ท่องโลกใต้ทะเลกับ Google Earth 1.1 ฟีเจอร์ใหม่สำหรับผู้ใช้ Android

ท่องโลกใต้ทะเลกับ Google Earth 1.1 ฟีเจอร์ใหม่สำหรับผู้ใช้ Android ลูกเล่นใหม่สำหรับผู้ใช้ Android เมื่อ Google Earth 1.1 คลอดคุณสมบัติใหม่ที่จะทำให้ผู้ใช้ท่องโลกใต้น้ำเพื่อสัมผัสกับภูมิทัศน์ใต้ ทะเลลึกได้...คุณสมบัติใหม่ล่าสุดจาก Google Earth 1.1 ที่จะพาคุณไปท่องโลกใต้น้ำ โดยที่ไม่ต้องสวมท่อหายใจแล้วแวกว่ายไปกับฝูงปลาหรือไปใช้ชีวิตใต้ทะเล หากจะเป็นการพาไปสัมผัสกับพื้นผิวของโลกใต้น้ำด้วยสมาร์ทโฟนของคุณเอง และถ้าเกิดดูทิวทิศน์เดิมๆ จนเบื่อแล้ว ก็สามารถที่จะเปลี่ยนมุมมองใต้ท้องน้ำได้เพียงแค่คลืกที่ปุ่ม look around เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นใหม่อีกตัวที่เพิ่มเข้ามาใน Google Earth 1.1 ด้วยก็คือ การสำรวจชั้นมหาสมุทร ที่จะเป็นแหล่งรวบรวมรูปภาพและวีดีโอจากผู้ที่ส่งเข้ามาทั่วโลกไว้ให้ผู้ใช้ ได้รับชมกัน Google Earth 1.1 รองรับการทำงานบนอุปกรณ์ที่ใช้แพลตฟอร์ม Android 2.1 หรือสูงกว่า แต่ถ้าหากคุณเป็นผู้ใช้ Android เวอร์ชั่น 2.2 อยู่แล้ว มันยังจะรองรับการทำงานด้วย Flash หากเครื่องคุณมีการติดตั้งโปรแกรมเล่น Flash ไว้ภายในเครื่อง ตัวซอฟท์แวร์มีการปรับปรุงในเรื่องของการนำทาง สิ่งหนึ่งทีเป็นจุดเด่นเลย ก็คือ การรองรับการควบคุมด้วยสองนิ้ว ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเลื่อนไปข้างหน้าหรือข้างหลัง เลื่อนขึ้นหรือลง เพื่อเปลี่ยนมุมมองได้ง่าย หรือจะหมุนทั้งสองนิ้วเพื่อเปลี่ยนหน้าจอก็ได้เช่นกัน ตัวซอฟท์แวร์มีความเสถียรพอสมควร แต่อาจจะมีล่าช้าหรือชะงักบ้างเล็กน้อย เมื่อมีการดึงข้อมูลแผนที่ออกมาใช้ และถ้าสาวก Android คนใดสนใจที่จะลงไปท่องโลกใต้น้ำด้วย Google Earth 1.1 ก็เข้าไปดาวน์โหลดได้แล้วที่ Android Market
ที่มา : Cnet , Pantip

Xbox360 ดำบาง 4GB พร้อมลุยญี่ปุ่นกันยายนนี้

Xbox360 ดำบาง 4GB พร้อมลุยญี่ปุ่นกันยายนนี้ บริษัทไมโครซอฟท์ญี่ปุ่นแจ้งแฟนๆ ในบ้านเกิดได้ทราบถึงกำหนดวันวางจำหน่ายเครื่องเกมคอนโซล Xbox 360 โมเดลบางดำรุ่นหน่วยความจำสั้น 4 GB ราคาย่อมเยาที่จะมาทดแทนเครื่องรุ่นอาร์เคดแบบเก่าในเดือน ก.ย.นี้ หลังส่งไปขายก่อนที่อเมริกาและยุโรปในเดือน ส.ค. ยันฟีเจอร์ใช้เสียงสั่งการระบบมาพร้อมขาย Kinect วันแรก...เครื่องเกม Xbox 360 หน่วยความจำ 4 GB มีกำหนดวางตลาดในแดนปลาดิบวันที่ 9 ก.ย.ในราคา 19,800 เยน หรือประมาณ 7,400 บาท ซึ่งเป็นราคาเดียวกันกับรุ่นอาร์เคดที่ขายในปัจจุบัน ภายในชุดประกอบด้วยคอนโทรลเลอร์สีดำไร้สาย 1 อัน,สายเชื่อมต่อสัญญาณภาพ AV และหม้อแปลงไฟ AC ขณะเดียวกันไมโครซอฟท์ก็ได้นำเสนอฮาร์ดดิสก์แบบแยกขายขนาดความจุ 250 Gbเพื่อนำไปเพิ่มปริมาณความจุของเครื่องในราคา 15,540 เยน หรือประมาณ 5,800 บาท นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยืนยันชัดเจนแล้วว่า ลูกเล่นการควบคุมด้วย “เสียง” จะมาพร้อมการวางจำหน่ายอุปกรณ์เสริมใหม่ “Kinect” ในวันแรกเลย
ที่มา : Manager

Kodak โกดักเปิดตัวกล้องวิดีโอไฮเดฟฯรุ่นพกพา

Kodak โกดักเปิดตัวกล้องวิดีโอไฮเดฟฯรุ่นพกพา ตลาดกล้องวิดีโอไฮเดฟแบบพกพากำลังมาแรง หลังจากซันโยเปิดตัวกล้องวิดีโอฟูลไฮเดฟรุ่นพกพาที่มาพร้อมกับฟังก์ชันมาก มายได้แค่สัปดาห์เดียว ล่าสุดโกดักได้ออกกล้องวิดีโอพกพารุ่นใหม่ที่ใช้ชื่อรุ่นว่า PLAYTOUCH ที่มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถซูม หรือเลือกเล่นวิดีโอไฮเดฟที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัส...Kodak Playtouch กล้องวิดีโอฟูลไฮเดฟ (1080p 30fps) พกพาที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างแท้จริง โดยเฉพาะฟังก์ชันป้องกันการสั่นไหว (image stabilizer) ขณะถ่าย หน้าจอ LCD ที่ฉาบด้วยสารลดการสะท้อนทำให้มองเห็นภาพได้ชัดเจนในที่แสงธรรมชาติ แถมยังมีช่องต่อไมโครโฟนภายนอกอีกด้วย หลังจากบันทึกเสร็จก็เพียงแค่จับกล้องวางตัวในแนวนอน การทำงานจะเข้าโหมดเล่นไฟล์วิดีโอด้วยจอไวด์สกรีน คลิกปุ่ม Play ที่ปรากฎบนกลางจอได้ทันที แถมยังถ่ายภาพนิ่งที่ 5MP ได้ด้วย จุดเด่นของการใช้งานที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งของ Playtouch ก็คือ ผู้ใช้สามารถแชร์วิดีโอได้ง่ายมากๆ งวิดีโอรุ่นพกพา Kodak PLAYTOUCH จะมาพร้อมกับคอนเน็คเตอร์ USB ที่สามารถดึงออกมาจากด้านข้างเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์ จากนั้นเพียงแค่สัมผัสปุ่ม Share บนหน้าจอ คุณก็จะสามารถแท็กวิดีโอ และภาพนิ่งจากกล้อง เพื่ออัพโหลดขึ้นไปยังเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กอย่าง Facebook หรือวิดีโอไซต์อย่าง YouTube และ Vimeo ตลอดจนเว็บไซต์ฝากภาพนิ่งอย่าง Flickr รวมถึงการแนบส่งอีเมล์ได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ คุณยังสามารถตัดเฉพาะช่วงของคลิปที่ต้องการด้วยฟังก์ชัน Trim โดยทำผ่านหน้าจอสัมผัสได้ทันที PLAYTOUCH รองรับการหน่วยความจำ SD/SDHC (สูงสุดได้ 32GB) และพอร์ต HDMI สำหรับต่อกับ HDTV มีให้เลือก 5 สีด้วยกันได้แก่ ดำ เงิน แดง ส้ม และน้ำเงิน สนนราคาอยู่ที่ 229.95 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7,500 บาท สำหรับผู้สนใจสั่งจองตอนนี้ ทางบริษัทจะเริ่มจัดส่งกล้องให้ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน เป็นต้นไป
ที่มา : Arip

อินเทลจับมือโนเกียพัฒนามือถือ 3D

อินเทลจับมือโนเกียพัฒนามือถือ 3D อินเทลกำลังพยายามอย่างหนักในการผลักดันชิปของตนให้ทำอะไรได้มากกว่าการเป็น สมองของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ล่าสุดทางบริษัทประกาศความร่วมมือกับ Nokia บริษัทผู้ผลิตมือถืออันดับหนึ่งของโลกในการพัฒนาแอพพลิเคชัน 3D สำหรับอุปกรณ์โมบาย ไม่แน่ว่า วันหนึ่งเราอาจจะได้เห็นโฮโลแกรมของคู่สายปรากฎบนมือถือของคุณก็ได้...ในขณะ ที่ชิปที่อยู่ในมือถือส่วนใหญ่จะได้รับการออกแบบโดย ARM บริษัทเล็กๆ ในอังกฤษ อินเทลกำลังสนใจตลาดนี้ อย่างไรก็ตาม ทั้ง Intel และ Nokia ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับมือถือที่เกิดจากความร่วมมือของทั้งสองบริษัทน้อย มาก แม้กระทั่งชิปของ Intel ที่จะอยู่ในอุปกรณ์ บอกแต่เพียงว่า แอพพลิเคชัน 3D จะทำงานบน MeeGo โอเพ่นซอร์สโอเอสบนมือถือ ความจริงทั้งสองบริษัทได้เปิดเผยเรื่องความร่วมมือกันมาตั้งแต่ปี 2009 แล้ว โดยจะร่วมมือกันพัฒนาอุปกรณ์โมบายรุ่นใหม่ ซึ่ง MeeGo จะทำงานอยู่บนอุปกรณ์ทุกอย่างตั้งแต่มือถือ แท็บเล็ต ไปจนถึงทีวี และระบบที่ให้ข้อมูลข่าวสาร และความบันเทิงในรถยนต์ Intel กล่าวว่า มหาวิทยาลัย Oulu เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับศูนย์วิจัยใหม่ เนื่องจากมันมีความพร้อมในการศึกษาถึงแนวคิดการสื่อสารที่จะเกิดข้นในอนาคต รวมถึงเทคโนโลยี Photonics ซึ่งประเด็นสุดท้าย Intel เพิ่งได้ประกาศเรื่องชิปที่สื่อสารด้วยเลเซอร์ เพื่อส่งข้อมูลขนาดใหญ่จากแก็ดเจ็ดชิ้นหนึ่งไปยังอีกชิ้นหนึ่งที่ความเร็ว สูงสุดถึง 50 กิกะบิทต่อวินาที ส่วนแนวคิดการนำกราฟิก 3D เข้าไปใส่ในมือถือยังอยู่ในช่วงของการเริ่มต้นศึกษาวิจัย "ความเป็นไปได้สำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้จะทำให้เราสามารถแสดงผลภาพสามมิติลอยตัว (3-D hologram) ของบุคคลที่คุณกำลังคุยอยู่นั้นบนโทรศัพท์ จากความสามารถที่เราเคยเห็นแต่ในภาพยนต์นิยายวิทยาศาสตร์จะกลายเป็นจริงใน วันนี้" Intel ยังกล่าวอีกด้วยว่า "ด้วยประสบการณ์ใหม่นี้ ผู้บริโภคจะรู้สึกผูกพันกับมือถือมากกว่าวิถีการใช้งานมือถือในปัจจุบันมาก ขึ้นไปอีก"
ที่มา : Arip

โซนี่ลุยกล้องกระจกโปร่งแสง รุ่นSony Alpha SLT a33, Alpha SLT a55 และ Alpha 560

โซนี่ลุยกล้องกระจกโปร่งแสง รุ่นSony Alpha SLT a33, Alpha SLT a55 และ Alpha 560 ยักษ์ใหญ่อาทิตย์อุทัยอย่างโซนี่ (Sony) เปิดตัวกล้องใหม่ตระกูล ALpha 3 รุ่นรวด ได้แก่ Sony Alpha SLT a33, Alpha SLT a55 และ Alpha 560 ที่โดดเด่นที่สุดคือ SLT a33 และ a55 ซึ่งใช้เทคโนโลยีดาวรุ่งซึ่งมีชื่อว่า Single Lens Translucent หรือกระจกโปร่งแสงที่ช่วยให้กล้องดิจิตอลสามารถทำงานได้ไวและเงียบยิ่งขึ้นเทคโนโลยี Single Lens Translucent หรือ SLT คือการใช้กระจกพิเศษชิ้นเดียวที่สามารถปล่อยให้แสงผ่านไปยังเซ็นเซอร์กล้องโดยตรง ขณะเดียวกันก็สามารถสะท้อนแสงไปยังเซ็นเซอร์โฟกัสภาพอัตโนมัติได้ด้วย โดยโซนี่ได้ทิ้งกระจกหรือปริซึมสะท้อนภาพจากเลนส์แบบเดิมซึ่งติดตั้งไว้บริเวณส่วนบนสุดของกล้องไป แล้วแทนที่ด้วยกระจก STL ที่สามารถแบ่งแสงไปยังหน่วยออโต้โฟกัสได้ จึงทำให้การบันทึกภาพเคลื่อนไหวยังคงสามารถโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว

ผลคือพื้นที่ติดตั้งอุปกรณ์ภายในกล้องจะน้อยลงเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีแบบเดิม และยังทำให้การถ่ายภาพสามารถทำได้เร็วขึ้น เพราะกล้องมีอัตราการถ่ายภาพต่อเนื่องที่สูงขึ้น รวมถึงการจับโฟกัสภาพอัตโนมัติที่สามารถทำได้ต่อเนื่องได้เร็วขึ้น ทั้งในรูปแบบภาพนิ่งและวิดีโอ

กล้องดิจิตอลเทคโนโลยีกระจกโปร่งแสงจะมีราคาเริ่มต้นที่ 650 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 21,200 บาท นั่นคือรุ่น Sony Alpha a33 เฉพาะตัวกล้อง มาพร้อมความละเอียด 14.2 ล้านพิกเซล หน้าจอแอลซีดี 3 นิ้วบนเครื่องความละเอียด 921,600 จุด สามารถใช้ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง 1080i 60 เฟรมต่อวินาที และ AVCHD คาดว่าจะเปิดตลาดในสหรัฐฯที่ 750 เหรียญพร้อมเลนส์ 18-55 มม. (ประมาณ 24,000 บาท) ในเดือนกันยายนนี้

รุ่นราคาสูงขึ้นมาคือ Sony Alpha a55 ความต่างคือความละเอียดกล้องสูงกว่า 16.2 ล้านพิกเซล และการเพิ่มเทคโนโลยี GPS เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดแทคหรือใส่พิกัดข้อมูลภาพถ่ายได้ คาดว่าโซนี่จะสามารถวางจำหน่ายได้ในเดือนตุลาคม สนนราคาราว 750 เหรียญ (ราว 24,400 บาท) เฉพาะตัวเครื่อง และ 850 เหรียญ (ราว 27,600 บาท) พร้อมเลนส์ 18-55 มม.

ทั้ง 2 สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้เกิน 7 เฟรมต่อวินาที โดย a55 มีอัตราถ่ายภาพความเร็วสูงสุด 10 เฟรมต่อวินาที และ a33 อยู่ที่ 7 เฟรมต่อวินาที

สำหรับ Alpha 560 นั้นเป็นกล้องดิจิตอล DLSR ตัวแรกของโซนี่ที่สามารถถ่ายภาพวิดีโอความละเอียดสูง HD AVCHD (1080i) หรือ MP4 (1080p) ความละเอียด 14.2 ล้านพิกเซล มาพร้อมเซ็นเซอร์ APS-C CMOS (23.5x15.6 มม.) ใช้หน่วยประมวลผลเพื่อลด noise ชนิดพิเศษ ช่วงกว้างรูรับแสง ISO ตั้งแต่ 100-12,800 คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายในญี่ปุ่นช่วงเดือนตุลาคมนี้เช่นกัน

Sony Alpha a560 นั้นไม่สามารถโฟกัสภาพอัตโนมัติได้ในขณะถ่ายภาพวิดีโอ แต่โซนี่ตั้งราคาจำหน่ายไว้เท่ากันกับ a33 คือ 650 เหรียญเฉพาะกล้อง และ 750 เหรียญพร้อมเลนส์ 18-55 มม.

สำหรับประเทศไทย ยังไม่มีรายละเอียดการวางจำหน่ายในขณะนี้

****คุณสมบัติเครื่อง Sony SLT a55

Sensor : • APS-C "Exmor" HD CMOS • 16.7 million total pixels • 16.2 million effective pixels • RGB (Primary) color filter array

Image sizes (3:2) : 4912 x 3264, 3568 x 2368, 2448 x 1624

Image sizes (Video) : • AVCHD: • 1920 x 1080, 59.94i (from 29.97fps sensor output) • Motion JPEG: • 1440 x 1080, 29.97p or 25p, depending on region • 640 x 480, 29.94 fps

Aspect ratios : • 3:2 • 16:9 • variable (Sweep Panorama)

File qualities / formats : • RAW • RAW + JPEG • RAW + JPEG Fine • JPEG (EXIF 2.2) - Standard • JPEG (EXIF 2.2) - Fine

File formats (Movie) : • AVCHD • QuickTime Motion JPEG

Lenses : • Charge protection coating on low-pass filter • Sensor-shift dust reduction mechanism

Lenses : • Sony A-mount • Konica-Minolta AF mount

FOV crop : 1.5x

Focus modes : • Auto Focus (15-point phase-detection AF system) • Manual focus • Face Detection • AF Tracking

Image stabilization : Super SteadyShot INSIDE

Sensitivity : • Auto • Intelligent ISO • ISO 100 • ISO 200 • ISO 400 • ISO 800 • ISO 1600 • ISO 3200 • ISO 6400 • ISO 12800 • ISO 25600 (multi-shot NR mode - JPEG only)

Metering range : -2 to 17 EV

Metering modes : • 1200-zone multi-segment • Center-Weighted • Spot

Shutter speed : • 60 -1/4000 sec. • Bulb (up to 4 mins) • Flash X-sync 1/160 sec

Drive modes : • Single • Continuous Hi (6 fps) • Continuous Lo (3 fps)

DOF preview : Yes

LCD monitor : • 3.0" TFT LCD monitor • Multi-angle swing and tilt (180°swing, 180° swivel)* • Low temperature Polycrystalline TFT LCD • 921,600 dots • Approx 100% frame coverage • Auto / Manual (5 steps between -2 and +2) / Sunny Weather

Storage : SD/SDHC/SDXC/MemoryStick Pro Duo

Dimensions : 124.4 x 92 x 84.7 mm (4, 7/8 x 3, 5/8 x 3, 1/3 inches)

Weight (camera body) : Approx. 441g

****คุณสมบัติของ Sony SLT a33

Sensor : • APS-C 'Exmor' APS HD CMOS • 14.6 million total pixels • 14.2 million effective pixels • RGB (Primary) color filter array

Image sizes (3:2) : 4592 x 3056, 3344 x 2224, 2288 x 1520

Image sizes (Video) : • AVCHD: • 1920 x 1080, 59.94i (from 29.97fps sensor output) • Motion JPEG: • 1440 x 1080, 29.97p or 25p, depending on region • 640 x 480, 29.94 fps

Aspect ratios : • 3:2 • 16:9 • variable (Sweep Panorama)

File qualities / formats : • RAW • RAW + JPEG • RAW + JPEG Fine • JPEG (EXIF 2.2) - Standard • JPEG (EXIF 2.2) - Fine

File formats (Movie) : • AVCHD • QuickTime Motion JPEG

Lenses : • Charge protection coating on low-pass filter • Sensor-shift dust reduction mechanism

Lenses : • Sony A-mount • Konica-Minolta AF mount

FOV crop : 1.5x

Focus modes : • Auto Focus (15-point phase-detection AF system) • Manual focus • Face Detection • AF Tracking

Image stabilization : Super SteadyShot INSIDE

Sensitivity : • Auto • Intelligent ISO • ISO 100 • ISO 200 • ISO 400 • ISO 800 • ISO 1600 • ISO 3200 • ISO 6400 • ISO 12800 • ISO 25600 (multi-shot NR mode - JPEG only)

Metering range : -2 to 17 EV

Metering modes : • 1200-zone multi-segment • Center-Weighted • Spot
Shutter speed : • 60 -1/4000 sec. • Bulb (up to 4 mins) • Flash X-sync 1/160 sec

Drive modes : • Single • Continuous Hi (6 fps) • Continuous Lo (3 fps)

DOF preview : Yes

LCD monitor : • 3.0" TFT LCD monitor • Multi-angle swing and tilt (180°swing, 180° swivel)* • Low temperature Polycrystalline TFT LCD • 921,600 dots • Approx 100% frame coverage • Auto / Manual (5 steps between -2 and +2) / Sunny Weather

Storage : SD/SDHC/SDXC/MemoryStick Pro Duo

Dimensions : 124.4 x 92 x 84.7 mm (4, 7/8 x 3, 5/8 x 3, 1/3 inches)

Weight (camera body) : Approx. 433g
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

iPad มาเดือนหน้าราคาไม่โหด

iPad มาเดือนหน้าราคาไม่โหด Edited - แหล่งข่าววงการไอทีไทยแย้มว่า iPad แทบเล็ตหน้าจอสัมผัสบรรลือโลกของแอปเปิลจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยในเดือนกันยายนนี้ ไม่แน่ใจว่าจริงเท็จอย่างไรแต่เชื่อว่าจะเป็นการจำหน่ายในร้านตระกูล "iStudio" ก่อนในช่วงแรก จากนั้นจึงขยายไปยังชอปของโอเปอเรเตอร์อย่างดีแทคหรือทรูต่อไป
ต้องยอมรับว่าแผนการวางจำหน่าย iPad ในประเทศไทยนั้นถูกเชื่อกันมานานว่าจะจุดพลุในเดือนกันยายน ตามกำหนดการวางจำหน่ายซึ่งแอปเปิลจับไทยแลนด์แดนสไมล์ไปอยู่ในกลุ่ม 4 หรือกลุ่มประเทศลำดับ 4 ที่แอปเปิลจะทยอยเปิดตลาด แต่ที่ผ่านมา ยังไม่มีใครออกมายืนยันหรือให้ข้อมูลที่แน่ชัดเกี่ยวกับรายละเอียดการจำหน่าย ซึ่งทำให้ตู้ค้าอิสระตามไอทีมอลล์เมืองไทย และเว็บไซต์ขายเครื่องหิ้วยังสามารถทำเงินได้ต่อไป

ข่าวล่าสุดนั้นยืนยันว่า iPad จะวางจำหน่ายในประเทศไทยช่วงเดือนกันยายนจริง แต่แหล่งข่าวยังไม่สามารถระบุช่วงเวลาได้ว่าจะเป็นต้น กลาง หรือปลายเดือน ที่น่าสังเกตคือแหล่งข่าวระบุว่าจะไม่ใช่การจำหน่ายในร้านสาขาโอเปอเรเตอร์อย่างดีแทคชอป ทรูชอป หรือเอไอเอสชอป แต่จะเป็นการจำหน่ายในร้านไอสตูดิโอ หรือร้านตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์แอปเปิลก่อนในช่วงแรก
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้แปลว่า iPad ล็อตแรกที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทย จะมีเฉพาะรุ่น WiFi ซึ่งมีราคา 499, 599 และ 699 เหรียญตามขนาดความจุเท่านั้น แต่อาจจะมีวางจำหน่ายรุ่น 3G ด้วย โดยผู้ซื้อจะต้องไปควานหา "ไมโครซิม" ซิมการ์ดขนาดเล็กเพื่อใช้กับ iPad และ iPhone ตามค่ายที่ชอบกันเอง

ถามว่าทำไมแอปเปิลจึงไม่วางแผนจำหน่าย iPad ในประเทศไทยแบบญี่ปุ่น ซึ่งให้โอเปอเรเตอร์เป็นชอปจำหน่ายทั้ง iPad รุ่น WiFi และรุ่น 3G คำตอบนั้นแสนง่าย นั่นคือไม่มีโอเปอเรเตอร์ใดที่สามารถ "commit" หรือการทำสัญญาการันตีตัวเองว่าจะสามารถทำยอดขายได้สูงตามที่แอปเปิลต้องการ

แม้ความต้องการใน iPad ของชาวไทยจะมีมาก แต่แหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคมมองว่า iPad นั้นเป็นสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่โทรศัพท์เคลื่อนที่ จึงเป็นเรื่องยากมากหากโอเปอเรเตอร์จะทำ commitment ว่าจะขายเครื่องให้ได้กี่แสนเครื่อง ตามที่เคยทำเมื่อครั้งนำเข้า iPhone เข้ามาจำหน่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เมืองไทยยังไม่มีบริการ 3G ในมือโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่

สิ่งที่เกิดขึ้นจึงมีเพียงไมโครซิมที่โอเปอเรเตอร์รายใหญ่ของไทยต่างพร้อมใจคลอดออกมาเซิร์ฟกลุ่มผู้ใช้ iPad และ iPhone ซึ่งหากสังเกตให้ดีจะพบว่าไมโครซิมเหล่านี้ไม่ได้ถูกโปรโมท เพราะซิมเหล่านี้ไม่ได้ก่อให้เกิดรายได้จริงจังแต่เป็นการผลิตเพื่อเซิร์ฟตลาดดีไวซ์เฉพาะกลุ่มเท่านั้น

แหล่งข่าวยังย้ำอีกว่า ราคาจำหน่าย iPad ในประเทศไทยโดย iStudio นั้นจะไม่หนีจากราคาจำหน่ายในต่างประเทศมากนัก ถือเป็นข่าวดีที่หลายคนตั้งตารอ ซึ่งคาดว่านับจากนี้ ตลาดเครื่องหิ้วในประเทศไทยจะได้รับผลกระทบอีกครั้ง เพราะมีความเป็นไปได้สูงที่ผู้บริโภคจะชะลอการซื้อ และรอดูราคาจำหน่ายจริงในเดือนหน้าแทน

iPad นั้นเริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกในสหรัฐฯเมื่อวันที่ 3 เมษายน หลังจากนั้น 2 เดือนจึงเริ่มวางจำหน่ายในออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สเปน และสวิตเซอร์แลนด์ กระทั่งเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา แอปเปิลจึงเปิดวางจำหน่ายเพิ่มในกลุ่มที่ 3 ได้แก่ ฮ่องกง สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ ออสเตรีย เบลเยี่ยม ไอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก แมกซีโก และเนเธอร์แลนด์
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

โนเกียหันพึ่งดีแทคเปิดตัว E5 รุกโมบายอินเทอร์เน็ต

โนเกียหันพึ่งดีแทคเปิดตัว E5 รุกโมบายอินเทอร์เน็ต ลูกค้าดีแทค ซื้อโนเกีย E5 ใช้เน็ตฟรี 100MB นาน 3 เดือน


โนเกีย ร่วมมือ ดีแทค เปิดตัว โนเกีย E5 เจาะกลุ่มผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน ที่ต้องการเชื่อมต่อสังคมออนไลน์และความบันเทิงเข้าด้วยกัน โดยลูกค้าดีแทคที่ซื้อโนเกีย E5 รับสิทธิใช้งานดีแทค อินเทอร์เน็ตฟรี 100 MB นาน 3 เดือน ตั้งเป้าจำหน่ายแก่ลูกค้าดีแทคเดือนละ 15,000 ตัว

นายชูมิท คาพูร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังเชื่อว่าตลาดสมาร์ทโฟนยังคงได้รับความนิยมต่อไป จากการผลักดันของทั้งโอเปอเรเตอร์และตัวบริษัทที่จำหน่ายมือถือ เพราะถือว่าเป็นเทรนด์ของอนาคต ที่ผู้ใช้โทรศัพท์สามารถใช้ทำอย่างอื่นได้ด้วย

"ปัจจุบันเวนเดอร์ที่จำหน่ายโทรศัพท์มือถือ เริ่มให้ความสำคัญกับสมาร์ทโฟน ทำให้ปัจจุบันราคาสมาร์ทโฟนเริ่มต่ำลง อย่างโนเกียที่เป็นสมาร์ทโฟนจะเริ่มที่ประมาณ 4,000 บาท ในรุ่น 5233 ทำให้ผู้บริโภคสามารถหาสมาร์ทโฟนมาใช้งานได้ง่ายขึ้น"

ในส่วนของการจำหน่ายโทรศัพท์ 2 ซิมของทางโนเกีย ถือว่าได้รับการตอบรับค่อนข้างดี เพียงแต่ยังเร็วเกินไปที่แสดงความคิดเห็น ส่วนเรื่องของระบบปฏิบัติการซิมเบียน3 มีกำหนดเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยราวๆ ไตรมาส 4

นายปกรณ์ พรรณเวษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มผลิตภัณฑ์ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คแซ็ส คอมมูนิเคชัน หรือ ดีแทค กล่าวว่า จุดประสงค์หลักที่ดีแทคเข้ามาร่วมกับโนเกียคือ การให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ใช้งานอินเทอร์เน็ตในช่วงเริ่มต้นการใช้งาน

"ดีแทคชอบทำตลาดแมส และ E5 ก็เป็นสมาร์ทโฟนในระดับแมส จากช่วงราคา และลูกค้ากลุ่มที่ชอบใช้งานคีย์บอร์ด QWERTY และฐานกลุ่มลูกค้าเดิมของโนเกีย ซึ่งจากตัวเลขผู้ใช้อินเทอร์เน็ตราว 2 ล้านคน เป็นโนเกียประมาณ 1.8 ล้านคน ซึ่งถือว่าเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่"

ปัจจุบันไลฟ์สไตล์การใช้งานของผู้บริโภค ใช้มือถือต่ออินเทอร์เน็ตเดือนละ 30 ชั่วโมง ขณะที่ใช้เวลาโทรศัพท์เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ดังนั้นอนาคตของโมบายอินเทอร์เน็ตจะเติบโตไปเรื่อยๆ และการที่โนเกีย ทำเซอร์วิสขึ้นมาใช้งานบนหน้าแรก ทำให้สามารถเข้าใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วย

"เราเน้นเรื่องดาต้ามาตลอด และคิดว่าเป็นหลักสำคัญในอนาคต มีการทำเซอร์เวย์ตลอดเวลาว่า มีจุดไหนช้าเร็วแค่ไหน โดยกำหนดการอัปเดตเครือข่ายทุกๆ 2 เดือน เพื่อให้เป็นผู้นำในเครือข่ายโมบายอินเทอร์เน็ตต่อไป"

สำหรับการร่วมมือในครั้งนี้ดีแทค วางเป้าไว้ที่เดือนละ 15,000 เครื่อง ในระยะเวลา 3 เดือน คือ เริ่มตั้งแต่ 1 กันยายน ถึง 30 พฤศจิกายน นี้ ซึ่งถ้าได้รับผลการตอบรับดี อาจจะมีการเพิ่มจำนวนต่อไป และในอนาคตอาจจะมีการร่วมมือในลักษณะนี้อีก

นางสาวนนทวัน สินธวานนท์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด โมบายอินเทอร์เน็ตมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเรื่องของเครือข่ายสังคมออนไลน์ ทั้งเฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ ผู้บริโภคจึงมองหาผลิตภัณฑ์ที่รองรับการใช้งานดังกล่าว รวมไปถึงการรับส่งอีเมล แชต ได้ด้วย

"จุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้คือ ราคาที่เปิดตัวมาอยู่ในช่วงราคา 8,000 บาท ซึ่งถือว่ามีการอัปเดตจากรุ่น E63 ในเรื่องของกล้องขึ้นมาเป็น 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช วัสดุ และการเชื่อมต่อระบบ 3G รองรับบริการโนเกีย แมสเซนจิง แชต พุชเมล และล่าสุดคือรองรับไมโครซอฟท์ เอ็กซ์เชนจ์ และ ไอบีเอ็มโลตัส บิสสิเนสอีเมล"

นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการต่างๆของโอวี อย่างโอวี แมปส์ โอวี สโตร์ รวมไปถึงบริการอื่นๆของโอวีได้ ส่วนกลุ่มลูกค้าคือไลฟ์สไตล นักธุรกิจ วัยรุ่น ในส่วนของเมนสตรีม ทำให้ผู้ใช้สามารถเช็คเฟสบุ๊ก อีเมล แชต ได้ตลอดเวลา

โดยโนเกีย E5 ถือเป็นซิมเบียนโฟนทรง QWERTY บาร์ ที่ออกมาตามรอยรุ่นพี่อย่าง E71 E72 และ E63 โดย E5 รวบรวมฟีเจอร์ทั้งความบันเทิงและเครือช่ายสังคมออนไลน์เข้ามาไว้ด้วยกัน วางจำหน่ายแล้วในราคา 8,220 บาท ส่วนลูกค้าดีแทคที่ซื้อโนเกีย E5 ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ถึง 30 พฤศจิกายน รับบริการ dtac internet ฟรี 100MB นาน 3 เดือน
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

LG Optimus GT540 แอนดรอยด์โฟนจากแอลจี (บทความประชาสัมพันธ์)

LG Optimus GT540 แอนดรอยด์โฟนจากแอลจี (บทความประชาสัมพันธ์)บทความประชาสัมพันธ์ - สมาร์ทโฟนหน้าจอสัมผัส ขนาดกะทัดรัด เต็มเปี่ยมไปด้วยขุมพลังจากแอนดรอยด์ พร้อมบริการจากกูเกิล กล้องออโต้โฟกัสความละเอียด 3 ล้านพิกเซล แชร์รูปผ่านแอปพลิเคชัน SNS ท่องโลกอินเทอร์เน็ตผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi, 3G-HSPA, EDGE และ GPRS รับฟังรายการวิทยุ FM ฟังเพลงผ่านช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ผ่านไมโครยูเอสบี รองรับไมโครเอสดีสูงสุด 32GB

ความสามารถต่างๆด้านบนนี้คือคำบรรยายคุณสมบัติของ LG Optimus แอนดรอยด์โฟนรุ่นล่าสุดที่วางจำหน่ายในประเทศไทยมีให้เลือกด้วยกัน 4 สี เอาใจคอวัยรุ่นทั้งหญิงและชาย รวมถึงเพิ่มลูกเล่นของโทรศัพท์ LG Optimus ให้ในแต่ละสีสามารถปรับแต่ง ธีมพื้นหลังเป็นสีตามตัวเครื่องให้สวยกลมกลืนกัน

โดย LG Optimus GT540 รุ่นนี้มี HomeScreen มาให้เลือกใช้งาน 2 แบบ คือ จากทั้งทางแอลจี และตามมาตรฐานของแอนดรอดย์ ขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 54.7 x 109 x 12.8 มิลลิเมตรเท่านั้น ถือว่าเป็นขนาดของตัวเครื่องที่กำลังเหมาะมือ

เมื่อมองจากมุมบนขอบโค้งสีเงินตัดกับตัวเครื่องสีดำดีไซน์สวยตามสไตล์เกาหลี ด้านขวามีปุ่มลัดเข้าโหมดกล้อง ที่ใช้เป็นชัตเตอร์ ปุ่มค้นหา และช่องเสียบไมโครยูเอสบี ด้านหลังเป็นฝาลายอลูมิเนียมช่วยให้จับแล้วไม่มีรอยนิ้วมือ พร้อมกล้องความละเอียด 3 ล้านพิกเซล เมื่อเปิดฝาหลังออกจะพบแบตเตอรีขนาด 1,500 mAh ใต้แบตเตอรีเป็นช่องใส่ซิมการ์ดแบบสอด

ส่วนขนาดหน้าจอของ LG Optimus GT540 รุ่นนี้อยู่ที่ 3 นิ้ว เป็นจอสัมผัสแบบ Resistive ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 320×480 พิกเซล มีไฟปุ่มกดสีดำขอบเงินตัดกับตัวเครื่องสีดำได้อย่างลงตัว

ข้อมูลตัวเครื่อง

LG Optimus GT540 ใช้แอนดรอยด์เวอร์ชัน 1.6 Upgrade ของ LG หน่วยประมวลผล Qualcomm MSM7227 600MHz มีพื้นที่เหลือให้ติดตั้งโปรแกรม 113MB จาก ROM 512MB และ RAM 256MB สามารถใส่ไมโครยูเอสบีได้สูงสุดถึง 32 GB

เมื่อใช้โปรแกรม Quadrant ในการวัดประสิทธภาพสามารถทำคะแนนได้ 438 คะแนนนับว่าสูงมาก ซึ่งดูจาก Rom Official ของรุ่นที่ขาย จะยังเป็น Android 1.6 Enhancement ที่สามารถทำคะแนนได้มากกว่า แอนดรอดย์ 2.1 บางรุ่นด้วยซ้ำ

หน้าจอ Home Screen ของแอลจี พร้อมไอคอน LG App Advisor ที่รวมโปรแกรมแนะนำพิเศษ เหมาะสำหรับคนไทยแก้ปัญหาแอปพลิเคชันใน Android Market ที่มากมายจนทำให้ผู้ใช้รายใหม่สับสน พร้อมความสามารถเข้าสู้ website เหมือนเข้าจากหน้าจอมคอมพิวเตอร์

แป้นพิมพ์ภาษาไทยถูกพัฒนาเพิ่มเติมสำหรับมือถือแอลจีโดยเฉพาะแถมมีระบบสะกดภาษา XT9 มาให้ด้วย ทดลองพิมพ์ทั้งใช้นิ้วและปากกาก็สามารถพิมพ์ได้ดี ข้อสังเกตุอย่างหนึ่งก็คือ ปกติโทรศัพท์ที่เป็นหน้าจอ Touch Screen มักจะพิมพ์ยากแม้ว่า บางรุ่นจะเป็นหน้าจอนิ้วสัมผัสแบบ Capacitive ก็ตามแต่ LG Optimus GT540 รุ่นนี้เป็นจอชนิด Resistive จึงสามารถใช้ปากกาจิ้มแทนนิ้วได้ทำให้เวลาพิมพ์นั้นทำได้รวดเร็วขึ้นมาก

ความสามารถของกล้องซึ่งเป็นจุดแข็งของ LG เลยก็ว่าได้โดยเมนูนั้นหน้าตา เหมือนเมนูของกล้องดิจิตอลมาก อีกทั้งยังสามารถใช้ฟังก์ชัน GEO Tagging ได้ด้วย จุดที่น่าสนใจคือระบบ Auto Focus ที่ทำให้ภาพที่ถ่ายดูดีขึ้นเยอะซึ่งน่าสังเกตุว่า ในราคาระดับนี้ ไม่ค่อยมีระบบ Auto Focus ในกล้องกันสักเท่าไหร่

อีกฟังก์ชันหนึ่งที่เป็นเอกสิทธิ์ของแอลจีก็คือ ฟังก์ชัน MV Editor ที่สามารถสร้างคลิปวีดีโอง่าย ๆ โดยการนำเอารูปภาพ หรือ คลิปวีดีโอที่ถ่าย มาจัดเรียง ใส่เสียง ใส่ข้อความ ทำให้ผู้ใช้ได้คลิปวีดีโอใหม่ไว้แชร์ให้เพื่อน ๆ ได้รับชม มีโหมด "ตัดต่ออัตโนมัติ" ช่วยตัดต่อให้วีดีโอที่ถ่ายได้มีความยาวกระชับขึ้น

สำหรับแอปพลิเคชันถ่ายภาพนิ่ง มีคุณสมบัติมากมายทั้งรองรับการซูมแบบดิจิตอล 15 ระดับ ปรับความอิ่มแสงได้ตั้งแต่ -2.5 ไปจนถึง +2.5 เท่า ปรับโหมดการโฟกัสได้ 4 รูปแบบ แบบอัตโนมัติ, แบบถ่ายใกล้ (Macro), แบบตรวจจับใบหน้า และ แบบกำหนดโฟกัสเอง โดยในแบบกำหนดโฟกัสเองนั้น สามารถปรับระดับระยะห่างโฟกัสได้ 18 ระดับ

ความละเอียดภาพถ่ายเลือกได้ 5 ระดับ ตั้่งแต่ 3M (2048 x 1536), 2M (1600 x 1200), 1M (1280 x 960), VGA (640 x 480) และ QVGA (320 x 240) คุณภาพของจุดบนรูปภาพเลือกได้ 3 ระดับ แบบธรรมดา, แบบละเอียด และ แบบละเอียดมาก ปรับสมดุลแสงสีขาวได้ 5 แบบ แบบอัตโนมัติ, แบบสว่างจ้า, แบบกลางแจ้ง, หลอดฟลูออเรสเซ้น และ มีเมฆมาก

โหมดถ่ายภาพมีให้เลือก 7 โหมด ได้แก่ โหมดธรรมดา, โหมดต่อเนื่อง, โหมดสวยงาม, โหมดใส่กรอบ, โหมดพาโนราม่า, โหมดอาร์ท และ โหมดถ่ายเมื่อยิ้ม สามารถตั้งเวลาในการถ่ายภาพได้ 3 ระดับ 3 วินาที, 5 วินาที และ 10 วินาที ปรับค่า ISO ได้ 3 ระดับ แบบอัตโนมัติ, 100, 200 และ 400

โหมดการจับภาพ เลือกได้ 6 โหมด โหมดอัตโนมัติ, โหมดภาพบุคคล, โหมดภาพทิวทัศน์, โหมดภาพกีฬา, โหมดภาพกลางคืน และ โหมดภาพพระอาทิตย์ตก เอฟเฟกต์สี เลือกได้ แบบ ภาพขาวดำ, ภาพสีชา, ภาพสีตรงกันข้าม, ภาพสีตรงกันข้ามแบบชา, ภาพสีน้ำเงิน, ภาพสว่างจ้า และ ภาพวาดพาสเทล

แสดงภาพหลังจากถ่ายเสร็จแล้ว แบบ ค้างไว้, แสดงชั่วครู่ และ ไม่แสดง แสดงตารางช่วงเล็ง ไม่แสดง, ตารางขนาด 2 คูณ 2 และ ตารางขนาด 3 คูณ 3 เสียงกดชัตเตอร์ เลือกได้ 4 เสียง เลือกบันทึกข้อมูลพิกัส GPS ลงในไฟล์รูปภาพได้ (GEO Tagging) สามารถซ่อนการแสดงไอค่อนปุ่มลัดต่าง ๆ แบบอัตโนมัติ หรือ กดซ่อนเอง สุดท้ายเลือกเปิดปิดใช้ระบบช่วยตรวจสอบการกระพริบตา

ขณะที่แอปพลิเคชัน Camcorder สำหรับถ่ายภาพเคลื่อนไหวนั้น รองรับการซูมแบบดิจิตอล 15 ระดับ ปรับความอิ่มแสงได้ตั้งแต่ -2.5 ไปจนถึง +2.5 เท่า ปรับโหมดการโฟกัสรูปได้ 6 แบบ แบบอัตโนมัติ, ถ่ายบุคคล, ถ่ายทิวทัศ ถ่ายกีฬา ถ่ายพระอาทิตย์ตกดิน และ ถ่ายกลางคืน เลือกขนาดความละเอียดของวีดีโอได้ 3 ขนาด VGA (640 x 480), QVGA (320 x 240) และ QCIF (176 x 144)

เอฟเฟกต์สี เลือกได้ แบบ ภาพขาวดำ, ภาพสีชา, ภาพสีตรงกันข้าม, ภาพสีตรงกันข้ามแบบชา, ภาพสีน้ำเงิน, ภาพสว่างจ้า และ ภาพวาดพาสเทล ปรับสมดุลแสงสีขาวได้ 5 แบบ แบบอัตโนมัติ, แบบสว่างจ้า, แบบกลางแจ้ง, หลอดฟลูออเรสเซนต์ และ มีเมฆมาก ความยาว แบบปกติ ไม่จำกัดความยาว และ แบบ MMS

โดยในแบบ MMS นั้นจะเลือกถ่ายได้เฉพาะที่ความละเอียด QCIF และจะมีการจำกัดความยาวให้เหมาะกับการส่งในรูปแบบ MMS เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10 - 12 วินาที บันทึก หรือ ไม่บันทึก เสียงลงไปในคลิป ซ่อนการแสดงไอค่อนปุ่มลัดต่าง ๆ แบบอัตโนมัติ หรือ กดซ่อนเอง และแสดงวีดีโอหลังจากถ่ายเสร็จแล้ว แบบ ค้างไว้, แสดงชั่วครู่ และ ไม่แสดง

ข้อสรุป

Optimus ถือเป็นสมาร์ทโฟน Android ที่มีคุณสมบัติครบครั้นแม้จะยังไม่ลงตัวในบางฟีเจอร์ เช่น กล้องหลังไม่มีแฟลช ยังเป็นแอนดรอยด์ เวอร์ชัน 1.6 โดยทางแอลจีแจ้งว่า Rom ตัวนี้จะไม่เหมือนกับ Android 2.1 เพียงแค่ ฟีเจอร์ pinch zoom และ Livewallpaper เท่านั้น

นอกนั้นRom ตัวนี้ทำได้หมด ถ้าเอา Rom android 2.1 update1 มาลงประสิทธิภาพที่ทดสอบไม่ดีเท่า Rom ปรับแต่งตัวนี้ เช่นเดียวกันกับ Android 2.1 Enhancement ของ LG ก็น่าจะมีความสามารถสูงกว่า Rom ของ Android อีกเช่นกันซึ่งความสามารถ Rom ของแอลจีนั้นจะสามารถ รีดคุณสมบัติของเครื่อง LG ได้สูงสุดนั่นเอง

ด้วยราคาเปิดตัวที่ 7,990 บาท มาพร้อมกับไมโครเอสดี 2 GB และโปรแกรม Navigator ก็นับว่าสมราคาทีเดียว
*****บทความประชาสัมพันธ์*****
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

Fujitsu Lifebook MH380 ปรับนิด เปลี่ยนหน่อย

Fujitsu Lifebook MH380 ปรับนิด เปลี่ยนหน่อย ตลาดเน็ตบุ๊กยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่ก้าวกระโดดแบบในช่วงสมัยยังบูมๆ แต่ละเวนเดอร์เองก็มีการพัฒนาในส่วนของดีไซน์ให้มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื่องจากฮาร์ดแวร์ที่้ใช้ภายในส่วนใหญ่จะคล้ายคลึงกัน

โดยเฉพาะหน่วยประมวลผลหรือซีพียู ที่ใช้อินเทล อะตอมเป็นหลัก ซึ่งในช่วงนี้เองยังไม่มีการพัฒนามากนัก คงต้องรอกันช่วงปลายปี ถึงจะเห็นอินเทล อะตอมรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมพอสมควร ดังนั้นเน็ตบุ๊กของฟูจิตสึในตอนนี้ จึงเน้นไปที่การออกแบบดีไซน์ให้สวยงาม ทันสมัยนิยมมากขึ้น

จุดเด่นสำคัญของเครื่องรุ่นนี้คือระยะเวลาการใช้งาน รวมไปถึงปุ่มควบคุมพิเศษที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการ Scroll Mouse ด้วยการหมุนแทนการใช้เมาส์แพดแบบทั่วไป ส่วนคีย์บอร์ดก็มีขนาดเกือบเท่ากับโน้ตบุ๊กปกติ ทำให้สามารถพิมพ์ได้ไม่ปวดมือ
Design Of Fujitsu Lifebook MH380

จากการที่เป็นเน็ตบุ๊ก ตัวเครื่องจึงต้องมีขนาดค่อนข้างเล็ก ทำให้ฟูจิตสึ ออกแบบเครื่องให้ดูเล็กภายใต้ความโค้งมนในส่วนขอบทั้ง 4 มุม เพื่อทำให้ดูเพรียวบางคล้ายขนนก รวมกับสีขาวเนียนของตัวเครื่องช่วยทำให้ตัวเครื่องดูน่าใช้งานมากขึ้น

ขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 270 x 189 x 34.3 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 1.27 กิโลกรัม ซึ่งเป็นน้ำหนักเมื่อรวมกับแบตเตอรีขนาด 6 เซลล์ วัสดุที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นพลาสติกผสมกับแมกนีเซียมอัลลอยด์ในบางส่วน ขอบเครื่องตัดด้วยสีเงินโครเมี่ยม เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

Samsung Champ ซัมซุงท้าชน 'แชมป์' ทัชโฟน 2,990.-

Samsung Champ ซัมซุงท้าชน 'แชมป์' ทัชโฟน 2,990.-
ซัมซุงทำได้ รุกตลาดทัชโฟนแมสด้วย"ซัมซุงแชมป์ (Samsung Champ)"ราคา 2,990 บาท ซุ่มขายเงียบตั้งแต่ต้นเดือนภายใต้แนวคิด เก่งครบเครื่อง ราคาโดนใจ หวังสนองความบันเทิงทุกรูปแบบ พร้อมรองรับครบทุกสังคมออนไลน์ คาดสิ้นปีขายได้ 3 แสนเครื่อง

นายวิชัย พรพระตั้ง ผู้อำนวยการธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดมือถือมีอัตราเติบโตขึ้น 10% ด้านตลาดแมสที่มีระดับราคาต่ำกว่า 3,999 บาทพบว่ามีการเติบโตที่สูงขึ้นมากถึง 12-13% ซึ่งโตขึ้นกว่าปกติและเป็นตลาดที่น่าจับตามองมากในขณะนี้

กลยุทธ์หลักของซัมซุงคือการสร้างนวัตกรรมมือถือหน้าจอสัมผัสที่ตอบสนองครบทุกการใช้งาน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด ทำให้ล่าสุดซัมซุงเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ 'ซัมซุงแชมป์' เพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มแมส ในราคา 2,990 บาทโดยมีฟังก์ชันการทำงานที่สมบูรณ์แบบถือเป็นผลิตภัณฑ์แม่ทัพเพื่อเดินหน้าเข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศ

ซัมซุง แชมป์ เป็นมือหน้าจอสัมผัส ที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคด้วยคุณสมบัติโดดเด่น Touchwiz Lite 2.0 ใช้งานง่าย ตอบสนองฉับไวด้วยปากกาสไตลัส บนหน้าจอขนาด 2.4 นิ้ว พร้อมตอบสนองความบันเทิงด้วยเครื่องเล่นเพลง MP3 วิทยุ FM ผ่านลำโพงคู่หรือชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ติดตามความเคลื่อนไหวในสังคมออนไลน์ Facebook, Twitter, MySpace บันทึกภาพด้วยกล้อง 1.3 ล้านพิกเซล แต่ไม่รองรับ 3G กล้องดิจิตอลซูมภาพไม่ได้ และไม่รองรับการใช้งานโปรแกรมแช็ตหรือ Instant Messaging

นอกจากนั้น ผู้ใช้ยังดาวน์โหลดโปรแกรมได้ฟรีจากไซต์ WAP สำหรับ Samsung Apps พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth v2.1 และ USB v2.0 สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์เข้ากับอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงไร้สาย ช่วยเพิ่มประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลายมากขึ้น ซัมซุง แชมป์ยังมาพร้อมการ์ดหน่วยความจำ microSD สูงสุด 8 GB

'ซัมซุง แชมป์ทำตลาดภายใต้แนวคิดเก่งครบเครื่อง ราคาโดนใจ ถือเป็นที่สุดของสินค้าไฮไลต์แห่งปีที่ซัมซุงจะใช้ในการขยายสู่ตลาดแมสทุกตารางนิ้วทั่วประเทศซึ่งคาดว่ายอดขายซัมซุงแชมป์จะสูงกว่าซัมซุง วัน ถึง 2-3 เท่าตัว ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีซัมซุงแชมป์จะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 3 แสนเครื่อง'

ซัมซุงใช้กลยุทธ์การตลาดด้วยการสร้างกระแสแชมป์ผ่านแบรนด์แอมบาสเดอร์คือ แพนเค้ก - เขมนิจ จามิกรณ์ เพื่อสร้างความผูกพันกับผู้บริโภคในวงกว้าง ซึ่งแพนเค้กถือเป็นผู้ที่มีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นและตรงกับภาพลักษณ์ของซัมซุง แชมป์

***คุณสมบัติ Samsung Champ

- Platform

Band : GSM&EDGE Band 850/900/1800/1900
Network & Data : GPRS Class 10, EDGE Class 10
Operation System : Proprietary SGP
Browser : Access NF 3.5
JAVA™ : MIDP 2.0, CLDC 1.1
SAR value : 0.71mW/g @ DCS [TBD]

- Design

Form Factor : Touch
Weight : TBD] 90g
Dimension (HxWxD) : TBD] 96.3 x 53.9 x 12.9mm
Display : Technology TFT, Resolution 320 x 240, Size 2.4"

- Battery

Capacity : 1000mA
Talk time : TBD] 722M
Standby : TBD] 666H

- User Interface

Input Device : T9

- Camera

Camera Resolution : 1.3MP
Shot mode : Timer shot, Multi shot, Mosaic shot, Night mode, Frame shot
Photo effects : Black&White, Negative, Sepia, Emboos, Sketch, Fog
White Balance : Auto, Daylight, Incandescent, Fluorescent, Cloudy
Video player : Yes
Video recording : Yes
Video messaging : Yes

- Music & Sound

Poly Ringtones : 64 poly
MP3 Ringtone : Yes
DRM : OMA 1.0
3D sound technology : DNSe
Music Library : ไม่มี

- Fun & Entertainment

Embedded JAVA™ Games : Yes
Embedded Wallpaper : Yes
PodCasting : Yes
FM Radio : Yes
Mobile Printing : Yes, BT
Offline Mode : Yes
Voice memo & Voice mail : Yes
Messaging SMS : Yes
MMS : Yes
Predictive Text Input T9 : Yes
Email : Yes
Cell broadcast : Yes
vCard / vCalendar : Yes
Connectivity Bluetooth : v2.1
USB : v2.0
WAP : v2.0
USB mass storage : Yes
PC Sync Application : Local Sync Only
Memory User Memory : 30MB
SMS Memory : 300 + SIM msg
Phone book entries : 1000
External Memory : MicroSD
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ต่อชีวิต"เน็ตบุ๊ก"?!

ต่อชีวิต"เน็ตบุ๊ก"?!สัญลักษณ์ชิปตระกูล Atom ของอินเทล Acer, Asus, Lenovo และ LG ลุยเปิดตัวเน็ตบุ๊ก (Netbook) คอมพิวเตอร์รุ่นเล็กเพื่อการเล่นอินเทอร์เน็ตที่มาพร้อมชิปอะตอม 2 คอร์ประมวลผลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐฯ สำหรับค่ายอื่นอย่าง Fujitsu, Hewlett-Packard, MSI, Samsung และ Toshiba อินเทลระบุว่าทั้งหมดกำลังมีแผนเปิดตัวเน็ตบุ๊กที่ใช้ชิปซึ่งบรรจุคอร์ประมวลผลจำนวนเท่ากับคอมพิวเตอร์รุ่นใหญ่นี้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทั้งหมดถือเป็นข่าวต่อชีวิตเน็ตบุ๊กซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะถูกตลาดแท็บเล็ตกลืนกินในไม่ช้า เพราะสาวกเน็ตบุ๊กจะได้มีตัวเลือกที่เหนือกว่าเดิม ทั้งด้านการเล่นเกม ชมมัลติมีเดีย และทำงานหลายอย่างพร้อมกันบนเครื่องราคาประหยัด

ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นหลักไมล์สำคัญของวงการเน็ตบุ๊กนับตั้งแต่มีการเปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 ในอดีต ขุมพลังของเน็ตบุ๊กส่วนใหญ่นั้นเป็นชิปอะตอมคอร์ประมวลผลเดียวหรือ Atom single core มาโดยตลอด การแจ้งเกิดชิป Atom Dual Core ของอินเทลเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาจึงได้รับความสนใจจากตลาดอย่างมาก เนื่องจากผู้ผลิตจะสามารถผลิตเน็ตบุ๊กหน้าจอ 10 นิ้วซึ่งมีราคาเฉลี่ยไม่เกิน 20,000 บาทได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เน็ตบุ๊ก Lenovo S10 3 พร้อม Atom N550
ACER

Acer Aspire One D255, D260 ที่จะมาพร้อมชิป Atom N550
ชิปอะตอมสองคอร์หรืออะตอมดูอัลคอร์ของอินเทลรุ่นแรกมีชื่อว่า N550 สามารถทำงานได้ดีกว่าชิปคอร์เดียวรุ่นพี่อย่าง Atom N450 ประมาณ 20% แต่ใช้พลังงานน้อยกว่าทำให้มีอายุแบตเตอรี่ยาวนานขึ้น 15-20 นาที โดย N550 ถือเป็นชิปตระกูลอะตอมรุ่นแรกที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม PineTrail ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่มีจุดเด่นเรื่องการประหยัดพลังงาน และถูกใช้ในชิปรุ่นแพงอย่าง Core i3, i5 และ i7

N550 นั้นมาพร้อม 2 คอร์ประมวลผลที่สามารถทำงานพร้อมกัน 2 คำสั่ง (thread) ต่อ 1 คอร์ประมวลผล เบ็ดเสร็จคือระบบ N550 จะประมวลผล 4 ชุดคำสั่งได้ในเวลาเดียวกัน ทำงานที่สัญญาณนาฬิกา 1.5 GHz มาพร้อมแคช L2 ขนาด 512KB 2 ชุดรวมเป็น 1 MB ตัวควบคุมหน่วยความจำถูกพัฒนาให้สามารถรองรับหน่วยความจำชนิf DDR3 RAM ขนาด 667 MHz

อินเทลระบุว่า กองทัพเน็ตบุ๊กซึ่งติดตั้งชิป N550 จากผู้ผลิตหลายรายจะพร้อมรบเต็มที่ในเดือนกันยายนนี้ คาดว่าในช่วงเวลานั้นตลาดเน็ตบุ๊กจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากผู้ผลิตหลายรายมีแผนผนึกกำลังของชิป 2 คอร์และชิปกราฟิกมารวมในเน็ตบุ๊กเครื่องเดียว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ASUS ที่เตรียมการคลอดเน็ตบุ๊กเพื่อคอเกมและคอหนังในอนาคต

นักสังเกตการณ์นั้นมองว่า การเข้าสู่ยุคอะตอม 2 คอร์นี้เกิดขึ้นเพราะอินเทลได้รับแรงกดดันจากเหตุอื่นร่วมด้วย หนึ่งในนั้นคือคู่แข่งอย่าง AMD ที่ประกาศพร้อมส่งชิป 2 คอร์ประหยัดพลังงานสำหรับเน็ตบุ๊กมาระยะหนึ่งแล้ว โดยถูกนำไปติดตั้งใน Hewlett-Packard Pavilion dm1z ซึ่งเป็นเน็ตบุ๊กขนาด 11.6 นิ้ว ใช้ชิป AMD Turion II Neo dual-core K625 ความเร็วรอบนาฬิกา 1.5 GHz พร้อมฝังชิปกราฟิก ATI Mobility Radeon HD 4225 ลงไปประเดิมตลาดแล้วเรียบร้อย ทั้งหมดนี้ทำให้อินเทลไม่สามารถอยู่เฉยได้

ในแง่ของตลาดเน็ตบุ๊ก Bob O'Donnell นักวิเคราะห์ IDC นั้นมองว่าการเปิดตัวชิปของอินเทลยิ่งตอกย้ำว่า กระแสข่าวลือเรื่องกาลอวสานของเน็ตบุ๊กนั้นเป็นเรื่องเกินจริง แม้ความนิยมใน iPad คอมพิวเตอร์พกพาหน้าจอสัมผัสจะมาแรงแซงเน็ตบุ๊ก แต่กลุ่มตลาดเน็ตบุ๊กก็ยังคงมีผู้บริโภคที่ต้องการใช้งานโปรแกรมระบบปฏิบัติการวินโดวส์บนอุปกรณ์ขนาดจิ๋วอยู่ดี

"เน็ตบุ๊กยังคงมีราคาถูกกว่า iPad และแอปพลิเคชันที่ทำงานบน iPad ก็เป็นคนละชนิดกันกับที่แอปพลิเคชันบนเน็ตบุ๊ก ซึ่งแม้แอปพลิเคชันบางอย่างจะเหมือนกัน เช่น แอปพลิเคชันเมลหรือเว็บเบราว์เซอร์ แต่วิธีในการใช้งานหรือจัดการก็ต่างกัน"

อย่างไรก็ตาม O'Donnell นั้นเชื่อว่าตลาดเน็ตบุ๊กจะไม่ขยายตัวรวดเร็วเช่นในช่วง 2 ปีก่อน โดยประมาณการว่าอินเทลนั้นจัดส่งชิปอะตอมแก่ผู้ผลิตเน็ตบุ๊กราว 20 ล้านชิ้นในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา และคาดว่าจะจัดส่งอีก 15-20 ล้านชิ้นในช่วงปีที่เหลือ

สำหรับสัดส่วนการจำหน่ายชิปอะตอมโดยรวม อินเทลนั้นประกาศว่าได้ส่งชิปอะตอมเพื่อคอมพิวเตอร์เน็ตบุ๊กทั้งสิ้น 70 ล้านชิ้นแล้วตั้งแต่ต้นจนถึงขณะนี้ เทียบกับยอดจำหน่าย iPad ที่คาดกันว่าจะทะลุ 10-15 ล้านเครื่องในปี 2010
ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

เผยภาพหลุดพร้อมวีดีโอ BlackBerry Bold 9780

เผยภาพหลุดพร้อมวีดีโอ BlackBerry Bold 9780 หลังจากมีภาพหลุดเกี่ยวกับ BlackBerry Bold 9780 ออกมาให้เห็นกันบ้างแล้ว ล่าสุดก็มีภาพหลุดพร้อมวีดีโอออกมาให้ชมกันอีกครั้ง แหล่งข่าวแจ้งว่า BlackBerry Bold 9780 จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ BlackBerry 6 เวอร์ชั่นใหม่ของแบล็คเบอร์รี่ ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องใช้กับโทรศัพท์แบบหน้าจอสัมผัสเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ได้กับโทรศัพท์ที่มีคีย์บอร์ดแบบ QWERTY ได้อีกด้วย ข้อมูลเบื้องต้นอื่นๆ ได้แก่ RAM 512 MB กล้องถ่ายรูป 5 ล้านพิกเซล รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi รายละเอียดต่างๆ คงต้องติดตามกันต่อไป

BlackBerry 9780 BlackBerry 6
เผยภาพหลุดพร้อมวีดีโอ BlackBerry Bold 9780
ที่มา siamphone

“ดีแทคแอร์การ์ด 3G” ใหม่ เร็วกว่า ดีกว่าพร้อมเทคโนโลยี RX Diversity

“ดีแทคแอร์การ์ด 3G” ใหม่ เร็วกว่า ดีกว่าพร้อมเทคโนโลยี RX Diversity ดีแทคเอาใจยุคโซเชียลเน็ตเวิร์กและสังคมออนไลน์ ล่าสุดวางจำหน่ายดีแทคแอร์การ์ดรุ่น “dtac aircard flip 158” ให้ ออนไลน์ได้ทุกที่ และยังพร้อมรองรับการใช้งาน 3G พร้อมฟังก์ชั่นการทำงานใหม่ๆ ด้วยจุดเด่นหัว USB แบบพับได้ทำให้สะดวกกับการใช้งาน และรับสัญญาณได้ดีขึ้น เมื่อปรับแอร์การ์ดอยู่แนวตั้ง ทั้งยังมีฟังก์ชั่น RX diversity ที่ช่วยให้การรับสัญญาณบริเวณขอบสัญญาณและช่วงรอยต่อของพื้นที่ได้ดีขึ้น เสถียรขึ้น ให้คุณเล่นอินเทอร์เน็ตได้อย่างสบายใจทุกที่ อย่างมั่นใจผ่านเครือข่ายคุณภาพจากดีแทค ที่จัดสรรช่องสัญญาณสำหรับรับส่งข้อมูลโดยเฉพาะ ใช้งานได้ง่ายๆ ด้วยการ Install โปรแกรมแบบอัตโนมัติ (Plug & Play) รับประกันสินค้านานถึง 1 ปี และสามารถเปลี่ยนคืนสินค้าใหม่ได้ภายใน 30 วัน ที่มาพร้อมซิมดีแทค ฟรีชั่วโมงอินเทอร์เน็ตถึง 300 ชม.สำหรับดีแทคแบบรายเดือน เพียง 2,990 บาท หรือ 60 ชม.สำหรับแฮปปี้แบบเติมเงิน เพียง 2,700 บาทให้คุณเลือกได้เหมาะกับตัวคุณ มีจำหน่ายที่สำนักงานบริการลูกค้า ดีแทคเซ็นเตอร์ และร้านค้า IT ชั้นนำทั่วประเทศ
ที่มา igadgety

Option iCON XY เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สาย 3G

Option iCON XY เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สาย 3G Option iCON XY อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายระบบ 3G คลื่นความถี่ 900/2100 MHz. (AIS, TOT, i mobile, IEC, i-kool) มาตรฐานยุโรปที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก รองรับความเร็วสูงสุด 7.2 Mbps./Upload 5.76 Mbps. พร้อมการใช้งาน GPRS/EDGE ทุกเครือข่าย รองรับ Micro SD สำหรับใช้งานเป็น Flash drive ได้สูงสุด 32 GB รองรับระบบปฎิบัติการ Windows 2000, XP, Vista, 7 และ MAC รูปทรงดีไซน์ที่ทันสมัยไม่เหมือนใครกับ Silm USB แบบบางและพับเก็บได้ หรูหรากับหน้ากากสีสันสดใสที่ถอดเปลี่ยนได้ตามความต้องการ (ฟรีหน้ากาก 1 คู่ในกล่อง) มั่นใจในคุณภาพด้วยการรับประกัน 2 ปี

ความเร็ว : Download 7.2 Mbps. / Upload 5.76 Mbps.
คลื่นความถี่ : 900/2100 MHz. (AIS, TOT, I mobile 3GX, IEC, i-kool)
GPRS/EDGE : 850/900/1800/1900 MHz. (AIS, DTAC, TRUE)
Micro SD : 32 GB (Flash Drive ในตัว)
OS : Windows 2000/ XP/ Vista / 7 และ MAC
Installation : ติดตั้งง่ายโดยไม่ต้องใช้ CD (Auto Run)
รับประกัน : 2 ปี
ที่มา igadgety

แนวได้อีก "BlackBerry 9670 Oxford" ฝาพับ QWERTY สำหรับขาแชท

แนวได้อีก "BlackBerry 9670 Oxford" ฝาพับ QWERTY สำหรับขาแชท
ช่วงนี้ RIM เริ่มออก "BB" รูปทรงใหม่ๆ เรื่อยมาตั้งแต่ "BB9800 Torch" ที่เป็นทรงสไลด์ (ได้ข่าวว่าแป้กจนต้องหั่นราคาโดนพลัน) และล่าสุดก็มีข่าวบีบีรุ่นใหม่ออกมาอีกโดยมีรหัสรุ่นคือ "BB9670 Oxford" รูปทรงแบบฝาพับ 2 จอนอกใน ด้านในมีปุ่ม QWERTY+TrackPad แบบที่เห็นๆ ในบีบีแท่งทั่วไป, หน้าจอความละเอียด 240x320 พิคเซล (จอนอก) และ 360x400 พิคเซล (จอใน)

ระบบปฏิบัติการภายในใช้ OS6.0, รองรับ 3G+WiFi+GPS, กล้อง 5MP+AF, เมมภายใน 8GB แต่จะเปิดตัววางขายกันเมื่อไหร่ ต้องติดตามกันให้ดีๆ
ที่มา : i3

LG E900 Windows Phone 7 อีกตัวจาก LG

LG E900 Windows Phone 7 อีกตัวจาก LG เพียงแค่ระยะเวลาไม่กี่วัน ก็มี Windows Phone 7 หลุดออกมาถึง 3 ตัวแล้ว โดยเมื่อไม่กี่วันก่อนก็มี Samsung Cetus i917 และ LG C900 มาวันนี้มีหลุดมาอีก 1 ตัวคือ LG E900 โดยมีลักษณะที่คล้ายกับ LG C900 เอามากๆ จุดสังเกตุที่ดูไม่เหมือนกันก็ตรงที่ LG E900 ไม่มี QWERTY Keyboard เหมือน LG C900 และก็ตรงปุ่มโลโก้วินโดว์ ของ LG C900 จะมีแถบโลหะสีเงินๆ แต่ LG E900 ไม่มี รายละเอียดอย่างอื่นนั้น ยังเห็นไม่ค่อยจะชัดเจน เพราะวีดีโอค่อนข้างเบลอเอามากๆ รออีกซักพักคงจะมีรายละเอียดสเปคของ LG E900 ออกมาให้เราได้ทราบกัน
ที่มา : nextmobilephone

กล้องโลโม Fisheye คิตตี้น่ารักสุดๆ

กล้องโลโม Fisheye แอ๊บแบ๊วคิตตี้ กล้องโลโม ช่วงนี้กำลังฮิต เอาใจหนุ่มๆ สาวๆ ยุคใหม่ สำหรับกล้องโลโม เลนส์ฟิชอาย จาก Sanrio ที่เห็นนี้ เป็นกล้องสีน้ำเงิน แดง ลวดลายฮัลโหล คิตตี้น่ารักแบบสุดๆ เลนส์ฟิชอาย ตัวกล้องใช้ฟิล์ม 35 มม.ราคาที่วางจำหน่ายคือ 60 เหรียญสหรัฐ
ที่มา : chipchick

กล้องถ่ายรูป-วิดีโอ 3D Fujifilm เปิดตัว FinePix W1 ระดับไฮเดฟ

กล้องถ่ายรูป-วิดีโอ 3D Fujifilm เปิดตัว FinePix W1 ระดับไฮเดฟ เมื่อปีที่แล้ว Fujifilm เปิดตัว FinePix W1 กล้องถ่ายรูปดิจิตอลคอมแพ็คที่สามารถถ่ายภาพ 3 มิติ โดยดูผ่าน LCD บนตัวกล้อง หรือในกรอบรูปดิจิตอลของทางบริษัท โดยไม่ต้องใส่แว่น ล่าสุดทางบริษัทได้ออกกล้องดิจิตอลคอมแพครุ่นใหม่ FinePix W3 ทีไม่เพียงแต่ถ่ายรูป 3D ได้เท่านั้น แต่มันยังสามารถถ่ายวิดีโอคลิป 3D ได้ด้วย แถมยังมีคุณภาพระดับ HD รวมถึงการเชื่อมต่อกับทีวี เพื่อรับชมภาพ 3D บนจอขนาดใหญ่ได้ง่ายอีกด้วย...Fuji FinePix W3 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 10 ล้านพิกเซล 2 ตัวเช่นเดียวกับกล้องรุ่นก่อนหน้านี้ แต่ภายในเปลียนหน่วยประมวลผลตัวใหม่ที่เก่งขึ้น โดยสามารถสร้างวิดีโอ 3D ที่ความละเอียด 720p ได้ เลนส์ทั้งสองข้างจะจับภาพจากคนละมุมมองพร้อมกัน เพื่อนำไปใช้ในการสร้างเอฟเฟกต์ 3D ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ดีกว่าการใช้เลนส์เดียวโหมด 3D Auto ของ FinePix W3 จะสามารถปรับระยะลึกตื้นของภาพ หรือวิดีโอที่ถ่ายด้วยเทคนิค parallax ได้โดยอัตโนมัติ หรือจะปรับเองก็ได้ และหากต้องการกลับไปสู่โหมด 2D แค่กดปุ่มเดียวทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นภาพ 2 มิติแบนราบได้ทันที แม้ในขณะที่กำลังบันทึกภาพ หรือวิดีโอ นอกจากนี้ FinePix W3 ยังสามารถต่อกับทีวี 3D ได้ด้วย (FinePix W1 ทำไม่ได้) โดยมันจะมีพอร์ต Mini HDMI ที่สามารถต่อจากตัวกล้องเข้ากับทีวี 3D เพื่อเล่นคอนเท็นต์สามมิติบนจอขนาดใหญ่ได้เลย อ้อ...อย่าลืมใส่แว่นตอนดูด้วยล่ะ แต่ถ้าดูจากจอ LCD ด้านหลังของ FinePix W3 คุณก็จะสามารถมองเห็นเป็น 3D ได้โดยไม่ต้องสวมแว่นตาแต่อย่างใด สำหรับกำหนดการวางตลาดจเป็นในเดือนกันยายน สนนราคาอยู่ที่ 500 เหรียญฯ หรือประมาณ 16,000 บาทเท่านั้น
ที่มา : Arip

Nikon COOLPIX S1100pj กล้องเล็กตัวแรกของโลกที่มีโปรเจคเตอร์ในตัว

Nikon COOLPIX S1100pj กล้องเล็กตัวแรกของโลกที่มีโปรเจคเตอร์ในตัว Nikon COOLPIX S1100pj วิธีใหม่ที่ช่วยในการดูภาพและแบ่งปันโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมกล้อง เล็กที่มีโปรเจคเตอร์ในตัวค่าความสว่างที่ 14 Lumen สว่างกว่ารุ่นก่อน 40% ทำให้ฉายได้ในทุกสถานการณ์ที่สะดวก นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับ PC หรือ Mac ของคุณเพื่อเก็บภาพไว้นำเสนอหรือสามารถแสดงรูปภาพได้ทันทีผ่านโปรเจคเตอร์ COOLPIX S1100pj มาพร้อมกับความละเอียด 14.1 ล้านพิกเซลพลังซูมที่ 5 เท่า จอ LCD สัมผัส 3 นิ้ว มี 2 สีให้เลือกดำและเขียว


ที่มา : tukkaeit

Sanyo Xacti ลุคใหม่-ฟูลไฮเดฟ+ซูม 3X

Sanyo Xacti ลุคใหม่-ฟูลไฮเดฟ+ซูม 3X Sanyo ได้เปิดตัวกล้องวิดีโอพกพารุ่น Xacti VPC-PD2BK ซึ่งมีดีไซน์ที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง ดูแล้วจะคล้ายกล้องวิดีโอพกพา Flip ที่เป็นผู้นำตลาด แต่สำหรับคุณสมบัติของ Xacti รุ่นใหม่ของ Sanyo ดูน่าใช้กว่ามากทีเดียว...Sanyo Xacti VPC-PD2BK เป็น Dual Camera โดยฟังก์ชันหลักจะเป็นกล้องวิดีโอพกพาที่มาพร้อมกับเลนส์ซูมออปติคัลถึง 3X ซึ่งแน่นอนว่า มันจะให้คุณภาพดีกว่าดิจิตอลซูม สามารถบันทึกวิดีโอระดับฟูลไฮเดฟฯ 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที พร้อมด้วยไมโครโฟนสเตอริโอด้านข้าง ทำให้ระบบเสียงที่ได้จากกาถ่ายด้วย Sanyo Xacti VPC-PD2BK มีมิติความคมชัดทั้งภาพ และเสียง นอกจากนี้ด้วยคุณสมบัติของเลนส์ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ทำให้ Sanyo เพิ่มความสามารถในการเป็นกล้องถ่ายรูปที่สามารถถ่ายภาพได้ความละเอียดสูงสุด ถึง 10 ล้านพิกเซล (หรือ 12 ล้านพิกเซลด้วยเทคนิค Interpolate หรือการสร้างพิกเซลเพิ่มขึ้น) แถมด้านบนยังมีแฟลชสำหรับถ่ายในที่แสงน้อยได้อีกด้วย อะไรจะเก่งกาจ และครบครันขนาดนี้Sanyo Xacti VPC-PD2BK รองรับการบันทึกวิดีโอ และภาพนิ่งด้วยการ์ดหน่วยความจำ SD/SDHC/SDXC ปุ่มฟังก์ชันใช้งานง่ายมาก อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่า ดีไซน์ของกล้องวิดีโอพกพารุ่นนี้คล้าย Flip ดังนั้นที่ด้านล่างของมันจะสามารถเปิดช่องให้เลื่อนคอนเน็คเตอร์ USB สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ เพื่อถ่ายโอนไฟล์วิดีโอ และภาพถ่ายได้ทันที แถมยังมีพอร์ต miniHDMI เพื่อใช้เชื่อมต่อกล้องกับ HDTV ได้อีกด้วย ส่วนแบตเตอรี่ที่มาด้วยกันจะสามารถใช้บันทึกวิดีโอได้นาน 65 นาที คุณสมบัติครบเครื่องกว่า Flip จริงๆ ด้วย สนนราคาของมันอยู่ที่ 170 เหรียญฯ หรือประมาณ 5,400 บาท กำหนดการวางตลาดเดือนหน้านี้ครับ
ที่มา : Arip

Casio Exilim EX-FC160S กล้องสำหรับนักกอล์ฟ

Casio Exilim EX-FC160S กล้องสำหรับนักกอล์ฟ Casio แนะนำกล้องถ่ายภาพดิจิตอล Casio Exilim EX-FC160S นอกเหนือจากการทำงานถ่ายภาพทั่วไปเป็นกล้องขนาด 10 ล้านพิกเซล ออฟติคอล ซูม 5 เท่า แล้ว ยังเพิ่มการบันทึกภาพวีดิโอที่ 270 เฟรมต่อวินาที เพื่อไว้ชมภาพแบบสโลโมชั่น ที่ 30 เฟรมต่อวินาที สำหรับเอาไว้เช็กความถูกต้องของวงสวิงกอล์ฟว่ามีความผิดพลาดหรือถูก ต้องอย่างไร เตรียมวางตลาดปลายเดือนนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น.คอกอล์ฟพลาดไม่ได้
ที่มา : thairath

ซองใส่ iPhone เพิ่มคีย์บอร์ด QWERTY

ซองใส่ iPhone เพิ่มคีย์บอร์ด QWERTY อุปกรณ์เสริมสำหรับ iPhone อย่างคีย์บอร์ด QWERTY มีออกมานานแล้วก็จริง แต่สำหรับดีไซน์ที่มีการสร้างสรรค์ออกมาล่าสุด ไอเดียน่าสนใจมากๆ โดยแทนที่จะเป็นคีย์บอร์ดอย่างเดียว ทางผู้ออกแบบจับมันพ่วงไปกับซองกันกระแทกไปซะเลย...สำหรับปลอกใส่ที่เห็นใน รูปนี้เป็นการออกแบบด้วยซอฟต์แวร์ CAD บนคอมพิวเตอร์ของ Altamash Jiwani โดยวัสดุที่ใช้ทำจะประกอบด้วย polycarbonate ที่ใช้ทำในส่วนของปลอกกันกระแทก และชุดคีย์บอร์ด QWERTY แบบเลื่อน ซึ่งดูจากรูปมันสามารถเลื่อนเข้ามาจนสุดขอบจอด้านล่างของ iPhone 4 นอกจากคอนเน็คเตอร์ด้านในของคีย์บอร์ด QWERTY จะต่อเข้ากับสล็อตของ iPhone 4 พอดีแล้ว ด้านล่างของคีย์บอร์ดก็ยังสามารถต่อพ่วงสายสัญญาณ เพื่อซิงค์กับคอมพิวเตอร์ หรือชาร์จแบตฯ ได้อีกด้วย นี่ถ้าผลิตออกมาจริง คงมีลูกค้าสนใจมิใช่น้อย
ที่มา : Arip

Sandisk 64 GB Integrated SSD เล็กกว่าสแตมป์อีก

Sandisk 64 GB Integrated SSD เล็กกว่าสแตมป์อีก Sandisk ได้ทำฮาร์ดดิสก์ให้มันเล็กเข้าไปอีก เอาไว้ใช้กับเครื่องพกพาทั้งหลาย ด้วยการสร้างแบบตัวเก็บข้อมูลแบบใหม่ขึ้นมา...Integrated SSD หรือ iSSD ออกแบบมาเพื่อฝังเข้ากับเมนบอร์ด แผ่นนี้มีขนาดๆ พอๆ กับสแตมป์ หนักเท่ากับคลิปหนีบกระดาษ และมีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 4 GB – 64 GB อ่านและเขียนที่ความเร็ว 160 MB/s และ 100 MB/s ตามลำดับ เร็วพอจะรันทั้งระบบให้เลย เชื่อมต่อด้วย SATA ตอนนี้มีขายแล้ว แต่ถ้าจะซื้อไปเยอะๆ ก็ต้องรอปั้มนิดนึง
ที่มา : NotebookSpec

มีอะไรใหม่บน Symbian 3 และ Nokia N8

มีอะไรใหม่บน Symbian 3 และ Nokia N8 นับถอยหลังต้อนรับ Nokia N8 ครั้งแรกกับระบบปฏิบัติการล่าสุด ซิมเบี้ยน 3 พร้อมวางตลาดในเมืองไทยเร็วๆ นี้ Nokia N8 มอบประสบการณ์เหนือชั้นกับ User Interface ใหม่ที่ตอบสนองการทำงานได้รวดเร็ว และลูกเล่นใหม่เพื่อการใช้งานที่บ่งบอกความเป็นคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ...มา ดูกันเลยกับ หน้าจอ Homesreen ที่รองรับได้ถึง 3 หน้าจอพร้อม Widget ให้คุณจัดการกับหน้าจอหลักได้ดั่งใจ ถ่ายภาพยนตรชิ้นเอกด้วยความละเอียดระดับ HD (High Definition) ครั้งแรกกับพอร์ต HDMI ให้คุณได้เชื่อมต่อกับ Home Theatre ที่บ้านอย่างง่ายเพื่อความบันเทิงพร้อมระบบเสียงคุณภาพเยี่ยมแบบดิจิตอล กระหึ่มรอบทิศทาง สนุกกับกล้อง 12 ล้านพิกเซล เลนล์ Carl Zeiss และแฟลช Xenon การจัดการภาพถ่ายที่ง่ายขึ้น ด้วยการย่อ-ขยายภาพแบบนิ้วบังคับ รองรับการทำงานที่หลากหลายได้พร้อมกัน และสามารถสลับไปมาได้อย่างรวดเร็วทันใจ เข้าถึงเมนูต่างๆ ได้สะดวก รวดเร็ว และง่ายดายกว่าเดิม เพียงคลิกเดียวก็สามารถเข้าใช้คอนเทนท์บน Ovi Store สังคมออนไลน์และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ อีกมากมาย สัมผัสประสบการณ์เหนือชั้นของ Nokia N8 ได้เร็วๆ นี้ที่ โนเกีย ช้อปทุกสาขา

ที่มา : Siamphone

GPS Navigator Leona รุ่น 522 พร้อมแผนที่เวอร์ชั่นล่าสุด SpeedNavi 3.0

GPS Navigator Leona รุ่น 522 พร้อมแผนที่เวอร์ชั่นล่าสุด SpeedNavi 3.0 บริษัท โกรว์ ริช เอ็นเทอร์ไพรซ์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย GPS Navigator LEONA ได้นำ GPS LEONA รุ่น 522 ออกสู่ตลาด หลังจากอัพเกรดโปรแกรมแผนที่นำทางเวอร์ชั่นล่าสุด Speed Navi SQ 3.0

มาพร้อมกับฟังก์ชั่นใหม่มีแผนที่นำทางที่ละเอียด แม่นยำ สามารถแนะนำเส้นทางที่สะดวก และ ใกล้ที่สุด เพื่อช่วยร่นระยะเวลาในการเดินทาง ให้คุณเดินทางได้สะดวกมากขึ้น และยังเพิ่มความง่ายในการใช้งาน อาทิ เลือกจัดการเมนูต่างๆ ได้จากหน้าแผนที่เพียงหน้าเดียว เพิ่มความสะดวกต่อการเข้าถึงทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน (Active menu) สามารถปรับองศาของมุมมองแผนที่แบบ 3 มิติได้ถึง 5 ระดับ (Map view mode) ตลอดจนเปลี่ยนไอคอนรถได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ยังแสดงสถานะของสัญญาณจีพีเอสจากสีรถได้ทันที (Vehicle symbol) อีกด้วย
มีวางจำหน่ายแล้ว ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปหรือสอบรายละเอียดโดยตรงได้ที่ บริษัท โกรว์ ริช เอ็นเทอร์ไพรซ์ จำกัด โทร. 0-2945-4507-12 หรือ www.leonathai.com

ที่มา : leonathai

G-NET “จีเนท” พัฒนาอีกขั้น เพิ่มซอร์ฟแวร์ GPS เพื่อนนำทางบนมือถือ

G-NET “จีเนท” พัฒนาอีกขั้น เพิ่มซอร์ฟแวร์ GPS เพื่อนนำทางบนมือถือ “จีเนท” ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนา เพิ่มฟังก์ชั่นให้โทรศัพท์มือถือ ให้มีความสามารถได้ครบครันในเครื่องเดียว รุกอีกขั้นเพิ่มซอร์ฟแวร์ GPS บนโทรศัพท์มือถือ ประเดิมรุ่นแรก รุ่น “G-One (G1)” มีระบบ GPS แยกออกจากการใช้งานเครื่อง สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องใส่ซิมการ์ด
ที่พร้อมเป็นเพื่อนนำทางคุณในทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็สำรวจเส้นทาง ค้นหาตำแหน่งต่างๆ ได้ดั่งใจ พร้อมสถานที่ตั้งใกล้เคียงเพิ่มความง่ายในการเดินทาง ลืมแผนที่แบบรูปเล่มไปได้เลย แถมยังพกพาฟังก์ชั่นในตัวเครื่องอีกมากมาย ครบครันทุกความต้องการ ทั้งดูทีวี, 2 ซิม ในเครื่องเดียว, ฟังวิทยุ, เล่นอินเตอร์เน็ต เช็ค E-Mail, อัพเดทข้อมูลบน Facebook ได้ง่ายๆ, กล้องถ่ายรูป (หน้า/หลัง), บันทึกเสียง บันทึกวีดิโอ ฯลฯ หน้าจอ Touch Screen ดีไซน์สวย ในราคาคุ้มค่า เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ หาซื้อจีเนทได้ที่ G-Net Shop หรือโลตัส บิ๊กซี และตัวแทนจำหน่ายทั่วไป สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ G – Net Call Center โทร 02 – 502-2222 และ www.gnetmobile.com
ที่มา : gnetmobile

DreamBook ePad A10 Plus จาก Pioneer Computer

DreamBook ePad A10 Plus จาก Pioneer Computer ช่วงนี้มีแท็ปเลตออกมาให้เราเลือกใช้กันไม่หวาดไม่ไหว และเครื่อง DreamBook ePad A10 Plus เป็นแท็ปเล็ตหน้าตาดีที่ออกมาให้เราได้เลือกใช้กัน...DreamBook ePad A10 Plus ใช้หน่วยประมวลผล Intel Atom N450 1.6 GHz มี Cache L2 512 KB มี FSB 533 MHz หน้าจอขนาด 10.6 นิ้ว ความละเอียด 1024 x 600 รองรับระบบ Multi Touch กราฟิกใช้ Intel GMA 3150 แชร์แรมได้สูงสุด 256 MB รองรับ DirectX 9.0c และ Pixel Shader 2 เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป ฮาร์ดดิสก์มีให้เลือกระหว่างแบบจานหมุนและ SSD ขนาด 8,16, 32 GB ตัวเครื่องรองรับหน่วยความจำสูงสุด 2 GB DDR2 667/800 MHz ตัวเครื่องมี USB2.0 2 ช่อง มีช่องเสียบการ์ด MS/SD/MMC มีช่อง Sim Card Slot ที่มีตัว Lan 10/100M และ WiFi 802.11 b/g/n เสียบไว้แล้ว ส่วน 3G/WiMax และ Bluetooth สามารถติดตั้งเพิ่มได้หากต้องการ แบตเตอร์รี่มีขนาด 3500 mAh แบบ Li-Polymer สามารถใช้งานได้ถึง 5 ชั่วโมง มีกล้องขนาด 1.3 MP มาให้พร้อมไมค์และมีลำโพงเล็กๆ 1 วัตต์ด้านละตัว ขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 263 x 168 x 18 mm หนัก 0.98 kg เหมาะสำหรับการพกพามากๆ ลูกค้าสามารถเลือกลงได้ทั้ง Windows XP และ Windows 7 สำหรับราคาขายตอนนี้เริ่มต้นที่ 17,500 บาทเท่านั้น

ที่มา : NotebookSpec

เผยภาพหลุด Nokia N9 ตัวต้นแบบ

เผยภาพหลุด Nokia N9 ตัวต้นแบบ หลังจากที่มีข่าวลือเกี่ยวกับ Nokia N9 มานาน เมื่อไม่นานมานี้ได้มีภาพหลุดของ Nokia N9 ที่ได้รับการเปิดเผยจากเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งในประเทศจีน โดยมีการบอกเล่าว่า Nokia N9 จะมีระบบปฏิบัติการ Meego OS จอแสดงผล nHD กล้องถ่ายรูปความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED สองดวง มาพร้อมแป้นพิมพ์ QWERTY แบบสไลด์ด้านข้าง และแบตเตอรี่ ขนาด 1320 mAh วัสดุในการผลิตตัวเครื่องจะใช้เป็นโลหะ และตกแต่งบางส่วนเป็นพลาสติก นอกจากนี้ยังมีการคาดเดาอีกว่า Nokia N9 จะเปิดตัวสมบูรณ์แบบภายในสิ้นปี 2010
ที่มา siamhpone

Pandigital PRD07T20WBL1 เครื่องอีบุ๊ค Android OS

Pandigital PRD07T20WBL1 เครื่องอีบุ๊ค Android OS Pandigital PRD07T20WBL1 เครื่องอ่านอีบุ๊ค ขนาด 7 นิ้ว หน้าจอ LCD ความละเอียด 800 x 600 พิกเซล ระบบปฏิบัติการ Android OS หน่วยประมวลผล ARM11 หน่วยความจำภายในเครื่อง 2GB รองรับการ์ด SD/SDHC แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในตัว สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมง
รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, mini USB port สนับสนุนการอ่านไฟล์ PDF และ EPUB พร้อมกันนี้ยังติดตั้งพจนานุกรม และฟังก์ชั่นการค้นหาคำ หรือข้อความมากับตัวเครื่องด้วย วางจำหน่ายประมาณเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ในราคา $199 หรือประมาณ 6,273 บาท
Pandigital PRD07T20WBL1 เครื่องอีบุ๊ค Android OS
ที่มา siamhpone

Samsung Galaxy S สีขาว เปิดตัวแล้ว

Samsung Galaxy S สีขาว เปิดตัวแล้ว Samsung ประเทศเกาหลีใต้ เปิดตัวสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ Samsung Galaxy S (M110S) สีขาว สีสันใหม่แห่งดาราจักร โดยเครื่องใหม่นี้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้นจากฝาหลังสีขาวเหลือบมุกราวหิมะ เสริมขอบด้านข้างโครเมี่ยมสีเงิน ส่วนกรอบหน้ายังคงเป็นสีดำอยู่ นอกจากนี้ทาง Samsung ยังเผยถึงความสำเร็จจากยอดขาย Galaxy S ที่รวดเร็วถึง 800,000 เครื่องในเกาหลีใต้หลังจากวางจำหน่ายไปได้ไม่นาน
ที่มา siamphone

Samsung Galaxy U เปิดเผยคุณสมบัติแล้ว

Samsung Galaxy U เปิดเผยคุณสมบัติแล้ว ซัมซุงเปิดตัวสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy U ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Android หน่วยประมวลผล 1 GHz ออกแบบมาสำหรับเครือข่าย CDMA มีให้เลือก 2 สี (ดำ/ขาว) รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi กล้องถ่ายรูป 5 ล้านพิกเซล จอแสดงผล WVGA ระบบสัมผัส กว้าง 3.7 นิ้ว วางจำหน่ายในเกาหลีใต้ ผ่านระบบ LG U+ (แอลจี ยูพลัส)
รายละเอียด โทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy U

* เครือข่าย J-CDMA , CDMA Rev. A
* จอแสดงผล AMOLED Plus 16 ล้านสี ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล กว้าง 3.7 นิ้ว
* ระบบปฏิบัติการ Android
* หน่วยประมวลผล S5PC111 - 1GHz
* การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11b/g/n, Bluetooth 3.0
* รับชมรายการโทรทัศน์หรือฟังเพลงผ่านระบบ T-DMB
* รองรับชุดหูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร
* กล้องถ่ายรูป ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- ระบบปรับโฟกัสอัตโนมัติ
- บันทึกวีดีโอ ความละเอียด HD (720p)
* รองรับไฟล์วีดีโอ MP, 3GP, 3GPP, K3G, Divx, Avi, Mkv, flv, asf
* รองรับไฟล์เพลง MP3, WAV, WMA, OGG, AAC, MID, MIDI, FLAC
* การ์ดหน่วยความจำภายนอก microSD สูงสุด 32 GB
* แบตเตอรี่ 1500 mAh
- สนทนา นานสูงสุด 7 ชั่วโมง
- เปิดรอรับสาย นานสูงสุด 370 ชั่วโมง
* ขนาดตัวเครื่อง 119.5 x 59.6 x 12.4 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 131 กรัม
Samsung Galaxy U เปิดเผยคุณสมบัติแล้ว
ที่มา siamphone

ตื่นตากับโลก 3 มิติเต็มอารมณ์ผ่านกล้อง Fujifilm W3

NEW Fujifilm 3D W3 Camera Professional Review - Mat Trim
ตื่นตากับโลก 3 มิติเต็มอารมณ์ผ่านกล้อง Fujifilm W3 เพียงแค่ปีกว่าๆเท่านั้นหลังจากที่ Fujifilm ได้นำเสนอกล้องถ่ายภาพ 3 มิติให้เราได้สัมผัสกัน มาจนถึงเวลานี้ในช่วงที่ใครๆก็ชักเห่อกับภาพหรือวิดีโอ 3 แบบมิติ ค่ายยักษ์ใหญ่วงการถ่ายภาพจากแดนอาทิตย์อุทัยก็ไม่รอช้าเตรียมส่งกล้องถ่าย ภาพ-วิดีโอตัวใหม่ที่มีชื่อว่า Fujifilm FinePix Real 3D W3 ออกมาให้แฟนานุแฟนทั้งหลายได้ทึ่งและอึ้งกิมกี่กันถ้วนหน้า
โดยเจ้ากล้อง W3 นี้สามารถทำงานได้ทั้งเป็นกล้องถ่ายภาพและกล้องวิดีโอในตัว โดยคุณสามารถเลือกเปิดปิดฟังค์ชั่น 3 มิติได้หากต้องการจะใช้งานถ่ายภาพแบบ 2 มิติทั่วไป ในส่วนของการทำงานแบบ 3 มิตินั้นกล้องตัวนี้จะสามารถบันทึกวิดีโอ 3 มิติในแบบ HD ที่ระดับความละเอียดสูงถึง 720p โดยจะใช้วิธีการจับภาพผ่านเลนส์ 3x optical zoom Fujinon และ CCDs แล้วนำภาพที่ได้จากทั้ง 2 เลนส์นี้มาผนวกกันเพื่อก่อให้เกิดความมีมิติขึ้นซึ่งจะมีลูกเล่นในการถ่าย แบบ 3 มิติให้ได้เลือกใช้งานภายในตัวกล้อง โดยคุณสามารถรับชมภาพแบบ 3 มิติได้ทันทีผ่านหน้าจอเลนส์ขนาด 3.5 นิ้วด้านหลังกล้องโดยไม่ต้องอาศัยแว่น 3 มิตหรือจะต่อตัวกล้องเข้ากับ 3DTV และโน๊ตบุ๊คแบบ 3D ผ่านช่อง miniHDMI ในตัวกล้องก็ยังไหว สำหรับใครที่คิดที่คิดว่ากล้องจะตัวใหญ่ก็อย่าเพิ่งหวั่นไปเพราะเจ้า W3 นี้มีน้ำหนักเบาเพียง 230 กรัมเท่านั้น
ในส่วนของราคานั้นก็จะอยู่ที่ 399 ปอน์ในเกาะอังกฤษและ 500 เหรียญในสหรัฐอเมริกา โดยตัวกล้อง Fujifilm W3 นี้มีกำหนดวางจำหน่ายในช่วงเดือนกันยายนนี้

ที่มา: gizmodo.com

ชาร์จไฟ iPhone, iPad พร้อมกันได้ไม่มีหวั่นด้วย InCharge Duo&Home

ชาร์จไฟ iPhone, iPad พร้อมกันได้ไม่มีหวั่นด้วย InCharge Duo&Home อย่างที่รู้กันดีว่า iDevice ทั้งหลายของ Apple นั้นค่อนข้างที่จะกินแบตไวชนิดเสียบชาร์จกันแทบไม่ทัน แล้วยิ่งถ้าใครมีอุปกรณ์ต่างชนิดกันมากๆอย่าง iPad กับ iPhone เวลาจะชาร์จไฟกันทีก็รับรองได้ว่าวิ่งวุ่นหา dock หรือ wall charge กันแทบไม่ทัน

โชคยังดีที่วันนี้เรามีนวัตกรรมใหม่อย่าง XtremeMac Incharge Duo and Home มานำเสนอทุกท่าน โดยอุปกรณ์ทั้ง 2 อย่างนี้ตามลำดับก็คือแท่นเสียบชาร์จและที่ชาร์จแบตแบบเสียบไฟบ้านสำหรับอุปกรณ์ของ Apple ทั่วไปนี่แหละ แต่ที่ทั้งคู่มีความพิเศษมากกว่าใครก็คือพวกมันสามารถเสียบชาร์จแบตอุปกรณ์ ได้ถึงคราวละ 2 ชิ้นเลยทีเดียวโดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็น iPod, iPhone หรือ iPad ก็ตามที โดยสนนราคาของเจ้า Duo ที่มาพร้อมกับหน้าจอ LED บอกสถานะแบตเตอรี่อยู่ที่ 60 ดอลลาร์ ขณะที่รุ่น Home ก็มาพร้อมกับสายชาร์จ USB แยกก็มีราคาค่างวดที่ราว 35 เหรียญเท่านั้น

ที่มา: gizmodo

Nokia เผยโฉม X3 ทั้งพิมพ์ทั้งทัชกันมันระเบิดเพื่อขาแชตตัวจริง

Nokia เผยโฉม X3 ทั้งพิมพ์ทั้งทัชกันมันระเบิดเพื่อขาแชตตัวจริง ในเมื่อหันไปทางไหนก็เจอแต่นักแชตทั้งหลายง่วนอยู่กับหน้าจอมือถือของตัวเอง ว่าแล้วยักษ์ใหญ่จากฟินแลนด์อย่าง Nokia ก็ไม่รอช้าขอลงมาร่วมในกระแสนี้ด้วยการเตรียมตัวส่ง Nokia X3 Touch and Type ออกวางจำหน่ายเพื่อเอาใจขาแชตซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ในตลาดเวลานี้ทั้งหลาย โดยเจ้า Nokia X3 ที่มีขนาดผอมเพรียวจับถนัดมือเพราะบางเพียง 9.6 มม.นี้ได้ผสมผสานรูปลักษณ์แบบแป้นพิมพ์ 12 ปุ่มมาตรฐานเข้ากับระบบหน้าจอแบบทัชสกรีนเพื่อทำให้การแชตหรือท่องเว็บต่างๆ เป็นไปได้อย่างไหลลื่นผ่านระบบปฏิบัติการ Symbian S40 ของมัน โดยยังจะสามารถรองรับระบบการเชื่อมต่อที่เป็นที่นิยมทั้งแบบ 3G และ WiFi ได้อีกด้วยขณะที่ในส่วนของความบันเทิงก็มีให้เต็มที่ทั้งเครื่องเล่น MP3 และวิทยุ FM ตลอดไปจนถึงกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลที่สามารถถ่ายวิดีโอและซูมได้ถึง 4X

สำหรับกำหนดวางตลาดของ Nokia X3 นี้อยู่ในช่วงไตรมาสที่ 3 โดยมีสนนาราคาอยู่ที่ราว 125 ยูโร

ที่มา: hypergearmag

ยินดีที่ไม่รู้จัก! Android ตัวใหม่เตรียมใช้ชื่อโค้ดเนม Honeycomb

ยินดีที่ไม่รู้จัก! Android ตัวใหม่เตรียมใช้ชื่อโค้ดเนม Honeycomb สิ้นปีนี้มีเรื่องให้สาวก Android หุ่นกระป๋องเขียวได้เฮกันอีกแล้วหลังมีรายงานข่าวจากหลายสำนักระบุตรงกันว่า Google เตรียมตัวที่จะปล่อย Android OS ตัวใหม่มาให้แฟนๆได้ใช้งานในช่วงปลายปี

โดยเชื่อกันว่าโค้ดเนมที่ใช้สำหรับเวอร์ชันล่าสุดนี้คือ Honeycomb เพื่อเป็นการสืบสานธรรมเนียมของ Google ที่มักจะใช้ชื่อรหัสเรียงกันมาตามตัวอักษร โดย Android ตัวล่าสุดของ Google ก็คือ Gingerbread ที่ก็เตรียมจะเปิดให้ใช้งานในช่วงสิ้นปีนี้หรืออย่างช้าสุดก็ต้นปี 2011 โดยมีรูปแบบการใช้งานร่วมกับ Tablet PC เป็นหลักนั่นเองซึ่งเวลานี้มีผลิตภัณฑ์ของ Toshiba และ Samsung มาประเดิมรอใช้งานเป็นเจ้าแรกๆแล้ว

นี่เองที่ทำให้เจ้า Honeycomb ที่ว่านี้น่าจะเปรียบเสมือนกับ Android เวอร์ชัน อัพเดต 3.1 หรือ 3.2 สำหรับสมาร์ตโฟนทั่วไปมากกว่าที่จะก้าวข้ามขั้นไปเป็น 4.0 เลย ซึ่งในเวลานี้ได้มีการสอบถามเรื่องข่าวลือนี้ไปทางบริษัทเซิร์ชเอนจิ้นยักษ์ ใหญ่แต่ยังไม่มีการออกมาแสดงความคิดเห็นจากทาง Google แต่อย่างใด

ที่มา: techradar

uDraw GameTablet อุปกรณ์วาดภาพบนเครื่องวี

uDraw GameTablet อุปกรณ์วาดภาพบนเครื่องวี THQ บริษัทเกมชั้นนำของโลกเปิดตัวอุปกรณ์ uDraw GameTablet สำหรับใช้บนเครื่องวี ของนินเทนโด เป็นลักษณะของแทปเล็ตไร้สายสำหรับใช้วาดภาพ โดยจะมีปากกาสไตลัสพ่วงมาให้ด้วย มีกำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้...uDraw GameTablet จะขายในราคา 70 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,300 บาท ภายในแพคเกจจะมีเกม "uDraw Studio" แถมมาให้ด้วย โดยเกมดังกล่าวเป็นเกมวาดรูป เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ใช้จินตนาการในการวาดรูป และสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ เมื่อวาดรูปเสร็จแล้วสามารถแปลงผลงานที่สร้างขึ้นลงใน SD การ์ดได้ uDraw GameTablet มีขนาด 9 คูณ 7 นิ้ว มีสล็อตสำหรบใช้วี รีโมต บนอุปกรณ์จะมีกรอบสีฟ้าขนาด 6 คูณ 4 นิ้วเป็นพื้นที่สำหรับการวาดรูป ในส่วนของปากกาสไตลัสจะมีสองปุ่มให้กด พร้อมด้วยระบบเซนซิทีฟเพื่อเลือกที่จะวาดแบบเส้นบางหรือเส้นทึบ uDraw GameTablet จะสามารถใช้งานกับเกมอื่นได้ด้วย โดยจะมี 2 เกมได้แก่ Pictionary และ Dood's Big Adventure ออกวางจำหน่ายพร้อมกับการเปิดวางจำหน่ายอุปกรณ์ ทั้งสองเกมจะขายในราคา 30 เหรียญสหรัฐ ประมาณ 1,000 บาท
ที่มา : Manager

Eurocom ทำลายกำแพงโน้ตบุ๊ก 3 TB ด้วย Seagate Momentus 7200 RPM

Eurocom ทำลายกำแพงโน้ตบุ๊ก 3 TB ด้วย Seagate Momentus 7200 RPM Eurocom ทำลายกำแพง 3 TB 7200 RPM สำหรับเครื่อง Workstation และ Server แบบพกพา ด้วยการลดขนาดของฮาร์ดดิสก์ลงจาก 12.5 mm เป็น 9.5 mm...ตอนนี้ Eurocom สามารถจะใส่ฮาร์ดดิสก์ได้ถึง 4 ตัว ในรุ่น EUROCOM D900F Panter, EUROCOM X8100 Leopard และจะมีรุ่นใหม่ EUROCOM X7200 Panther 2.0 ที่มีประสิทธิภาพทั้งการประมวลผล ความเร็ว และความจุ เครื่องตัวใหม่สามารถเอาไปใช้ได้ในหลายๆ งาน เพราะความจุขนาด 3 TB มี Intel i7-980X Extream หรือ Xeon 5500/5600 มีถึง 6 Core หน้าจอ 19 นิ้ว มี NVIDIA GTX 480M, Quadro FX 3800M, ATi Radeon Mobility HD5870 จะใส่แบบตัวเดียวหรือสองตัวก็ได้ รองรับทั้ง SLI และ CrossfireX ด้วยความสามารถที่จะใส่ฮาร์ดดิสก์ได้ถึง 4 ตัว ทำให้เครื่องมีทั้งความเร็วและความจุที่จะทำงาน
ตอนนี้สามารถใส่ได้ถึง 3 TB แล้ว การมีฮาร์ดดิสก์หลายตัวสามารถทำให้พวงแบบ RAID 0/1/5/10 ได้ตามต้องการ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีผู้ผลิตรายไหนทำได้เแบบนี้ เครื่อง EUROCOM Moblie Server และ Mobile Workstation ได้ออกแบบมาเพื่อทดแทนเครื่องตั้งโต๊ะแบบเดิม ให้ทั้งประสิทธิภาพ ความสะดวกในการพกพา สามารถปรับแต่ง อัพเกรด และมีความเสถียรในการทำงาน ตอนนี้ผู้ใช้สามารถเอาความจุมหาศาลแบบนี้ไปทำงาน ทดสอบและฝึกหัดได้ในหลายๆ ส่วนแล้ว เช่น Virtualization, Workstation Class Application, Cloud Computing หรือโปรแกรมอื่นๆ ที่ต้องการการเครื่องประมวลผลสูงและได้ใช้ความสามารถจากการทำ RAID 0/1/5/10
ที่มา : NotebookSpec