain sync, 2) Red-eye reduction, 3) Slow sync with red-eye reduction, 4) Slow sync, rear-curtain sync
Nikon D5000 สามารถถ่ายภาพแบบหน่วงเวลาได้ระหว่าง 2, 5, 10 or 20 วินาที มีรีโมทคอนโทรล Wireless Remote Control ML-L3 (optional) มี GPS แบบ GP-1 GPS Unit (optional)
Nikon D5000 มีเมนูภาษาให้เลือกถึง 17 ภาษา คือ German, English, Spanish, Finnish, French, Italian, Dutch, Polish, Portuguese, Russian, Swedish, Traditional Chinese, Simplified Chinese, Japanese, Korean, Danish, Norwegian เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่มีภาษาไทย
Nikon D5000 ใช้แหล่งพลังงานแบบ Rechargeable EN-EL9a Li-ion, EH-5a AC adapter มีระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ประมาณ 510 ภาพ
Nikon D5000 มีขนาด 127 x 104 x 80 มม. น้ำหนัก (ไม่รวมแบตเตอรี่) ประมาณ 560 กรัม
Nikon D5000 คุณลักษณะอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกก็คือ ตัวจอ LCD สามารถพับปิด-เปิดได้ 0-180 องศา และหมุนได้ -90-180 องศา มาพร้อมระบบ Dust Reductions System, Graphic User Interface, Live view (with face-priority AF), D-Movie
ที่มา http://hitech.sanook.com/nikon-d5000-844082.html
Sony A380 ตัวกล้องดิจิตอล SLR ใหม่ล่าสุด
Sony A380 ตัวกล้องดิจิตอล SLR ใหม่ล่าสุด
โซนี่ เปิดตัวกล้องดิจิตอล SLR ใหม่ ใช้ชื่อรุ่นว่า A380 ตัวกล้องมีความละเอียด 14.2 ล้านพิกเซล ตัวบอดี้ได้รับการออกแบบใหม่และมีประสิทธิภาพการทำงานที่รองรับการใช้งานตั้งแต่มือสมัครเล่นไปจนถึงระดับมืออาชีพ โดยมีจุดที่โดดเด่นคือ จอมอนิเตอร์ที่ปรับระดับได้ ช่วยให้ถ่ายภาพในมุมมองที่แตกต่างได้สะดวกมากขึ้น ระบบป้องกันการสั่นไหว SteadyShot ที่ช่วยให้ถ่ายภาพโดยไม่ใช้แฟลชและขาตั้งกล้องที่ความเร็วชัตเตอร์ต่ำกว่าปกติ และฟังก์ชั่น D-Range Optimizer ช่วยเพิ่มรายละเอียดในส่วนมืด ทำให้ภาพมีความสมบูรณ์มากขึ้น
โซนี่ A380 ใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ CCD ขนาด APS-C 23.5 x 15.7 มม. ใช้หน่วยประมวลผล BIONZ ซึ่งมีประสิทธิภาพการทำงานสูง มีการทำงานที่รวดเร็ว และเก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน โหมดถ่ายภาพมีให้เลือกใช้งานได้ครอบคลุมทั้งระดับมือใหม่ เช่น โหมดออโต้ และโหมดโปรแกรมสำเร็จรูป 7 แบบ ซึ่งกล้องจะคำนวณทุกอย่างให้โดยอัตโนมัติ หรือโหมดสำหรับมืออาชีพที่มีความชำนาญในการใช้กล้องมากขึ้น เช่น โหมด Program (P) โหมดออโต้รูรับแสง (S) โหมดออโต้ความเร็วชัตเตอร์ (A) และโหมดแมนนวล (M)โหมด Live View ได้รับการพัฒนาระบบโฟกัสให้รวดเร็วด้วยเทคโนโลยี Quick AF Live View ซึ่งผู้ใช้สามารถมองภาพผ่านจอมอนิเตอร์ได้ตลอดเวลา ทำให้ไม่มีปัญหาช่องมองภาพมืดเมื่อทำการโฟกัสภาพ นอกจากนี้ยังสามารถโฟกัสติดตามวัตถุแบบต่อเนื่องอัตโนมัติได้ตลอด ฟังก์ชั่น D-Range Optimizer ช่วยเพิ่มไดนามิกเรนจ์ของกล้องให้กว้างขึ้น ซึ่งทำให้เก็บรายละเอียดของภาพได้อย่างครบถ้วน โดยฟังก์ชั่นนี้จะช่วยปรับเพิ่มความสว่างในโทนมืด แต่ยังคงรายละเอียดไว้ ทำให้ได้ภาพที่มีการไล่โทนอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับภาพถ่ายที่มีความเปรียบต่างของภาพมาก ฟังก์ชั่นที่โดดเด่นของโซนี่ A380 คือระบบป้องกันภาพสั่นไหว SteadyShot ซึ่งเป็นระบบที่มีใช้งานในกล้องโซนี่ทุกรุ่น ช่วยให้ถ่ายภาพได้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำกว่าปกติ 2.5-4 สตอป โดยระบบ SteadyShot สามารถใช้งานได้กับเลนส์ตระกูล Alpha เลนส์ KonicaMinolta และเลนส์ Carl Zeiss ได้ทุกรุ่น นอกจากนี้ โซนี่ A380 ยังมีโหมดสำหรับสร้างสรรค์ภาพแบบต่างๆ ได้ด้วย Creative Style ซึ่งสามารถปรับแต่งรูปแบบของภาพได้ตามลักษณะของภาพที่ต้องการ เช่น Standard, Vivid, Portrait, Landscape, Night view, Sunset และ Black & White ซึ่งในแต่ละแบบยังสามารถปรับเพิ่มหรือลดคอนทราสต์ ความคมชัด และความอิ่มตัวของสีสันได้อีก +/- 3 ขั้นด้านไวท์บาลานซ์สามารถปรับเลือกการทำงานได้แบบออโต้ หรือปรับเลือกตามสภาพแสงได้ 7 แบบ คือ Daylight, Shade, Cloudy, Tungsten, Fluorescent, Flash โดยสามารถปรับแบบละเอียดได้อีก +/-3 ขั้น นอกจากนี้ ยังตั้งแบบ Preset ได้อีก และเมื่อปรับไวท์บาลานซ์ในขณะที่ใช้ Live View กล้องจะพรีวิวภาพให้เห็นผลของการปรับไวท์บาลานซ์แบบต่างๆ และเมื่อปรับวัดแสง Over หรือ Under กล้องก็จะแสดงผลให้เห็น ซึ่งสะดวกในการใช้งานและลดความผิดพลาดลงไปได้มากเช่นกัน ตัวบอดี้ของโซนี่ A380 ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด กริปมือจับด้านหน้าหุ้มยางกันลื่นและออกแบบให้ยาวนูนออกมาพอสมควร ช่วยให้จับกล้องได้อย่างกระชับมั่นคงขึ้น เหนือกริปขึ้นไปเล็กน้อยเป็นแป้น Control Dial ซึ่งเป็นแป้นหลักสำหรับปรับควบคุมการทำงานของกล้อง และใช้ปรับความเร็วชัตเตอร์หรือรูรับแสง ซึ่งเมื่อถ่ายภาพในโหมดแมนนวล หรือโหมด M การปรับขนาดรูรับแสง จะต้องกดปุ่มชดเชยแสง (+/-) ซึ่งอยู่เยื้องๆ ไฟด้านหลังกล้องค้างไว้ด้วย
ที่มา http://hitech.sanook.com/
โซนี่ เปิดตัวกล้องดิจิตอล SLR ใหม่ ใช้ชื่อรุ่นว่า A380 ตัวกล้องมีความละเอียด 14.2 ล้านพิกเซล ตัวบอดี้ได้รับการออกแบบใหม่และมีประสิทธิภาพการทำงานที่รองรับการใช้งานตั้งแต่มือสมัครเล่นไปจนถึงระดับมืออาชีพ โดยมีจุดที่โดดเด่นคือ จอมอนิเตอร์ที่ปรับระดับได้ ช่วยให้ถ่ายภาพในมุมมองที่แตกต่างได้สะดวกมากขึ้น ระบบป้องกันการสั่นไหว SteadyShot ที่ช่วยให้ถ่ายภาพโดยไม่ใช้แฟลชและขาตั้งกล้องที่ความเร็วชัตเตอร์ต่ำกว่าปกติ และฟังก์ชั่น D-Range Optimizer ช่วยเพิ่มรายละเอียดในส่วนมืด ทำให้ภาพมีความสมบูรณ์มากขึ้น
โซนี่ A380 ใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ CCD ขนาด APS-C 23.5 x 15.7 มม. ใช้หน่วยประมวลผล BIONZ ซึ่งมีประสิทธิภาพการทำงานสูง มีการทำงานที่รวดเร็ว และเก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน โหมดถ่ายภาพมีให้เลือกใช้งานได้ครอบคลุมทั้งระดับมือใหม่ เช่น โหมดออโต้ และโหมดโปรแกรมสำเร็จรูป 7 แบบ ซึ่งกล้องจะคำนวณทุกอย่างให้โดยอัตโนมัติ หรือโหมดสำหรับมืออาชีพที่มีความชำนาญในการใช้กล้องมากขึ้น เช่น โหมด Program (P) โหมดออโต้รูรับแสง (S) โหมดออโต้ความเร็วชัตเตอร์ (A) และโหมดแมนนวล (M)โหมด Live View ได้รับการพัฒนาระบบโฟกัสให้รวดเร็วด้วยเทคโนโลยี Quick AF Live View ซึ่งผู้ใช้สามารถมองภาพผ่านจอมอนิเตอร์ได้ตลอดเวลา ทำให้ไม่มีปัญหาช่องมองภาพมืดเมื่อทำการโฟกัสภาพ นอกจากนี้ยังสามารถโฟกัสติดตามวัตถุแบบต่อเนื่องอัตโนมัติได้ตลอด ฟังก์ชั่น D-Range Optimizer ช่วยเพิ่มไดนามิกเรนจ์ของกล้องให้กว้างขึ้น ซึ่งทำให้เก็บรายละเอียดของภาพได้อย่างครบถ้วน โดยฟังก์ชั่นนี้จะช่วยปรับเพิ่มความสว่างในโทนมืด แต่ยังคงรายละเอียดไว้ ทำให้ได้ภาพที่มีการไล่โทนอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับภาพถ่ายที่มีความเปรียบต่างของภาพมาก ฟังก์ชั่นที่โดดเด่นของโซนี่ A380 คือระบบป้องกันภาพสั่นไหว SteadyShot ซึ่งเป็นระบบที่มีใช้งานในกล้องโซนี่ทุกรุ่น ช่วยให้ถ่ายภาพได้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำกว่าปกติ 2.5-4 สตอป โดยระบบ SteadyShot สามารถใช้งานได้กับเลนส์ตระกูล Alpha เลนส์ KonicaMinolta และเลนส์ Carl Zeiss ได้ทุกรุ่น นอกจากนี้ โซนี่ A380 ยังมีโหมดสำหรับสร้างสรรค์ภาพแบบต่างๆ ได้ด้วย Creative Style ซึ่งสามารถปรับแต่งรูปแบบของภาพได้ตามลักษณะของภาพที่ต้องการ เช่น Standard, Vivid, Portrait, Landscape, Night view, Sunset และ Black & White ซึ่งในแต่ละแบบยังสามารถปรับเพิ่มหรือลดคอนทราสต์ ความคมชัด และความอิ่มตัวของสีสันได้อีก +/- 3 ขั้นด้านไวท์บาลานซ์สามารถปรับเลือกการทำงานได้แบบออโต้ หรือปรับเลือกตามสภาพแสงได้ 7 แบบ คือ Daylight, Shade, Cloudy, Tungsten, Fluorescent, Flash โดยสามารถปรับแบบละเอียดได้อีก +/-3 ขั้น นอกจากนี้ ยังตั้งแบบ Preset ได้อีก และเมื่อปรับไวท์บาลานซ์ในขณะที่ใช้ Live View กล้องจะพรีวิวภาพให้เห็นผลของการปรับไวท์บาลานซ์แบบต่างๆ และเมื่อปรับวัดแสง Over หรือ Under กล้องก็จะแสดงผลให้เห็น ซึ่งสะดวกในการใช้งานและลดความผิดพลาดลงไปได้มากเช่นกัน ตัวบอดี้ของโซนี่ A380 ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด กริปมือจับด้านหน้าหุ้มยางกันลื่นและออกแบบให้ยาวนูนออกมาพอสมควร ช่วยให้จับกล้องได้อย่างกระชับมั่นคงขึ้น เหนือกริปขึ้นไปเล็กน้อยเป็นแป้น Control Dial ซึ่งเป็นแป้นหลักสำหรับปรับควบคุมการทำงานของกล้อง และใช้ปรับความเร็วชัตเตอร์หรือรูรับแสง ซึ่งเมื่อถ่ายภาพในโหมดแมนนวล หรือโหมด M การปรับขนาดรูรับแสง จะต้องกดปุ่มชดเชยแสง (+/-) ซึ่งอยู่เยื้องๆ ไฟด้านหลังกล้องค้างไว้ด้วย
ที่มา http://hitech.sanook.com/
Casio เปิดตัวกล้องถ่ายรูป Exilim EX-G1 รุ่นใหม่ ขนาดแบบบางเฉียบ
Casio เปิดตัวกล้องถ่ายรูป Exilim EX-G1 รุ่นใหม่ ขนาดแบบบางเฉียบ
จะดีแค่ไหนถ้าเราจะมีกล้องที่สามารถใช้ได้ทุกทีในช่วงหน้าร้อนนี้ ไม่ว่าจะเป็นทะเล หรือเทศกาลสงกรานต์ปีนี้โดยที่ไม่ต้องกังวลกับการเปียกน้ำและ การกระแทกจากการตกหล่นอีกต่อไป
ในครั้งนี้ทางเรามีโอกาสได้ทดสอบใช้งานกล้อง Casio Exilim EX-G1 แบบลุยๆ มาเหมือนกัน โดยครั้งนี้เราส่งให้น้องบุ้งไปลองทดสอบถึง หัวหิน จ.เพชรบุรี เลยทีเดียว และรับรองว่าไม่ทดสอบแบบธรรมดาแน่ๆ
แต่ก่อนจะไปดูการ Review มาดูรายระเอียดของกล้องตัวนี้กันก่อนดีกว่าครับ
Casio ส่งคาสิโอคอมแพคดิจิตอล รุ่นใหม่ Casio Exilim EX-G1 ชูจุดขายที่มีขนาดความบางที่สุดในโลก ขนาด 0.78 นิ้ว พร้อมระบบป้องกันการถ่ายภาพไหว
ตัวแรกในตระกูล Exilim G ที่สามารถกันน้ำ กันฝุ่น และกันกระแทก หล่นจากที่สูงถึง 2.13 เมตร มีความแข็งแรงทนทานพิเศษ ซึ่งนำไปถ่ายใต้น้ำในระดับความลึกได้ถึง 3 เมตร ยาวนานต่อเนื่องถึง 60 นาที ถ่ายภาพได้ในอุณหภูมิต่ำสุดถึง 10°c ตัวกล้องติดเลนส์ 38-114มม. เป็นกล้องขนาด 12.1 ล้านพิกเซล ออพติคอลซูม 3 เท่า บันทึกได้ทั้งภาพนิ่งและเคลื่อนไหว เพิ่มระบบโฟกัสที่แม่นยำ โหมด Best Shot ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับกล้องกันน้ำกันกระแทก นอกจากนี้ตัวกล้องยังทำมาจากวัสดุชั้นดีเพื่อรองรับการกระแทก สนนราคา 11,900 บาท
จากภาพที่ให้แล้วก็ต้องยอมรับว่าภาพยังเป็นรองกล้อง Compact ปกติบ้าง อาจด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง แต่ลองมามองจุดเด่นของมันแล้วละก็ มันช่วยให้ได้ภาพมุมใหม่ๆ มากมายเลยทีเดียว
ถ้าผมได้หยุดยาวช่วงวันหยุดที่จะถึงนี้ คงต้องซื้อกล้องแบบนี้เก็บไว้สักตัวบ้างแล้วละ
สรุปการใช้งานของกล้อง CASIO EX G1
จุดเด่น
1. ราคาไม่แพง 11,900 บาท
2. กันน้ำ 3เมตร กันกระแทก 2.4 เมตร
3. มีไฟต่อเนื่อง สำหรับ Video
4. Battery ใช้ได้นานดี
5. ขนาดเล็ก ใช้ง่าย
6. คุณภาพของภาพดี (ISO 1600 ยังใช้ได้)
จุดสังเกตุ
1. การตอบสนอง ตอนกดถ่ายช้าไปนิดนึง
ที่มา http://www.igadgety.com/article.php?id=6619
จะดีแค่ไหนถ้าเราจะมีกล้องที่สามารถใช้ได้ทุกทีในช่วงหน้าร้อนนี้ ไม่ว่าจะเป็นทะเล หรือเทศกาลสงกรานต์ปีนี้โดยที่ไม่ต้องกังวลกับการเปียกน้ำและ การกระแทกจากการตกหล่นอีกต่อไป
ในครั้งนี้ทางเรามีโอกาสได้ทดสอบใช้งานกล้อง Casio Exilim EX-G1 แบบลุยๆ มาเหมือนกัน โดยครั้งนี้เราส่งให้น้องบุ้งไปลองทดสอบถึง หัวหิน จ.เพชรบุรี เลยทีเดียว และรับรองว่าไม่ทดสอบแบบธรรมดาแน่ๆ
แต่ก่อนจะไปดูการ Review มาดูรายระเอียดของกล้องตัวนี้กันก่อนดีกว่าครับ
Casio ส่งคาสิโอคอมแพคดิจิตอล รุ่นใหม่ Casio Exilim EX-G1 ชูจุดขายที่มีขนาดความบางที่สุดในโลก ขนาด 0.78 นิ้ว พร้อมระบบป้องกันการถ่ายภาพไหว
ตัวแรกในตระกูล Exilim G ที่สามารถกันน้ำ กันฝุ่น และกันกระแทก หล่นจากที่สูงถึง 2.13 เมตร มีความแข็งแรงทนทานพิเศษ ซึ่งนำไปถ่ายใต้น้ำในระดับความลึกได้ถึง 3 เมตร ยาวนานต่อเนื่องถึง 60 นาที ถ่ายภาพได้ในอุณหภูมิต่ำสุดถึง 10°c ตัวกล้องติดเลนส์ 38-114มม. เป็นกล้องขนาด 12.1 ล้านพิกเซล ออพติคอลซูม 3 เท่า บันทึกได้ทั้งภาพนิ่งและเคลื่อนไหว เพิ่มระบบโฟกัสที่แม่นยำ โหมด Best Shot ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับกล้องกันน้ำกันกระแทก นอกจากนี้ตัวกล้องยังทำมาจากวัสดุชั้นดีเพื่อรองรับการกระแทก สนนราคา 11,900 บาท
จากภาพที่ให้แล้วก็ต้องยอมรับว่าภาพยังเป็นรองกล้อง Compact ปกติบ้าง อาจด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง แต่ลองมามองจุดเด่นของมันแล้วละก็ มันช่วยให้ได้ภาพมุมใหม่ๆ มากมายเลยทีเดียว
ถ้าผมได้หยุดยาวช่วงวันหยุดที่จะถึงนี้ คงต้องซื้อกล้องแบบนี้เก็บไว้สักตัวบ้างแล้วละ
สรุปการใช้งานของกล้อง CASIO EX G1
จุดเด่น
1. ราคาไม่แพง 11,900 บาท
2. กันน้ำ 3เมตร กันกระแทก 2.4 เมตร
3. มีไฟต่อเนื่อง สำหรับ Video
4. Battery ใช้ได้นานดี
5. ขนาดเล็ก ใช้ง่าย
6. คุณภาพของภาพดี (ISO 1600 ยังใช้ได้)
จุดสังเกตุ
1. การตอบสนอง ตอนกดถ่ายช้าไปนิดนึง
ที่มา http://www.igadgety.com/article.php?id=6619
Samsung PL150 กล้อง 2 หน้าจอ ที่ใครๆก็เป็นเจ้าของได้
Samsung PL150 กล้อง 2 หน้าจอ ที่ใครๆก็เป็นเจ้าของได้
ซัมซุงสร้างสรรค์ความสนุกครั้งใหม่ให้การถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิตอล “ซัมซุง PL150”อีกครั้งกับกล้องดิจิตอลแบบสองหน้าจอทั้งหน้าและหลังรองรับแฟชั่นการถ่ายภาพตนเองของวัยรุ่นยุคใหม่ให้ได้ภาพสวยไม่มีหลุดกรอบ พร้อมผสานลูกเล่นใหม่สุดฮิตโดนใจคนมีสไตล์ด้วย Mode Len effect สามารถถ่ายภาพสไตล์ Fish Eye และภาพสีจัดจ้าน ให้ถ่ายภาพได้สนุกสุดมันส์ได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสริมหรือการปรับแต่งภาพจากคอมพิวเตอร์
กล้องดิจิตอล “ซัมซุง PL150” มาพร้อมกับจอแอลซีดีคู่ขนาด 1.5 นิ้วทางด้านหน้าตัวเครื่องและขนาด 3 นิ้วทางด้านหลัง อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ถ่ายภาพตนเอง (Self-Portrait) ได้อย่างง่ายดาย ให้ภาพสดใสสมบูรณ์แบบด้วยความละเอียดสูงสุด 12.4 ล้านพิกเซล ซูมได้ถึง 5 เท่า พร้อมคุณสมบัติพิเศษที่เพิ่มความสนุกสนานให้กับการถ่ายภาพ อาทิ โหมดถ่ายภาพคู่ (Couple Shot) ให้ถ่ายภาพคู่ได้อัตโนมัติทันทีเมื่อองศาของใบหน้าเอียงได้ตามที่กำหนด หรือโหมดถ่ายภาพกระโดด (Jump Shot) ที่สามารถถ่ายภาพอัตโนมัติ 3 ภาพ โดยจะจับจังหวะกระโดดได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ ยังได้รับการออกแบบให้ฐานวางตัวเครื่องเงยขึ้นในมุม 7 องศา อำนวยความสะดวกในการตั้งเวลาถ่ายภาพตนเองหรือคู่รักได้อย่างอัตโนมัติด้วยมุมหน้ากล้องที่เงยขึ้นพอดีกับใบหน้าของผู้ใช้ วางจำหน่ายแล้ว ในราคาสุดคุ้มค่าเพียงเครื่องละ 7,990 บาท
ข้อมูลรายละเอียดของกล้อง Samsung PL150
ข้อมูลรายละเอียดของ หน่วยประมวลผล
เซนเซอร์รับภาพ CCD 1/2.33 (6.13 x 4.60 mm, 0.28 cm?)
ความละเอียดใช้งาน 12.2 ล้านพิกเซล
ความละเอียดเซนเซอร์ 12.4 ล้านพิกเซล
โปรเซสเซอร์
ข้อมูลรายละเอียดของ เลนส์
ความยาวโฟกัส 27 - 135 มม. มม.
รูรับแสง F3.5 - F5.9
ออพติคอลซูม 5 เท่า
ดิจิตอลซูม 5 เท่า
ข้อมูลรายละเอียดของชัตเตอร์
ความเร็วชัตเตอร์ 8 - 1/2000 วินาที ถ่ายภาพต่อเนื่อง
ข้อมูลรายละเอียดของ การโฟกัส
ชนิดโฟกัส TTL (Multi, Center, Selective, Touch)
มาโคร 5 ซม.
ข้อมูลรายละเอียดของระบบเกี่ยวกับแสง
ระบบวัดแสง Multi, Center, Spot, Face
ระบบชดเชยแสง -2 to +2 EV in 1/3 EV Steps
ความไวแสง (ISO) Auto, 80, 100, 200, 400, 800, 1600, 3200
สมดุลแสงสีขาว (WB) 5 positions plus custom
ข้อมูลรายละเอียดของ ช่องมองภาพและ LCD
ช่องมองภาพ ไม่มี
ขนาดจอ LCD 3.5 นิ้ว
ความละเอียดจอ 230,000 พิกเซล
การปรับตำแหน่งจอ ไม่ได้
ข้อมูลรายละเอียดของ แฟลช
ระบบแฟลช Auto, On, Off, Red-eye, Fill-in, Slow syncro
ระยะแฟลช 3.4 m
แฟลชภายนอก ไม่มี
ข้อมูลรายละเอียดของ ภาพเคลื่อนไหว
ภาพเคลื่อนไหว บันทึกภาพและเสียง
ระยะเวลาบันทึกภาพเคลื่อนไหว
ข้อมูลรายละเอียดของ หน่วยความจำ
หน่วยความจำภายใน 55 MB internal
หน่วยความจำที่ใช้ MicroSD/ MicroSDHC, internal
ข้อมูลรายละเอียดของไฟล์และการเชื่อมต่อ
ไฟล์ภาพนิ่ง .JPEG
ไฟล์ภาพเคลื่อนไหว มี, 1280 x 720 (30/15 fps), 640 x 480 (30/15 fps), 320 x 240 (60/30 fps)
เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ USB 2.0 (480Mbit/sec)
เชื่อมต่อทีวี AVI
ข้อมูลรายละเอียดของอื่นๆ
ชนิดแบตเตอรี่ Lithium-Ion SLB-07B battery & charger
กว้าง สูง ลึก 99 x 59 x 20 มม.
น้ำหนักตัวกล้อง 177 กรัม
เมนูภาษาไทย มี
มีจอ LCD อยู่ข้างหน้า 1.5 inch
ที่มา http://www.igadgety.com/article.php?id=6629
ซัมซุงสร้างสรรค์ความสนุกครั้งใหม่ให้การถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิตอล “ซัมซุง PL150”อีกครั้งกับกล้องดิจิตอลแบบสองหน้าจอทั้งหน้าและหลังรองรับแฟชั่นการถ่ายภาพตนเองของวัยรุ่นยุคใหม่ให้ได้ภาพสวยไม่มีหลุดกรอบ พร้อมผสานลูกเล่นใหม่สุดฮิตโดนใจคนมีสไตล์ด้วย Mode Len effect สามารถถ่ายภาพสไตล์ Fish Eye และภาพสีจัดจ้าน ให้ถ่ายภาพได้สนุกสุดมันส์ได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสริมหรือการปรับแต่งภาพจากคอมพิวเตอร์
กล้องดิจิตอล “ซัมซุง PL150” มาพร้อมกับจอแอลซีดีคู่ขนาด 1.5 นิ้วทางด้านหน้าตัวเครื่องและขนาด 3 นิ้วทางด้านหลัง อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ถ่ายภาพตนเอง (Self-Portrait) ได้อย่างง่ายดาย ให้ภาพสดใสสมบูรณ์แบบด้วยความละเอียดสูงสุด 12.4 ล้านพิกเซล ซูมได้ถึง 5 เท่า พร้อมคุณสมบัติพิเศษที่เพิ่มความสนุกสนานให้กับการถ่ายภาพ อาทิ โหมดถ่ายภาพคู่ (Couple Shot) ให้ถ่ายภาพคู่ได้อัตโนมัติทันทีเมื่อองศาของใบหน้าเอียงได้ตามที่กำหนด หรือโหมดถ่ายภาพกระโดด (Jump Shot) ที่สามารถถ่ายภาพอัตโนมัติ 3 ภาพ โดยจะจับจังหวะกระโดดได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ ยังได้รับการออกแบบให้ฐานวางตัวเครื่องเงยขึ้นในมุม 7 องศา อำนวยความสะดวกในการตั้งเวลาถ่ายภาพตนเองหรือคู่รักได้อย่างอัตโนมัติด้วยมุมหน้ากล้องที่เงยขึ้นพอดีกับใบหน้าของผู้ใช้ วางจำหน่ายแล้ว ในราคาสุดคุ้มค่าเพียงเครื่องละ 7,990 บาท
ข้อมูลรายละเอียดของกล้อง Samsung PL150
ข้อมูลรายละเอียดของ หน่วยประมวลผล
เซนเซอร์รับภาพ CCD 1/2.33 (6.13 x 4.60 mm, 0.28 cm?)
ความละเอียดใช้งาน 12.2 ล้านพิกเซล
ความละเอียดเซนเซอร์ 12.4 ล้านพิกเซล
โปรเซสเซอร์
ข้อมูลรายละเอียดของ เลนส์
ความยาวโฟกัส 27 - 135 มม. มม.
รูรับแสง F3.5 - F5.9
ออพติคอลซูม 5 เท่า
ดิจิตอลซูม 5 เท่า
ข้อมูลรายละเอียดของชัตเตอร์
ความเร็วชัตเตอร์ 8 - 1/2000 วินาที ถ่ายภาพต่อเนื่อง
ข้อมูลรายละเอียดของ การโฟกัส
ชนิดโฟกัส TTL (Multi, Center, Selective, Touch)
มาโคร 5 ซม.
ข้อมูลรายละเอียดของระบบเกี่ยวกับแสง
ระบบวัดแสง Multi, Center, Spot, Face
ระบบชดเชยแสง -2 to +2 EV in 1/3 EV Steps
ความไวแสง (ISO) Auto, 80, 100, 200, 400, 800, 1600, 3200
สมดุลแสงสีขาว (WB) 5 positions plus custom
ข้อมูลรายละเอียดของ ช่องมองภาพและ LCD
ช่องมองภาพ ไม่มี
ขนาดจอ LCD 3.5 นิ้ว
ความละเอียดจอ 230,000 พิกเซล
การปรับตำแหน่งจอ ไม่ได้
ข้อมูลรายละเอียดของ แฟลช
ระบบแฟลช Auto, On, Off, Red-eye, Fill-in, Slow syncro
ระยะแฟลช 3.4 m
แฟลชภายนอก ไม่มี
ข้อมูลรายละเอียดของ ภาพเคลื่อนไหว
ภาพเคลื่อนไหว บันทึกภาพและเสียง
ระยะเวลาบันทึกภาพเคลื่อนไหว
ข้อมูลรายละเอียดของ หน่วยความจำ
หน่วยความจำภายใน 55 MB internal
หน่วยความจำที่ใช้ MicroSD/ MicroSDHC, internal
ข้อมูลรายละเอียดของไฟล์และการเชื่อมต่อ
ไฟล์ภาพนิ่ง .JPEG
ไฟล์ภาพเคลื่อนไหว มี, 1280 x 720 (30/15 fps), 640 x 480 (30/15 fps), 320 x 240 (60/30 fps)
เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ USB 2.0 (480Mbit/sec)
เชื่อมต่อทีวี AVI
ข้อมูลรายละเอียดของอื่นๆ
ชนิดแบตเตอรี่ Lithium-Ion SLB-07B battery & charger
กว้าง สูง ลึก 99 x 59 x 20 มม.
น้ำหนักตัวกล้อง 177 กรัม
เมนูภาษาไทย มี
มีจอ LCD อยู่ข้างหน้า 1.5 inch
ที่มา http://www.igadgety.com/article.php?id=6629
กล้องดิจิตอลแบบโปร Panasonic Lumix DMC-GF1
กล้องดิจิตอลแบบโปร Panasonic Lumix DMC-GF1
กล้อง Micro 4/3 รุ่นใหม่ของพานาโซนิคก็ได้ออกมาจนได้ โดยมีการเปลี่ยนแปลงตัวเครื่องให้เล็กลงจนใกล้เคียงกับ "Olympus Pen EP-1" ที่ออกมาก่อนหน้า (และคล้ายกับ LX3 ซะด้วย) ชื่อของเจ้ารุ่นนี้คือ Lumix DMC-GF1โดยรายละเอียดของ GF1 มีดังนี้
เป็นกล้องดิจิตอลที่มีความละเอียดถึง 13.1 ล้านพิกเซล ทำให้ถ่ายภาพที่มีขนาดตั้งแต่ 1920x1080 พิกเซลไปจนถึง 4000x3000 พิกเซล คุณจึงสามารถพิมพ์ภาพถ่ายที่ประทับใจของคุณได้อย่างคมชัดมากที่สุด กล้องดิจิตอล Panasonic GF1 มาพร้อมกับเลนส์กล้องขนาด สามารถซูมเลนส์ระยะไกลได้สูงสุดถึง -1 เท่า ช่วยให้คุณไม่พลาดการจับภาพทุกช่วงเวลา ส่วนในเรื่องของการถ่ายภาพ Panasonic GF1 มีโหมดการวัดแสงต่างๆ ให้เลือกใช้มากมายสำหรับแต่ละสถานการณ์ เช่น Centre weighted, Intelligent Multiple, Spot เป็นต้น และยังปรับสมดุลแสงสีขาวได้หลายรูปแบบ เช่น Auto, Cloudy, Daylight, Flash, Fluorescent, Shade, User Set Color Temperature เป็นต้น สำหรับส่วนประกอบต่างๆ ภายนอกของ Panasonic Lumix DMC GF1 นั้นก็ค่อนข้างน่าสนใจ LCD ขนาด 3-inch ความละเอียดจอแอลซีดี 460,000 Pixels สามารถใช้แบตเตอรี่สำหรับกล้องดิจิตอลที่เป็น Li-Ion ได้ น้ำหนักของตัวกล้องดิจิตอล Panasonic GF1 นั้น มีน้ำหนักประมาณ 285g.
โดยรายละเอียดของ GF1 มีดังนี้
- เซนเซอร์ DMC-GF1 เป็นแบบ CMOS ความละเอียด 12.1 ล้านพิกเซล
- GF1 สามารถบันทึกวิดิโอได้สูงสุดที่ 720p มีการบีบอัดข้อมูลในรูปแบบ AVCHD Lite
- มีแฟลชในตัว ค่าไกด์ นัมเบอร์อยู่ที่ 6 (Pen ไม่มีแฟลชในตัว)
- จอด้านหลัง GF1 ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 460,000 พิกเซล
- GF1 มีระบบขจัดฝุ่นในตัว
- ตัวเครื่องหนัก 315 กรัม
โดยราคา GF1 ที่ประกาศออกมาคือ $900 (ประมาณ 32,000 บาท) พร้อมเลนส์คิทหนึ่งตัวที่มีให้เลือกระหว่าง เลนส์แพนเค้ก Lumix G 20mm/F1.7 ASPH และเลนส์ช่วงมาตรฐานอย่าง Lumix G Vario 14-45mm/F3.5-5.6 ASPH/Mega O.I.S.
นอกจากนี้ยังวางขายช่องมองภาพแบบต่อภายนอกในราคา $200 (ประมาณ 7,000 บาท) และอแดปเตอร์สำหรับแปลงไปใช้เลนส์ 4/3 ในราคา $250 (ประมาณ 9,000 บาท)
ที่มา : zoomcamera
Sanyo Xacti VPC-CS1 กล้องวิดีโอขนาดเล็ก บางเบา เจาะตลาดผู้หญิง
Sanyo Xacti VPC-CS1 กล้องวิดีโอขนาดเล็ก บางเบา เจาะตลาดผู้หญิง
บริษัท ซันโย (ไทยแลนด์) จำกัด เรียกกระแสตลาดกล้องวิดีโอตื่นอีกครั้ง ด้วย Sanyo Xacti VPC-CS1 ขนาดเล็กที่สุด เบาที่สุด และบางที่สุดในโลก Sanyo Xacti VPC-CS1
สำหรับปี 2553 บริษัทขอแนะนำกล้องวิดีโอแบบพกพาตระกูล “Xacti” 5 รุ่นล่าสุด ออกแบบฟังก์ชั่นเน้นคุณภาพ Full HD เป็นหลัก ประกอบด้วย รุ่น VPC-CS1, VPC-SH1, VPC-CG100, VPC-GH1 และVPC-CG20 โดยวางแผนเจาะตลาดกลุ่มผู้หญิงและผู้ใช้ที่เน้นความคล่องตัวในการเดินทาง เนื่องจาก จุดเด่นตัวกล้องอยู่ที่ความเบาบางและกะทัดรัดขึ้นกว่าเดิม ซึ่งปีนี้วางเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดไว้ที่ 25%
รุ่น VPC–CS1 กล้องลูกผสมแบบ Slim Type Dual Camera ขนาดเล็กที่สุด เบาและบางที่สุดในโลก ผสานความสามารถทั้งการถ่ายรูปที่ให้ความละเอียดถึง 8 ล้านพิกเซล ซูมได้ 10 เท่า และถ่ายวิดีโอด้วยความละเอียดระดับ Full HD (1920X1080) ในตัวกล้องเดียวกัน น้ำหนักเพียง 142 กรัม (เฉพาะตัวกล้อง)
นอกจากนี้ ยังมีรุ่นกล้องในตระกูล “Xacti” ที่น่าสนใจเช่นกัน อาทิ VPC-SH1 สามารถบันทึกวีดีโอต่อเนื่องได้นานถึง 110 นาที และซูมภาพได้ถึง 30 เท่า ตามด้วยรุ่น VPC-CG100 และ VPC-GH1 ถ่ายภาพนิ่งความละเอียดสูงสุด 16 ล้านพิกเซล เทคโนโลยีรับภาพแบบ C-MOS Sensor ล้ำหน้าด้วยฟังก์ชั่นซูมเสียง เฉพาะจุดที่ต้องการ ถ่ายภาพระยะใกล้สุด Super macro 1 cm. เป็นต้น
ที่มา http://www.igadgety.com/article.php?id=6734
กล้องดิจิตอล Winait CD130BT ราคาถูกดีไซน์บางเฉียบ
กล้องดิจิตอลราคาถูกดีไซน์บางเฉียบ
แม้มันจะไม่ได้มีสเป็กเลิศหรูไฮเอ็นด์สุดๆ แต่ด้วยดีไซน์ของมันทำให้อดไม่ได้ที่จะหยิบนำมาฝากกัน ทีสำคัญราคาของมันถูกกว่าดีไซน์ที่เห็นมากๆWinait CD130BT กล้องดิจิตอลที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับเป็นเจมส์บอนด์ยังไงยังงั้น ด้วยดีไซน์ทีเรียบหรูกระทัดรัด เซ็กซี่ด้วยความหนา (หรือบาง?) แค่ 13.5 ซม. อย่างไรก็ตาม กล้องดีไซน์สปอร์ตรุ่นนี้มีคุณสมบัติการทำงานพื้นฐานเท่านั้น โดยมันสามารถถ่ายรูปที่ความละเอียด 640x480 พิกเซล และจัดเก็บลงบนหน่วยความจำในเครื่อง 64MB (ประมาณ 52 ภาพ) สามารถโหลดภาพผ่านทางเคเบิ้ล USB สนนราคาของตัวกล้องอยู่ที่ 24.99 เหรียญ หรือประมาณ 820 บาท
ข้อมูลจำเพาะ: กล้องดิจิตอล Winait CD130BT
Super Slim Super ง่าย 300k พิกเซลกล้องดิจิตอล
ความละเอียดภาพ: กล้องดิจิตอล Winait CD130BT
- 640x480 พิกเซล (VGA)
- 320x240 พิกเซล (QVGA)
อุปกรณ์หน่วยความจำ: ในตัว 64MB (SDRAM)
ความจุหน่วยความจำ:
- 26 (VGA) (Hi) 104 (QVGA)
- 52 (VGA) (Hi) 209 (QVGA)
ช่องมองภาพ: built-in
ยิง Auto: 10s
อย่างต่อเนื่องยิง: 10 ชิ้นต่อวินาที
ความเร็วชัตเตอร์: 1/6 - 1/15000 วินาที
ยิงโหมด: ภาพเดี่ยว / ต่อเนื่อง / กล้องถ่ายภาพ / PC โดยอัตโนมัติ
การประหยัดพลังงานอัตโนมัติ: พลังงานโหมดโดยอัตโนมัติป้อนประหยัดในยุค 30
กระบวนการภาพ: แสงอัตโนมัติ / สมดุลสีขาวอัตโนมัติ
อินเตอร์เฟซระบบเกียร์:
- อินเตอร์เฟซยูเอสบี 1.1 แก้ไข
- ที่มีในตัวแบตเตอรี่ลิเธียม
น้ำหนัก: 0.55 กก.
ที่มา : arip
แม้มันจะไม่ได้มีสเป็กเลิศหรูไฮเอ็นด์สุดๆ แต่ด้วยดีไซน์ของมันทำให้อดไม่ได้ที่จะหยิบนำมาฝากกัน ทีสำคัญราคาของมันถูกกว่าดีไซน์ที่เห็นมากๆWinait CD130BT กล้องดิจิตอลที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับเป็นเจมส์บอนด์ยังไงยังงั้น ด้วยดีไซน์ทีเรียบหรูกระทัดรัด เซ็กซี่ด้วยความหนา (หรือบาง?) แค่ 13.5 ซม. อย่างไรก็ตาม กล้องดีไซน์สปอร์ตรุ่นนี้มีคุณสมบัติการทำงานพื้นฐานเท่านั้น โดยมันสามารถถ่ายรูปที่ความละเอียด 640x480 พิกเซล และจัดเก็บลงบนหน่วยความจำในเครื่อง 64MB (ประมาณ 52 ภาพ) สามารถโหลดภาพผ่านทางเคเบิ้ล USB สนนราคาของตัวกล้องอยู่ที่ 24.99 เหรียญ หรือประมาณ 820 บาท
ข้อมูลจำเพาะ: กล้องดิจิตอล Winait CD130BT
Super Slim Super ง่าย 300k พิกเซลกล้องดิจิตอล
ความละเอียดภาพ: กล้องดิจิตอล Winait CD130BT
- 640x480 พิกเซล (VGA)
- 320x240 พิกเซล (QVGA)
อุปกรณ์หน่วยความจำ: ในตัว 64MB (SDRAM)
ความจุหน่วยความจำ:
- 26 (VGA) (Hi) 104 (QVGA)
- 52 (VGA) (Hi) 209 (QVGA)
ช่องมองภาพ: built-in
ยิง Auto: 10s
อย่างต่อเนื่องยิง: 10 ชิ้นต่อวินาที
ความเร็วชัตเตอร์: 1/6 - 1/15000 วินาที
ยิงโหมด: ภาพเดี่ยว / ต่อเนื่อง / กล้องถ่ายภาพ / PC โดยอัตโนมัติ
การประหยัดพลังงานอัตโนมัติ: พลังงานโหมดโดยอัตโนมัติป้อนประหยัดในยุค 30
กระบวนการภาพ: แสงอัตโนมัติ / สมดุลสีขาวอัตโนมัติ
อินเตอร์เฟซระบบเกียร์:
- อินเตอร์เฟซยูเอสบี 1.1 แก้ไข
- ที่มีในตัวแบตเตอรี่ลิเธียม
น้ำหนัก: 0.55 กก.
ที่มา : arip
Mu Tough 3000 กล้องกันน้ำรุ่นใหม่ล่าสุด จาก Olympus
Mu Tough 3000 กล้องกันน้ำรุ่นใหม่ล่าสุด
Mu Tough 3000 เป็นกล้องในตระกูล มิวทัฟ ที่ให้คุณ เซอร์ไพรส์ ไม่ว่าสถานการณ์ไหน ก็ถ่ายภาพได้ เพื่อไปกับคุณได้ทุกที่ ทุกเวลา กับคุณสมบัติถ่ายภาพใต้น้ำได้ลึก 3 เมตร กันกระแทกจากที่สูง 1.5เมตร และยังใช้งานได้เป็นอย่างดีแม้อุณหภูมิต่ำถึง -10 องศา... Mu Tough 3000 ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ทันสมัยของทุกคน Mu Tough 3000 จึงได้เพิ่มหน่วยความจำในตัวเครื่องสูงถึง 1GB เพื่อให้เก็บภาพถ่าย และเรียกดูได้ตลอดเวลานานยิ่งขึ้น กล้อง Mu Tough-3000 มีมาให้เลือกถึง 4สี แดง เขียว ฟ้าและชมพู ด้วยราคาสบายๆ เพียง 8,990 บาท
บริษัท เจ๊บเซ่น แอนด์ เจ๊สเซ่น มาร์เก็ตติ้ง (ที) จำกัด
ผู้นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์เสริมของกล้องดิจิตอลโอลิมปัส พร้อมแนะนำกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ล่าสุด นำด้วยกล้องรุ่น Mju Tough 3000 เป็นกล้องในตระกูล มิวทัฟ ที่ให้คุณ เซอร์ไพรส์ ไม่ว่าสถานการณ์ไหน ก็ถ่ายได้ เพื่อให้ไปกับคุณได้ทุกที่ ทุกเวลา กับคุณสมบัติถ่ายภาพใต้น้ำได้ลึก 3เมตร กันกระแทกจากที่สูง 1.5เมตร และยังใช้งานได้เป็นอย่างดีแม้อุณหภูมิต่ำถึง -10องศา ด้วยการออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ทันสมัยของทุกคน มิวทัฟ 3000 จึงได้เพิ่มหน่วยความจำในตัวเครื่องสูงถึง 1GB เพื่อให้เก็บภาพถ่าย และเรียกดูได้ตลอดเวลานานยิ่งขึ้น กล้อง Mju Tough-3000 มีมาให้เลือกถึง 4สี แดง เขียว ฟ้าและชมพู ด้วยราคาสบายๆ เพียง 8,990 บาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษอีกมากมายในงาน
ภายในงานโอลิมปัสยังตอกย้ำภาพความเป็นผู้นำกล้องถ่ายภาพในทุกสภาวะการณ์ ด้วยการพิสูจน์ความสามารถของความทนทานที่โอลิมปัสมี ด้วยการทดสอบการทำงานของกล้องแม้ถูกปั่นอยู่ในเครื่องซักผ้า พบกับการพิสูจน์ขั้นสูงได้ที่บูธโอลิมปัส โซน C ชั้น2 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 18-21มีนาคม 2553 นี้
ที่มา http://www.igadgety.com/article.php?id=6726
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
-
-
All New Mazda 6 / Atenza อุ่นเครื่องก่อนเจอกันที่ปารีส - All New Mazda 6 / Atenza อุ่นเครื่องก่อนเจอกันที่ปารีส มาสด้าสร้างกระแสความเคลื่อนไหวในตลาดรถยนต์ครอบครัว หรือกลุ่ม D-Segment ระลอกใหม่เพื่อชะลดยอดขายคู่ปร...
-
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีผลตอบแทนติดลบได้หรือไม่ - กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีผลตอบแทนติดลบได้หรือไม่ ในโลกของการออมเงินนั้น นอกจากเราจะสามารถออมเงินด้วยตนเองโดยการนำเงินในส่วนที่เหลือจากการใช้จ่ายประจำวันแล้วนำ...
-
"ตุ๊ก ชนกวนันท์-บ๊วย" รักสะบั้น "หย่า" แยกทางกันแล้ว - "ตุ๊ก ชนกวนันท์-บ๊วย" รักสะบั้น "หย่า" แยกทางกันแล้ว ส่วน "ดู๋-สัญญา" โต้เปล่ามีกิ๊กนางงาม ตัดสินใจไปจดทะเบียนหย่ากันที่เขตสะพานสูงและฝ่ายหญิงขอเลี้ยงดูลูก...
-
22 สัญญาณเตือนภัยของการนอกใจที่พบได้ง่ายที่สุด - 22 สัญญาณเตือนภัยของการนอกใจที่พบได้ง่ายที่สุด สัญญาณของการนอกใจเกิดขึ้นได้ เพราะใช่ว่าเมื่อแต่งงานแล้ว ทุกคู่จะครองเรือนกันได้ตลอดรอดฝั่ง แถมทุกวันนี้โอก...
-
ตำนานนก Angry Birds ทำไม ?ต้องนกโกรธ ? - ตำนานนก Angry Birds ทำไม ?ต้องนกโกรธ ? มีหลายคนรู้แล้ว แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าทำไมเจ้านก Angry Birds จึงต้องเป็นนกโกรธ แล้วโกรธใคร? อะไรทำให้เจ้านก...
-
Will Samsung's Galaxy S III come standard with wireless charging? - Will Samsung's Galaxy S III come standard with wireless charging? Now that phones and tablets are practically as thin as their ports will allow, wireless c...