วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

อุปกรณ์เสริมMiLi Power Crystal แบตเตอรี่สำรองของโทรศัพท์มือถือ

MiLi Power Crystal แบตเตอรี่สำรองภายนอก สำหรับโทรศัพท์มือถือทั่วไป สมาร์ทโฟน รวมถึงอุปกรณ์ความบันเทิง เครื่องเล่น MP3, MP4 หรือ กล้องดิจิตอล มีหัวต่อมาให้เลือกใช้ทั้งหมด 6 แบบ สามารถชาร์จได้กับ โทรศัพท์ Nokia, Samsung, LG, Blackberry, iPod และ iPhone

MiLi Power Crystal ดีไซน์สวยงาม สะดวกในการพกพาไปได้ทุกที่ ให้ความจุแบตเตอรี่ 2000 mAh ใช้งานง่ายเพียงต่อสาย USB เข้ากับหัวต่อแต่ละแบบไปยังโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ก็เริ่มทำการชาร์จประจุให้ในทันที มีไฟ LED แสดงสถานะระดับพลังงานแบตเตอรี่ มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว และ สีดำ ราคา 1,290 บาท
รายละเอียด MiLi Power Crystal

แบตเตอรี่ความจุ 2000 mAh
จ่ายกระแสไฟเข้า/ออก สูงสุด 5V/1A
ระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรี่ 4.5 ชั่วโมง
ขนาดตัวเครื่อง 88 x 54 x 16 มิลลิเมตร
มีไฟ LED 4 ดวง แสดงระดับพลังงานแบตเตอรี่
ที่มา siamphone

รู้เท่าทัน แพกเกจโมบายอินเทอร์เน็ต

กระแสที่ฮิตฮอตสุดๆ ของคนไทยหัวใจดิจิตอลตอนนี้ หนีไม่พ้น อุปกรณ์อะไรก็ได้ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ มีตั้งแต่สมาร์ทโฟนที่นิยมใช้กันมากสำหรับหนุ่มสาวช่างเจรจาอย่างบีบี หรือจะเป็นคนที่ชอบเอนเตอร์เทนอย่างไอโฟน ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์นิสต์ที่ชอบโลกโมบิลิตี้ ก็จะต้องจับจองแอร์การ์ดเป็นอาวุธคู่กาย โดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือ เสพข้อมูลบนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก

'ยูทูป ได้พลิกโฉมหน้าการบริโภคคอนเทนต์ที่เป็นเท็กซ์เบสบนอินเทอร์เน็ตไปอีกสเต็ปหนึ่ง' ศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น เล่าถึงปรากฎการณ์บริโภคคอนเทนต์บนอินเทอร์เน็ตให้ฟัง

สอดคล้องกับ ปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการส่วนงานบริการเสริม บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) ที่ระบุว่าอัตราเติบโตของโมบายล์อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมใช้งานเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ทั้งที่เชื่อมต่อโดยตรงผ่านมือถือและดีไวซ์ต่างๆ อาทิ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และส่วนที่เชื่อมต่อผ่านโน้ตบุ๊กอย่างแอร์การ์ด
จึงไม่ต้องแปลกใจที่จะเห็นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือพากันแข่งออกแพกเกจดาต้าในรูปแบบต่างๆ ออกมาเป็นจำนวนมาก เพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้บริโภคในแต่ละเซกเมนต์ตามดีไวซ์ มีตั้งแต่แพกเกจเสริม ไล่ไปจนถึงแพกเกจพิเศษสำหรับสมาร์ทโฟนแต่ละยี่ห้อ คำถามที่เกิดขึ้นตามมาว่า จะเลือกใช้แพกเกจดาต้าแบบใดดีถึงจะเหมาะกับกำลังทรัพย์ และไลฟ์สไตล์

ตัวแปรสำคัญที่จะช่วยตอบโจทย์ว่า จะเลือกใช้แพกเกจดาต้าแบบไหนดีนั้น เริ่มจากศึกษาความพร้อมของโครงข่ายสื่อสารข้อมูลของผู้ให้บริการที่จะรองรับกับแบนด์วิธของการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมีมากน้อยเพียงใด

เทคโนโลยีสื่อสารข้อมูลบนโครงข่ายโทรศัพท์มือถือ GSMในไทยมีให้บริการ 3 ราย คือเอไอเอส ดีแทค และ ทรูมูฟ ซึ่งทั้ง 3 ค่ายต่างพัฒนาเทคโนโลยีโครงข่ายของตนขึ้นมาเป็นระดับ 2.75 G ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีที่เรียกว่า General Package Radio Service (GPRS) มีความเร็วส่งข้อมูลอยู่ประมาณ 115 กิโลบิตต่อวินาที กับ Enhanced Data Rate for Global Evolution (EDGE) มีความเร็วส่งข้อมูลประมาณ 220 กิโลบิตต่อวินาที
และเพื่อรองรับกับแนวโน้มการเติบโตของสมาร์ทโฟนที่จะทำให้ความต้องการแบนด์วิธบนโครงข่ายสื่อสารข้อมูลเพิ่มขึ้น

เอไอเอสเลือกที่จะลงทุนขยายประสิทธิภาพ EDGE ที่มีอยู่ให้ขึ้นเป็น EDGE+ (EDGE Plus) เพื่อให้สามารถใช้งานแบบมัลติทาสกิ้ง หรือใช้งานได้หลายอย่างพร้อมๆ กัน เช่นใช้งานทั้งอินเทอร์เน็ตและบริการทางด้านเสียงได้ โดยมีความเร็วในการรับและส่งข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตใกล้เคียงกันประมาณ 271 กิโลบิตต่อวินาที ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงของการปรับปรุงเครือข่าย ตามแผนเอไอเอสคาดว่าจะสามารถรปรับโครงข่ายให้รองรับ EDGE+ ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ดีแทคก็เลือกที่จะขยายช่องสัญญาณ EDGให้เพิ่มขึ้นโดยจะใช้เม็ดเงินลงทุนจนถึงสิ้นปีที่ 1 พันล้านบาท

ขณะที่กำลังเกิดสุญญากาศ 3G ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะมีความเร็วสูงสุด 7.2 เมกะบิตต่อวินาทีภายใต้เทคโนโลยีที่เรียกว่า High-Speed Downlink Packet Access (HSDPA) มีความเร็วของการสื่อสารสูงกว่า EDGE ถึง 36 เท่า หรือเร็วกว่า GPRSถึง 100 เท่า ผู้ให้บริการทั้ง 3 ค่ายมีเพียงเอไอเอสที่สามารถคิดค่าบริการ 3G บนความถี่ 900 MHz เดิมในขณะที่ดีแทคและทรูมูฟทำได้แค่ทดลองบริการ HSPA 3G บนความถี่ 850 MHz

เอไอเอสเปิดให้บริการโครงข่าย 3G ที่เชียงใหม่, ชลบุรี และหัวหิน ส่วนในกรุงเทพฯ มีให้บริการแถวสยามพารากอนกับที่เซ็นทรัลเวิลด์ ส่วนดีแทคมีการปูพรมติดตั้งสถานีฐานในพื้นที่กรุงเทพฯ ครอบคลุมพื้นที่สยามสแควร์ อโศก สามย่าน ราชเทวี ประตูน้ำ โดยดีแทคเปิดให้ทดลองให้ลูกค้าจำนวนหนึ่งทดลองใช้ฟรี แต่ยังไม่ได้เปิดให้ผู้ใช้บริการระบบ 2Gได้ทดลองใช้บริการแต่ประการใด

ส่วนโครงข่าย 3G ของทรูมูฟมีสถานีฐานมากที่สุดตอนนี้ คือ มีถึง 600 สถานีฐาน ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ จังหวัดชลบุรี หัวหิน เชียงใหม่ มีความเร็วในการรับส่งข้อมูล 7.2 เมกะบิตต่อวินาที ทำให้ทรูมูฟกลายเป็นผู้ให้บริการมือถือที่มีโครงข่ายสื่อสารข้อมูลได้เปรียบกว่าเอไอเอส ดีแทคอยู่หลายขุม

สิ่งที่ทำให้โครงข่ายโทรศัพท์มือถือของทรูมูฟแตกต่างจากโครงข่ายของเอไอเอสและดีแทคไปอีกขั้นหนึ่ง อยู่ตรงที่การคอนเวอร์เจนซ์โครงข่ายสื่อสารข้อมูลไร้สาย 'ไวไฟ' ของกลุ่มทรู ที่มีความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลอย่างต่ำ 1 เมกะบิตต่อวินาที โดยมีจุดฮอตสปอตกระจายตัวในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงหัวเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศกว่า 18,000 จุดทำให้ทรูมูฟกลายเป็นโครงข่ายเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ครบเครื่องมากที่สุด

จากความพร้อมของโครงข่ายดังกล่าว ทำให้ ทรูมูฟเป็นโครงข่ายที่มีเหมาะสมกับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนยี่ห้อดังอย่าง ไอโฟน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ทำให้ไอโฟนของทรูมูฟสามารถเข้าถึงข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วกว่าใคร โดยตัวเครื่องไอโฟนจะดึงสัญญาณโครงข่ายที่แรงที่สุดมาใช้งานอัตโนมัติ แถมแพกเกจราคาก็ไม่ได้ต่างจากเอไอเอส หรือดีแทคมากนัก

ส่วนแพกเกจสมาร์ทโฟน 'แบล็กเบอรี่' ความเร็วของการใช้เครือข่ายไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญ เนื่องจากแบล็กเบอรี่ใช้แบนด์วิธในการใช้ข้อมูลไม่มาก โดยเฉพาะ 'บีบีเอ็ม' เป็นการส่งเท็กซ์ หรือรูปภาพที่ส่งก็มีขนาดไม่ใหญ่มาก ปัจจัยสำคัญในการเลือกแพกเกจของค่ายใดอยู่ตรงที่ พื้นที่บริการของเครือข่ายเป็นสำคัญ เนื่องจากผู้ใช้มีพฤติกรรมส่งข้อมูลเล็กๆ ต่อเนื่องทุกที่ทุกเวลา ถ้าเลือกแพกเกจที่เก็บตามจำนวนข้อมูลดาวน์โหลดเป็นเมกะบิตคุ้มค่ากว่าคิดเป็นนาที ซึ่งแพกเกจของเอไอเอสหรือดีแทคน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี

ส่วนแพกเกจดาต้าสำหรับผู้ใช้แอร์การ์ด อาจเริ่มจากเน็ตซิมที่เน้นใช้งานดาต้าอย่างเดียว ทั้งนี้ควรเลือกแพกเกจตามพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต ควบคู่กับ พื้นที่ที่ใช้งานบ่อยๆ ถ้านิยมดาวน์โหลดโน่นนั้นนี่จำนวนมากๆ ควรเลือกแพกเกจแบบใช้งานไม่จำกัดน่าจะคุ้มค่าที่สุด แต่ถ้าเป็นคนใช้งานเช็กเมล์ไม่มาก เข้าเว็บต่างๆ ไม่นิยมโหลดข้อมูล ซื้อแพกเกจดาต้า 100-200 เมกะบิตน่าจะเอาอยู่

สถิติที่รวบรวมจากผู้ให้บริการมือถือระบุว่า คนใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไปมักจะใช้ข้อมูล 100-200 เมกะบิตต่อเดือน ส่วนวิธีคิดเงินเป็นนาทีนั้น ไม่เหมาะกับพื้นที่ให้ความเร็วแค่ GPRS ซึ่งค่อนข้างช้า หนึ่งนาทีอาจจะโหลดข้อมูลไม่ได้มาก ยิ่งเป็นพื้นที่มีผู้ใช้โทรศัพท์มือถืออย่างหนาแน่น (วอยซ์) ทำใจได้เลยว่า ระบบจะลดความเร็ว GPRSหรือ EDGE ลงเพื่อให้ผู้ใช้บริการทางด้านเสียงก่อนแบบอัตโนมัติ ส่วนแพกเกจนั้นมีบริการเตือนกรณีใช้งานเกินก็จะทำให้สามารถบริหารการใช้งานได้ตรงตามงบ ที่สำคัญควรดูอัตราค่าบริการส่วนเกินว่า เป็นเท่าไรด้วยจะได้งบไม่บายปลาย

เทคนิคการเลือกแพกเกจดาต้านี้น่าจะพอเป็นไอเดียถึงวิธีเลือกแพกเกจในตลาดที่มีเยอะมากจนตัดสินใจไม่ถูก

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

แอลจีฝัน "คอนเทนต์" ดันตลาดทีวีอินเทอร์เน็ตโต

แอลจีฝัน "คอนเทนต์" ดันตลาดทีวีอินเทอร์เน็ตโต บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด มอบประสบการณ์การรับชมโทรทัศน์รูปแบบใหม่อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วย LG INFINIA SMART TV โดยจับมือเนชั่น แชนแนล และเอ็มไทย พัฒนาเอ็กซ์คลูซีฟ คอนเทนต์สำหรับอินเทอร์เนตทีวีเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
แอลจีจับมือเนชัน ชาแนล และเอ็มไทย ดอทคอมเปิดตัวคอนเทนต์อินเตอร์เน็ตทีวีเป็นครั้งแรกของไทย ภายใต้คอนเซ็บต์ "LG Infinia smart TV" เตรียมพร้อมเสิร์ฟคอนเทนต์เพิ่มให้กับผู้ใช้งานในปี 54 อีก 12 ค่าย มั่นใจ"คอนเทนต์"จะช่วยดันตลาดทีวีอินเทอร์เน็ตโตแน่ปีหน้า
เฮียน วู (ฮาเวิร์ด) ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อิเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า นี่ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการพัฒนาคอนเทนต์อินเทอร์เน็ตทีวีเวอร์ชันภาษาไทย โดยแอลจีได้ร่วมมือกับเนชัน ชาแนล และเว็บไซต์เอ็มไทย ดอทคอม ในการนำเสนอคอนเทนต์เพื่อคนไทย ภายใต้แนวคิด 4C คือ Content (คอนเทนต์ที่หลากหลาย), Convenience (ความสะดวกสบาย), Connectivity (รองรับการเชื่อมต่อ) และ Charming (ดีไซน์สวย ล้ำสมัย)

"แอลจีมองเฉพาะคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นข่าว และความบันเทิง การทำคอนเทนต์บนทีวีจำเป็นต้องเลือกหน่วยงานที่เน้นการนำเสนอผ่านวิดีโอคลิป เพราะมีความน่าสนใจกว่าคอนเทนต์ที่เป็นตัวหนังสือ ในส่วนของเอ็มไทย ดอทคอมนั้นเป็นเว็บพอร์ททัลที่มีความหลากหลายในการนำเสนอเนื้อหา และเป็นเว็บไซต์ที่อยู่คู่คนไทยมานาน อีกทั้งยังมีการนำเสนอเนื้อหาผ่านวิดีโอคลิปค่อนข้างมาก โดยจะมีคลิปวิดีโอดูดวงจากอาจารย์คฑา ชินบัญชร, เคล็ดลับความสวยความงาม, เทคโนโลยี, สัตว์เลี้ยง และสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ครบ" เฮียน วู (ฮาเวิร์ด) ลี กล่าว

LG Infinia smart TV เป็นแอปพลิเคชันทีวีรุ่นใหม่ของแอลจีที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตคอนเทนต์ต่างๆ ผ่านฟีเจอร์ NetCast ผู้ใช้งานสามารถเข้าสู่ระบบได้อย่างงายดายเพียงกดปุ่ม NetCast โดยทีวีรุ่นเล็กสุดที่รองรับคอนเทนต์ดังกล่าวจะมีขนาดเริ่มต้นที่ 32 นิ้ว และราคาเริ่มต้นที่ 22,900 บาท

ในระยะแรก LG Infinia smart TV พร้อมให้บริการทั้งหมด 10 คอนเทนต์ โดยแบ่งเป็นของไทย 2 คอนเทนต์คือเนชัน ชาแนล และเว็บไซต์เอ็มไทย ดอทคอม อีก 8 คอนเทนต์เป็นของต่างประเทศ ได้แก่ Youtube, Facebook, Twitter, Accedo, Google Maps, Vtuner, Accu Weather และ Picasa

"ในปี 54 เราเตรียมออกคอนเทนต์เพิ่มอีก 12 คอนเทนต์ แบ่งเป็นคอนเทนต์ไทย 5 และคอนเทนต์ต่างประเทศ 7 แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าคอนเทนต์อะไร เนื่องจากเป็นข้อตกลงที่วางไว้กับพาร์ทเนอร์"

ปัจจุบันแอลจีมีส่วนแบ่งทางตลาดรวมทีวีอยู่ที่ 22% คาดว่าจนถึงสิ้นปีจะมีเพิ่มเป็น 25% คิดเป็นมูลค่า 7,200 ล้านบาท แอลจีตั้งใจว่าการเปิดตัวคอนเทนต์อินเตอร์เน็ตทีวีเวอร์ชันภาษาไทยจะเป็นตัวผลักดันให้แอลจีมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 28% ในปี 54
แอลจีฝัน "คอนเทนต์" ดันตลาดทีวีอินเทอร์เน็ตโต
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

โซนีเปิดตัว "NXCAM" กล้องวิดีโอระดับโปร เปลี่ยนเลนส์ได้

โซนีเปิดตัว "NXCAM" กล้องวิดีโอระดับโปร เปลี่ยนเลนส์ได้ โซนีประเทศญี่ปุ่นประกาศเปิดตัวกล้องวิดีโอแฮนดิแคม "NXCAM" สำหรับโปรเฟสชันนอล ที่ใช้เลนส์ E-Mount (ก่อนหน้านี้โซนีเคยเปิดตัว NEX VG10 กล้องวิดีโอเปลี่ยนเลนส์ได้ระดับคอนซูมเมอร์ออกมาวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว) โดยจะใช้ซูเปอร์เซ็นเซอร์แบบ CMOS ขนาด 35มม. และสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวในรูปแบบไฟล์ AVCHD ความละเอียด 1080p (60P/30P/24P หรือ 50p/25p) รวมถึงไฟล์ MPEG-4 AVC/H.264. ได้

โดยจะวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นกลางปี 2011 ในราคาประมาณ 3,500เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 126,000 บาท

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

โซนีส่งเครื่องอ่านอีบุ๊ก 5 นิ้วบุกญี่ปุ่น

โซนีส่งเครื่องอ่านอีบุ๊ก 5 นิ้วบุกญี่ปุ่น โซนีประกาศเปิดตัวเครื่องอ่านอีบุ๊ก Sony Reader 2 รุ่นใหม่สู่ตลาดบ้านเกิด คือ PRS-350 และ PRS-650 อีบุ๊กหน้าจอ 5 และ 6 นิ้วที่โซนีเชื่อว่าจะสามารถเอาใจหนอนหนังสือที่ต้องการอุปกรณ์พกพาที่ทำงานอย่างอื่นได้นอกเหนือจากการอ่าน งานนี้โซนีพร้อมบุกตลาดญี่ปุ่นเต็มตัวด้วยการยกพลเครื่องอ่าน 6 รุ่นซึ่งโซนีกำลังทำตลาดในสหรัฐฯ อังกฤษ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ในขณะนี้ มาเสริมตลาดเพื่อเป็นตัวเลือกแก่ผู้บริโภคแดนอาทิตย์อุทัย

โซนีมีแผนเริ่มวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องอ่านอีบุ๊ก 2 รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ในเดือนธันวาคม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี (ตั้งแต่ปี 2007) ที่โซนี่ใช้ญี่ปุ่นเป็นตลาดเปิดตัวเครื่องอ่านอีบุ๊กรุ่นใหม่ หลังจากที่โซนีชะลอการทำตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊กในบ้านเกิดลง
PRS-350 Reader Pocket Edition เป็นเครื่องอ่านอีบุ๊กขนาด 5 นิ้วที่มาพร้อมหน้าจอหมึกอีเล็กทรอนิกส์เทคโนโลยีของ E-Ink Corporation ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับ Amazon Kindle DX และ Kindle 3 ของอเมซอน หน่วยความจำรวม 2GB แต่สามารถเข้าถึงได้ 1.4GB มาพร้อมพอร์ต microUSB เพื่อการถ่ายโอนข้อมูลภาพและไฟล์อีบุ๊ก ขนาดเครื่อง 104.3x145x8.5 มม น้ำหนัก 155 กรัม

สำหรับ PRS-650 Reader Touch Edition มีหน้าจอใหญ่กว่า 350 ที่ 6 นิ้ว มีช่องต่อการ์ดหน่วยความจำ Memorystick PRO และ SD card ผู้ใช้สามารถฟังเพลงได้เพราะตัวเครื่องมีช่องต่อหูฟังขนาด 2.5 นิ้ว ทั้งหมดนี้ทำให้ 650 มีขนาดใหญ่กว่า 350 ที่ 118.8×168.0×9.6 มม น้ำหนัก 215 กรัม

รายงานระบุว่า เครื่องอ่านของโซนีสามารถรองรับไฟล์อีบุ๊กมาตรฐาน XMDF ซึ่งนำทีมการพัฒนาโดย Sharp ได้ด้วย ทำให้สามารถแสดงผลหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ภาษาญี่ปุ่นได้ดี จำหน่ายพร้อมปากกาสไตลัสเพื่อให้ผู้ใช้สามารถจดโน้ตได้ทันใจ

โซนียังประกาศให้บริการร้านหนังสืออีบุ๊ก Reader Store แก่ชาวญี่ปุ่น ซึ่งก่อนหน้านี้ให้บริการเฉพาะในสหรัฐฯและแคนาดาเท่านั้นบนปริมาณหนังสือทั้งสิ้น 20,000 เล่ม เบื้องต้น โซนีคาดว่าจะวางจำหน่าย PRS-350 ในราคา 20,000 เยน และ PRS-650 ในราคา 25,000 เยน (ประมาณ 7,200-9,000 บาท) กำหนดการจำหน่ายคือวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ผ่านร้านค้าปลีกมากกว่า 300 แห่งทั่วญี่ปุ่น

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ARKHIPPO 1 เคสพันธุ์ถึกสำหรับ iPhone 4


ARKHIPPO 1 เคสสำหรับ iPhone 4 มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ 165 x 80 x 47 มิลลิเมตร เพิ่มความสะดวกในการจับถือ หรือ แนบไว้กับซอกคอเวลาสนทนาพร้อมกับทำงานอย่างอื่น ARKHIPPO 1 ผลิตจากวัสดุ EVA มีความนุ่ม ยืดหยุ่น แต่แข็งแรงเป็นพิเศษ แม้ทำโทรศัพท์ตกก็หมดกังวัลไปได้เลยว่าจะกระทบกระเทือนไปถึงโทรศัพท์ เพราะ ARKHIPPO 1 ปกป้องไอโฟนของคุณได้ดียิ่งกว่าเคสประเภทอื่น ด้วยขนาดของเคสที่ใหญ่เหมาะมือ คุณจึงสามารถวางไอโฟนได้ทั้งแนวตั้งหรือแนวนอน ARKHIPPO 1 มีให้เลือก 7 สี (ส้ม, เขียว, ชมพู, น้ำเงิน, ม่วง, ขาว และ ดำ) ราคาประมาณ 720 บาท
ARKHIPPO 1 เคสพันธุ์ถึกสำหรับ iPhone 4
ที่มา siamphone

iPhone4 ดียังไง ทำไมถึงฮิต?

ตอนนี้ iPhone4 กำลังเป็น big event ในบ้านเรา เพราะโอเปอเรเตอร์เครือข่ายโทรศัพท์ทั้งหลายกำลังแข่งกันโปรโมท iPhone4 กันอย่างคึกคัก คึกโครม สำหรับคนที่รู้เกี่ยวกับ iPhone ดีอยู่แล้ว คาดว่าคงไม่ยอมตกข่าวกับรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นสาวก iPhone ทำไม iPhone4 ถึงน่าสนใจ เรามีคำตอบ
iPhone4 เป็น iPhone รุ่นล่าสุดจาก Apple ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จุดเด่นๆ นอกจากหน้าจอแบบ Touch Screen ที่ถือเป็นสไตล์หนึ่งของ iPhone ไปแล้ว ฟังก์ชั่นใหม่ๆ ที่เพิ่มมาก็เรียกความสนใจได้น่าดูทีดียว อย่างฟังก์ชั่นการสนทนแบบเห็นหน้า (FaceTime) ที่ทำได้ง่ายๆ แค่ใช้ Wi-Fi ก็ถือเป็นจุดหนึ่งที่เรียกว่า “ล้ำ” สุดๆ นอกจากนี้หน้าจอแบบคมชัด (Retina Display) ก็ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้มือถือเครื่องนี้ไม่ธรรมดา ไหนจะการใช้งานแบบ Multitasking ที่ช่วยให้ทำงานได้หลายโปรแกรม ไม่ต้องเปิดปิดให้ยุ่งยาก พร้อมฟังก์ชั่นการบันทึกภาพแบบ HD Video อีก เรียกว่าอัดมาเต็มที่ ให้รุ่นอื่นๆ ต้องค้อนกันเลยทีเดียว

สำหรับคนที่สนใจจะเป็นเจ้าของ iPhone4 หลังจากที่ปล่อยให้เมืองนอนเมืองนาฮิตมาซักพัก ในที่สุดเมืองไทยก็มีโอกาสซะที เพราะ 3 ข่ายผู้ให้บริการมือถือต่างประกาศออกมาเล้วว่า พร้อมเปิดตัวให้เป็นเจ้าของได้เร็วๆ นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง AIS ที่ถือว่าเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก คาดว่าจะมีเซอร์ไพร้สต่างๆ ตามมาเพียบ เพราะด้วยจำนวนของผู้ใช้บริการในระบบที่มากกว่าเจ้าอื่น คาดว่าโควตาเครื่องที่จะนำมาขายน่าจะสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ส่วนในเรื่องสัญญาณไม่น่าเป็นห่วงเพราะ iPhone4 ใช้ได้ทั่วประเทศแน่ๆ ไม่จำกัดอยู่แค่เฉพาะหัวเมืองใหญ่ๆ อย่าง iPhone3G ซึ่งเรื่องนี้ระบบใครครอบคลุมมากย่อมได้เปรียบ

ราคายังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทั้ง 3 ค่ายอุบเงียบกันอยู่ แต่คาดว่าคงไม่ต่างกันเท่าไหร่ งานนนี้คงฟาดฟันกันด้วยโปรโมชั่น ของแถม ของที่ระลึกที่จะตามมา แต่ถึงจะฟาดฟันกันอย่างไร งานนี้บอกได้อย่างเดียวว่าผู้บริโภคอย่างเราน่าจะกำไรเห็นๆ

iPhone4 ดียังไง ทำไมถึงฮิต?
ที่มา news.siamphone.

iPhone แบบสไลด์ข้างคีย์บอร์ดเอาใจคนชอบแชท

หากใครที่ใช้งาน iPhone 4 แล้วรู้สึกอิจฉาคนที่ใช้เครื่องสมาร์ทโฟนแบบมีคีย์บอร์ดสไลด์ข้างทำให้ง่าย ต่อการพิมพ์งาน หรือแชทอย่างเต็มรูปแบบแล้วหล่ะก็ วันนี้เราจะทำให้หลายๆ คนอิจฉา และมองคุณตาเป็นมัน เพราะวันนี้มีอุปกรณ์เสริมแบบเต็มรูปแบบด้วยการสวมใส่เคส BoxWave KeyBoard Buddy ไว้ และเลื่อนสไลด์คีย์บอร์ดลงมาเท่านี้ก็สามารถใช้งานการพิมพ์ได้ดั่งใจแล้ว สำหรับความหนานั้นก็จะเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อย ส่วนเรื่องราคานั้นยังไม่มีการแจ้งมาเป็นที่แน่นอนแต่ดูเหมือนว่าจะเริ่มมี จำหน่ายในเดือนหน้านี้
ที่มา mobilemag

Hybrid E-Ink และ AMOLED ผสานเทคโนโลยีเพื่อยืดอายุการใช้งานแบต

หน้าจอเป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุด ดังนั้น นวัตกรรมเกี่ยวกับหน้าจอจะเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากๆ มีผู้ผลิตหลายรายพยายามสร้างเทคโนโลยีใหม่ๆ ดีๆ ขึ้นมา แต่ในแง่ของการตลาดมันก็มักจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่การผสมความสามารถของสองเทคโนโลยีนี้น่าจะทำให้ทุกคนได้ประโยชน์ AMOLED เป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความนิยมในโทรศัพท์มือถือเพราะให้สีสันที่คมชัด และเมื่อเข้าสู่โหมด Standby มันจะเปลี่ยนไปใช้ E-Ink ที่ตอนนี้บรรดานักอ่านหนังสือยอมรับแล้วว่าชาร์จแบตครั้งเดียว อยู่ได้เป็นอาทิตย์ นั้นหมายความว่าการใช้งานแบตเตอรี่ของเราจะยาวนานขึ้นโดยที่เราไม่ต้องเสีย สละหน้าจอสวยๆ ตลอดกาล
ที่มา NotebookSpec

วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

คาด “iPad 2” ลุยตลาดเมษายนปีหน้า

แฟ้มภาพ iPad แท็บเล็ตยอดฮิตจากแอปเปิลซึ่งคาดว่าจะมีรุ่นที่ 2 ตามมาในเดือนเมษายน ปี 2011
ท่ามกลางข่าวลือมากมายเกี่ยวกับ “iPad 2” แท็บเล็ตรุ่นใหม่ในตระกูล iPad ของแอปเปิลที่ยังไม่รู้แน่ชัดว่าแอปเปิลจะใช้ชื่อใดในการทำตลาด ล่าสุดนักวิเคราะห์จากบริษัท Gleacher & Company ประกาศว่าได้รับข้อมูลวงในที่ชี้ว่าแอปเปิลจะเปิดตัว iPad รุ่น 2 ได้ในเดือนเมษายน 2011 หรืออีกประมาณ 5 เดือนข้างหน้า

การคาดการณ์นี้เป็นของไบรอัน มาร์แชล (Brian Marshall) นักวิเคราะห์ของบริษัท Gleacher & Company ซึ่งให้สัมภาษณ์ต่อนิยสาร Computerworld จนกลายเป็นข่าวทั่วอินเทอร์เน็ต เพราะความเห็นครั้งนี้สวนทางกับรายงานข่าวในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสื่อออนไลน์ในช่วงเวลานั้นเชื่อว่าแอปเปิลจะแจ้งเกิด iPad 2 เพื่อจำหน่ายในช่วงเทศกาลจับจ่ายปลายปีนี้

อย่างไรก็ตาม ความเห็นของมาร์แชลกลับสอดคล้องกับรายงานล่าสุดจากสำนัก Digitimes ที่เชื่อว่า iPad 2 จะยังไม่ถึงกำหนดคลอดในปีนี้ โดยระบุว่าบริษัทซัปพลายเออร์ 3 รายใหญ่ Ibiden, Tripod และ TTM นั้นเพิ่งได้รับใบรับรองจากแอปเปิลในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วนเพื่อให้เริ่มเปิดสายพานการผลิตแผงวงจร HDI สำหรับจัดส่งภายในเดือนธันวาคมนี้ แต่จะเป็นการผลิตชิ้นส่วนแผงวงจรที่ยังมีจำนวนไม่มาก ทำให้เชื่อว่า iPad2 จะผลิตไม่ทันปลายปีแน่นอน

Digitimes ยังอ้างแหล่งข่าววงในอีกว่า แอปเปิลมีแผนเพิ่มสายการผลิตในโรงงานเพิ่มอีก 4 แห่งช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า นี่คือสัญญาณที่ชี้ว่าแอปเปิลกำลังเตรียมพร้อมเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์เต็มรูปแบบในไตรมาสแรกปีหน้า ซึ่งเมื่อคำนวณร่วมกับข่าวลือเรื่องการผลิตหน้าจอที่เชื่อกันว่าเป็นส่วนประกอบของ iPad รุ่นใหม่ ก็จะเป็นไปในกรอบเวลาที่สอดคล้องกัน

สำหรับคุณสมบัติใหม่ใน iPad2 เชื่อกันว่าจะเป็นการใส่กล้องดิจิตอลด้านหน้าและหลังสไตล์เดียวกับ iPhone 4 เพื่อให้ผู้ใช้ iPad 2 สามารถสื่อสารผ่านวิดีโอได้บนโปรแกรม Facetime ขณะเดียวกัน หลายเสียงเชื่อว่าแอปเปิลจะเพิ่มเซ็นเซอร์ gyroscopic มาให้คอเกมสามารถเล่นเกมได้หลายหลายบนความสามารถในการตรวจจับความเคลื่อนไหวของเครื่องได้อย่างอัจฉริยะยิ่งขึ้น รวมถึงกระแสข่าวว่าแอปเปิลอาจจะเปลี่ยนใจมาใช้พอร์ต mini-USB แทนพอร์ตเชื่อมต่อแบบเข็ม 30-pin ที่แอปเปิลใช้กับ iPad รุ่นแรก บนน้ำหนักเครื่องที่คาดว่าจะเบาบางยิ่งขึ้น
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

RIM โดนมือดีปล่อยดาวน์โหลด BlackBerry OS 6 ล่าสุดสำหรับ Curve และ Bold

Breaking News - หลังจาก BlackBerry OS 6.0 ได้เปิดตัวไปแล้วอย่างเป็นทางการพร้อมการรองรับคุณสมบัติใหม่อย่าง Universal Search, Social Feeds รูปแบบใหม่ รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพและความเสถียรให้ดียิ่งขึ้น ล่าสุดมีมือดีนำอัปเดตไฟล์ BlackBerry OS เวอร์ชั่นล่าสุด 6.0.0.358 จาก RIM มาเผยแพร่สู่สาธารณะชนอย่างไม่เป็นทางการแล้ว โดยไฟล์ดังกล่าวเป็นอัปเดตไฟล์ขนาด 155MB แบ่งเป็นรุ่นที่รองรับ 2 รุ่นได้แก่ Curve 9300 และ Bold 9700 ซึ่งผู้ใดสนใจอัปเดตไฟล์นี้สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้โดย >คลิกได้ที่นี่<
*แต่ทั้งนี้ ก่อนจะเข้าสู่การดาวน์โหลดทางผู้จัดการไซเบอร์ขอเตือนก่อนว่า ตัว OS ที่นำมาบอกกล่าวนี้ ยังไม่ใช่ตัว OS ที่ทาง RIM ตรวจสอบความถูกต้องมาเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นใครที่อยากอัปเดตควรศึกษาวิธีการติดตั้งรวมถึงรายละเอียดตามเว็บบอร์ดหรือเว็บไซต์ต่างๆ ให้ละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อน
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Nokia C7 ดีไซน์บางเฉียบ-กล้องเจ๋งสุดๆ

Nokia C7 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ออกตามหลัง Nokia N8 มาติดๆ จะเรียกว่าพี่น้องคลานตามกันมาก็ว่าได้ โดย Nokia C7 จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่สองของบริษัทที่ทำงานด้วยระบบปฎิบัติการ Symbian 3 พร้อมชูจุดเด่นคือ ดีไซน์ตัวเครื่องที่บางเฉียบ น้ำหนักเบา กล้อง HD และราคาที่ถูกกว่า ดูเหมือน Nokia จะเริ่มติดเครื่องแล้ว หลังจากที่ Nokia N8 เจอโรคเลื่อน โดยล่าสุดทางบริษัทได้เปิดตัว Nokia C7 ตามออกมาติดๆ ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องที่มีดีไซน์บางเฉียบขอบมนสวยงาม พร้อมด้วยหน้าจอระบบสัมผัส ClearBlack AMOLED 3.5 นิ้ว ความละเอียด 640 x 360 พิกเซล (16.7 ล้านสี) เท่ากับ N8 แน่นอนว่า คุณจะได้เห็นภาพหน้าจอที่คมชัดสว่างสดใสไม่แพ้สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ Nokia C7 มาพร้อมกับหน่วยความจำภายในเครื่อง 8GB และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ microSD เพิ่มได้สูงสุด 32GB สนับสนุนการเชื่อมต่อไร้สาย Blutooth 3.0, Wi-Fi b/b/n พร้อมระบบแผนที่นำทาง GPS ส่วนพรีโหลดแอพฯที่น่าสนใจก็อย่างเช่น Ovi Maps, QuickOffice, Message reader และ Adobe PDF viewers ตลอดจนวิดเจ็ตสำหรับติดตามข่าว และคลิปจาก CNN หรือจะดาวน์โหลดแอพฯเพิ่มเติมที่มีมากกว่า 13,000 แอพ จาก Ovi Store ก็ได้
ที่มา Arip

Kin One และ Kin Two! เค้ากลับมาแล้ว

หลังจากที่ทำยอดไม่ค่อยจะดีนักสำหรับ สมาร์ทโฟนจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft จนถึงขั้นต้องมีการปิดตัวไปช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานข่าว ยืนยันการกลับมาของ Kin One และ Kin Two โดย Verizon เป็นผู้ดึงกลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง และได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่และราคาใหม่ โดยจะเปลี่ยนโฉมเป็น Kin ONEm และ Kin Twom สองโทรศัพท์มือถือที่หันมามุ่งเน้นสำหรับกลุ่มเยาวชนเป็นหลัก โดยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 19.99 เหรียญ หรือประมาณ 650 บาท และ 49.99 เหรียญ หรือประมาณ 1600 บาท ตามลำดับ ซึ่ง 2 ราคานี้ก็ยังคงจะพ่วงมากับ สัญญา 2 ปีกับทางต้นสังกัดอีกเช่นเคย นอกจากนี้ Verizon ยังเสนอโปรโมชั่นพิเศษซื้อหนึ่งแถมหนึงอีกด้วยพูดง่ายๆว่าต้องการทำยอดขาย แบบสุดๆ กันเลนทีเดียว เอาล่ะคราวนี้เรามาดู Spec ของทั้ง 2 เครื่องกันดีกว่าว่าหลังจากที่หายเงียบไปพักใหญ่กลับมาคราวนี้จะเป็นอย่างไร บ้างและน่าสนใจขนาดไหน
Kin ONEm รายละเอียดก็จะมีดังนี้ หน้าจอแบบ QVGA TFT Capacitive Touchscreen ความละเอียด 320×240 และมีขนาด 2.6 นิ้ว แป้นพิมพ์แบบ QWERTY สไลด์ออกทางคีย์บอร์ด หน่วยความจำขนาด 4GB RAM 256MB กล้อง 5.0 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัสพร้อมด้วย Lumi LED Flash แบตเตอรี่ที่มีเวลาการใช้งานได้ถึง 340 นาทีและเวลาสแตนด์บายได้ถึง 210 ชั่วโมง มีช่องสำหรับเสียบ Audio Jack 3.5 มม. รองรับระบบ WiFi 802.11 b / g และ Bluetooth ส่วนรายละเอียดของ Kin Twom ก็จะมีดังนี้ หน้าจอ QVGA TFT Capacitive Touchscreen ความละเอียด 320×240 เหมือนกับ Kin ONEm แต่จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าคือ 3.4 นิ้ว แป้นพิมพ์แบบ QWERTY สไลด์ออกทางด้านข้าง หน่วยความจำ 8GB RAM 256MB กล้อง 8.0 ล้านพิกเซลและแฟลช LED ใน Kin Twom มีการเพิ่มความสามารถในการบันทึกวิดีโอความระเอียด 720p ส่วนแบตเตอรี่ที่มีใช้งานได้นานถึง 365 นาทีและเวลาสแตนด์บายได้ถึง 232 ชั่วโมง รองรับระบบ WiFi 802.11 b/g และ Bluetooth ส่วนรายละเอียดย่อยที่เหลื่อนั้นก็จะคล้ายกับ Kin ONEm นั่นเอง
ที่มา http://www.igadgety.com/?p=6548

PeeWeePC เปิดตัวเครื่อง Pivot 2.0 Convertible Tablet สำหรับเด็กๆ

PeeWeePC เคยเปิดตัว Power Laptop เป็นเน็ตบุ๊กสำหรับเด็กไปแล้วเมื่อตอนต้นปี ตอนนี้ PeeWeePC ได้ทำการปรับปรุง Intel Classmate PC ออกมาเป็น Pivot 2.0 โดยมีการเพิ่มคีย์บอร์ดกันน้ำ หวังว่าเด็กจะทำพังช้าลงอีกนิด สำหรับสเปคก็ไม่มีอะไรพิเศษ Intel Atom N450 ขนาด 10.1 นิ้ว ฮาร์ดดิสก์ 160 GB ขนาด 1.8 นิ้ว แรม 1 GB WiFi n, LAN 10/100, BT, กล้อง 1.3 MP แบต 6 เซลล์อยู่ได้ 5 ชั่วโมง มี Accelerometer ลง Windows XP Home Edition น้ำหนัก 1.6 กิโลกรัม มี USB 2 พอร์ต ราคาอยู่ที่ 18,000 บาท
ที่มา NotebookSpec

วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

มาแล้ว!! แท็บเล็ตบีบี "BlackBerry PlayBook"

ตามความคาดหมาย ริม (RIM) ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบล็กเบอรี่โชว์ตัวคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต 7 นิ้วต่อหน้านักพัฒนาในงาน BlackBerry DevCon 2010 ที่ผิดคาดคือชื่อรุ่นที่ไม่ใช่ Black Pad" แบบที่ลือกัน แต่ใช้ชื่อ BlackBerry PlayBook แทน กำหนดการวางจำหน่ายเบื้องต้นคือปีหน้า

BlackBerry PlayBook นั้นไม่ได้ใช้ระบบปฏิบัติการแบล็กเบอรี่โอเอส แต่ใช้ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์จากบริษัท QNX หน้าจอขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 1024x600 พิกเซล ด้านหน้าติดกล้องดิจิตอล 3 ล้านพิกเซล ด้านหลังติดกล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล

ที่น่าสนใจคือ BlackBerry PlayBook สามารถถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงเต็มขั้น HD 1080p มาพร้อมหน่วยประมวลผล (ซีพียู) ดูอัลคอร์ Cortex-A9 1GHz ทำให้สามารถประมวลผลงานหลายงานได้พร้อมกัน การันตีว่าผู้ใช้จะสามารถทำงานพร้อมกันหลายหน้าต่างได้ (multi tasking)

PlayBook มาพร้อม RAM 1GB รองรับเครือข่ายไร้สาย 802.11 a/b/g/n Wi-Fi และบลูทูธ 2.1 ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่าตัวเครื่องหนา 9.7 ม.ม. น้ำหนักประมาณ 400 กรัม
มาแล้ว!! แท็บเล็ตบีบี "BlackBerry PlayBook"
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

กำเนิด"PlayBook" แท็บเล็ตพันธุ์บีบี

Mike Lazaridis ผู้ร่วมก่อตั้งริม
สมรภูมิคอมพิวเตอร์กระดานชนวนหรือแท็บเล็ตคึกคัก เมื่อ"ริม (RIM)" ผู้ผลิตแบล็กเบอรีตัดสินใจแจ้งเกิด "BlackBerry PlayBook" แท็บเล็ตตัวแรกของบริษัทสู้ การันตีเป็นแท็บเล็ตสำหรับมืออาชีพตัวแรกในตลาด คาดวางตลาดปีหน้า

ที่เวทีงานประชุมนักพัฒนาประจำปี DevCon 2010 บริษัท ริม เปิดตัวสินค้าตัวแรกที่ไม่ใช่สมาร์ทโฟน" PlayBook" มาในรูปคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสทรงกระดานชนวน ริมระบุว่ามีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้ทำงานมากกว่าความบันเทิง หวังตอบโจทย์กลุ่มนักธุรกิจที่เป็นผู้ใช้บีบีอยู่แล้วให้สามารถใช้งานได้รอบด้าน

จุดเด่นของ BlackBerry PlayBook ที่แท็บเล็ตยี่ห้ออื่นไม่มี อยู่ที่ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์จากบริษัท QNX มาใช้ แทนระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนอย่างแบล็กเบอรี่โอเอส หรือแอนดรอยด์ทั่วไป โดยริมให้ชื่อเรียกระบบปฏิบัติการนี้ว่า BlackBerry Tablet OS เป็นผลงานการออกแบบของบริษัท QNX Software ซึ่งริมซื้อลิขสิทธิ์มาเมื่อต้นปีนี้ หน้าจอเครื่องขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 1024x600 พิกเซล ด้านหน้าติดกล้องดิจิตอล 3 ล้านพิกเซล ด้านหลังติดกล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล ตัวเครื่องหนา 9.7 มม.

BlackBerry PlayBookยังมีหน่วยประมวลผล (ซีพียู) ดูอัลคอร์ Cortex-A9 1GHz ทำให้สามารถประมวลผลงานหลายงานได้พร้อมกัน หน่วยความจำสำรอง RAM 1GB รองรับเครือข่ายไร้สาย 802.11 a/b/g/n Wi-Fi และบลูทูธ 2.1 สามารถแสดงผลเว็บไซต์มาตรฐาน HTML5 และวิดีโอโปรแกรม Flash ได้

นอกจากนี้ ใน BlackBerry PlayBook ยังมีจุดน่าสนใจคือ สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงเต็มขั้น HD 1080p ได้ แต่ในส่วนพื้นที่เก็บข้อมูล ยังไม่แน่ชัดว่าหน่วยความจำภายในของ BlackBerry PlayBook เป็นเท่าใด ซึ่งข้อมูลรุ่นต้นแบบที่ถูกเปิดเผยในงานนั้นมีให้เลือกทั้ง 16GB และ 32GB

เบื้องต้น PlayBook คาดว่าจะสามารถวางตลาดในสหรัฐฯช่วงต้นปีหน้า (2011) สำหรับการวางจำหน่ายทั่วโลกคาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2011 ยังไม่มีรายงานคาดการณ์ราคาใดๆ

อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ BlackBerry PlayBook เนื่องจากริมไม่เปิดเผยข้อมูลอายุการใช้แบตเตอรี่ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่นักธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วไปจำเป็นต้องพิจารณาให้ดีก่อนการเลือกซื้อ

Mike Lazaridis ผู้ร่วมก่อตั้งริม ระบุว่ากลุ่มเป้าหมายของ PlayBook คือนักธุรกิจที่ใช้งานแบล็กเบอรีอยู่แล้ว โดยออกแบบให้เครื่องสามารถเชื่อมกับ BlackBerry Enterprise Servers หรือซอฟต์แวร์ตัวกลางของแบล็กเบอรี่ที่จะทำให้พนักงานในกลุ่มธุรกิจสามารถเชื่อมต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็ว โดยริมระบุว่าผู้ใช้ PlayBook จะสามารถใช้งาน BlackBerry Enterprise Server ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม และไม่ต้องตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์, ซอฟต์แวร์, ความปลอดภัย รวมถึงแพคเกจค่าบริการข้อมูลใหม่

ริมระบุว่าจากการที่ ธุรกิจมากกว่า 250,000 แห่งทั่วโลกล้วนใช้งาน BlackBerry Enterprise Servers จุดนี้ริมมองว่า PlayBook จะสามารถดึงดูดบริษัทที่ต้องการให้พนักงานใช้แท็บเล็ตโดยไม่ต้องตั้งค่าอุปกรณ์ใหม่อีกครั้ง นอกจากนี้ ความสามารถในการเล่นวิดีโอความละเอียดสูงบนทีวีด้วยพอร์ต HDMI video out ก็จะทำให้ผู้ใช้สามารถแสดงวิดีโอพรีเซนเทชันระหว่างการประชุมได้แบบมืออาชีพ รวมถึงกล้องดิจิตอลหน้าเครื่องที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถทำวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กันได้

นอกจากความสามารถด้านธุรกิจ PlayBook ยังรองรับคุณสมบัติอย่าง OpenGL ซึ่งทำให้นักพัฒนาเกมสามารถสร้างเกม 3 มิติเพื่อเล่นบน PlayBook ได้ จุดนี้ Dan Dodge ซีอีโอของ QNX ระบุว่าเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อเอาใจผู้ใช้งาน ซึ่งส่วนตัวซีอีโอมองว่าผู้บริโภคนั้นไม่ได้ต้องการซื้อแท็บเล็ตมาเพื่อเล่นเกมอย่างเดียว

ในส่วนระบบสมาร์ทโฟน งานนี้ริมเปิดตัวแพลตฟอร์มการทำงานใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกนักพัฒนาเพิ่มขึ้นอีกหลายจุด หนึ่งในนั้นคือ BBM Social Platform ซึ่งนักพัฒนาจะสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันด้านการแชตแบบเรียลไทม์ การแบ่งปันคอนเทนต์ รวมถึงสร้างชุมชนโดยเชื่อมต่อทางโปรแกรมแชต BBM ได้ เท่ากับผู้ใช้บีบีในอนาคตจะสามารถเชื่อมถึงกันแนบแน่นกว่าที่เป็นอยู่

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

เชื่อแท็บเล็ตบีบี BlackBerry Playbook ราคาไม่ถึง 500 เหรียญ

ริม (Research In Motion) ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนบีบีหรือ BlackBerry แย้มแผนจำหน่ายคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเครื่องแรกของบริษัท ระบุว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือช่วงไตรมาสแรกปีหน้า ในราคาไม่เกิน 500 เหรียญสหรัฐหรือไม่เกิน 15,000 บาท ถือเป็นข้อมูลแสนอัศจรรย์ใจที่มองผาดเดียวก็รู้ว่าเป็นความพยายามในการต่อสู้กับเจ้าตลาดอย่าง iPad ของแอปเปิล
Jim Balsillie ประธานบริหารร่วมของริมให้สัมภาษณ์ในกรุงโซล เกาหลีใต้ ในวันพุธที่ 10 พ.ย. 53 เพียงว่าแท็บเล็ตของริม BlackBerry Playbook จะมาพร้อมราคาที่สามารถแข่งขันได้ดี โดยริมจะจำหน่าย Playbook ผ่านร้านค้าปลีกในสหรัฐฯเช่น Target Corp. และ Best Buy Co. ควบคู่ไปกับการจำหน่ายผ่านโอเปอเรเตอร์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดตลาดเต็มตัวได้ในปี 2011

คำให้สัมภาษณ์ของผู้บริหารริมทำให้สื่อต่างประเทศเชื่อว่า แท็บเล็ตของริมจะมีราคาไม่เกินคู่แข่งอย่าง iPad ซึ่งแอปเปิลเริ่มจำหน่ายในราคาต่ำสุด 499 เหรียญ (รุ่น Wi-Fi 16GB) เท่ากับราคา Playbook มีโอกาสสูงมากที่จะมีมูลค่าต่ำกว่า 500 เหรียญสหรัฐ
สถิติไตรมาส 3 ของปี 2011 ที่ผ่านมาพบว่า iPad ครองสัดส่วนตลาดโลกถึง 95% โดยตลาดแท็บเล็ตโลกนั้นขยายตัวเพิ่มขึ้น 26% มาเป็น 4.4 ล้านเครื่อง ซึ่ง iPad สามารถจำหน่ายได้ 4.19 ล้านเครื่องในช่วงเวลาดังกล่าว ตัวเลขนี้ทำให้ผู้ผลิตทั้ง RIM, Hewlett-Packard Co., Samsung Electronics Co. และ Motorola Inc. พยายามหาทางดึงส่วนแบ่งตลาดมาครองบ้าง กลายเป็นการให้กำเนิดกองทัพแท็บเล็ตที่คาดว่าจะโจมตีผู้บริโภคอย่างจริงจังในช่วงปีหน้า

ผู้บริหารริมย้ำว่า นอกจากสหรัฐอเมริกา ริมจะวางจำหน่าย BlackBerry Playbook ในพื้นที่หลายประเทศช่วงไตรมาสที่สองของปี 2011

PlayBook ถูกเปิดตัวครั้งแรกบนเวทีงานประชุมนักพัฒนาประจำปี DevCon 2010 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ถือเป็นสินค้าตัวแรกของริมที่ไม่ใช่สมาร์ทโฟน แต่เป็นคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสทรงกระดานชนวนที่มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้ทำงานมากกว่าความบันเทิง จุดประสงค์หลักคือการตอบโจทย์กลุ่มนักธุรกิจที่เป็นผู้ใช้บีบีอยู่แล้วให้สามารถใช้งานได้รอบด้าน จุดเด่นของ BlackBerry PlayBook ที่แท็บเล็ตยี่ห้ออื่นไม่มีคือระบบปฏิบัติการยูนิกซ์จากบริษัท QNX ไม่ใช่ระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนอย่างแบล็กเบอรี่โอเอส หรือแอนดรอยด์ทั่วไป โดยริมให้ชื่อเรียกระบบปฏิบัติการนี้ว่า BlackBerry Tablet OS หน้าจอเครื่องขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 1024x600 พิกเซล ด้านหน้าติดกล้องดิจิตอล 3 ล้านพิกเซล ด้านหลังติดกล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล ตัวเครื่องหนา 9.7 มม.

ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า BlackBerry PlayBookมีหน่วยประมวลผล (ซีพียู) ดูอัลคอร์ Cortex-A9 1GHz ทำให้สามารถประมวลผลงานหลายงานได้พร้อมกัน หน่วยความจำสำรอง RAM 1GB รองรับเครือข่ายไร้สาย 802.11 a/b/g/n Wi-Fi และบลูทูธ 2.1 สามารถแสดงผลเว็บไซต์มาตรฐาน HTML5 และวิดีโอโปรแกรม Flash ได้ รวมถึงการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงเต็มขั้น HD 1080p แต่ในส่วนพื้นที่เก็บข้อมูล ยังไม่แน่ชัดว่าหน่วยความจำภายในของ BlackBerry PlayBook เป็นเท่าใด ซึ่งข้อมูลรุ่นต้นแบบที่ถูกเปิดเผยในงานนั้นมีให้เลือกทั้ง 16GB และ 32GB

สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดในธุรกิจสมาร์ทโฟนของริมในขณะนี้ คือการประกาศลดราคา BlackBerry Torch ในสหรัฐฯลงเหลือ 99.99 เหรียญ (สำหรับผู้ซื้อพร้อมสัญญาใช้งานต่อเนื่อง 2 ปีกับ AT&T) จากราคาเดิม 199.99 เหรียญที่ตั้งไว้ในช่วงวันที่ 12 สิงหาคม 53 ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวเพื่อการแข่งขันกับคู่แข่งอย่างดุเดือด
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

โอลิมปัสเปิดตัว E-PL1s กล้องที่เบาที่สุดในโลก

โอลิมอัปเกรด E-PL1 ด้วย E-PL1s โดยมาพร้อมตัวเครื่องสีแดง ดาว และดำ ในส่วนของดีไซน์ตัวเครื่องต่างๆ นั้นแทบดูไม่ต่างกันเลย แต่โอลิมปัสได้มีการเปลี่ยนแบตเตอรี จากเดิมที่เคยใช้รุ่น BLS-1 มาใช้รุ่น BLS-5 ที่ใช้ในกล้องรุ่น E-PL1 และ E-PL12 มีการเพิ่มค่าความไวแสง (ISO) จาก 3200 ให้เป็น 6400

นอกจากนี้ โอลิมปัสยังออกมาประกาศว่า "E-PL1s" เป็นกล้องถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ที่เบาที่สุดในโลก ด้วยน้ำหนักตัวเครื่อง (พร้อมแบตเตอรี) ที่เบาเพียง 342 กรัม และเลนส์หนัก 112กรัม เมื่อรวมกันแล้ว กล้องตัวนี้มีน้ำหนักเบาเพียง 454 กรัม เท่านั้น

โดยกล้องดิจิตอล E-PL1s จะวางจำหน่ายช่วงเดือนเมษายนปี 54 ในราคา 60,000เยน หรือประมาณ 21,600 บาท (ราคาพร้อมเลนส์ 14-42มม. F3.5-5.6 II) และ 80,000 เยน หรือประมาณ 28,800 บาท (ราคาพร้อมเลนส์ 40-150มม. F4-5.6)

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Samsung Zeal มือถือแป้นพิมพ์ E Ink เทคโนโลยี

Samsung Zeal โทรศัพท์มือถือฝาพับที่สามารถพลิกหมุนหน้าจอมาวางในแนวนอนได้ พร้อมเพิ่มความพิเศษสำหรับการใช้งานแป้นพิมพ์ทั้งในแนวตั้ง และ แนวนอน ให้มีความสัมพันธ์กับหน้าจอแสดงผล ด้วยแป้นพิมพ์ที่ใช้เทคโนโลยี E Ink สามารถเปลี่ยนรูปร่างปุ่มกดไปตามการวางตัวเครื่อง โดยเมื่อเปิดฝาพับลักษณะปกติในแนวตั้ง แผงปุ่มกดก็จะแสดงตัวอักษรแบบทั่วไป แต่เมื่อเปิดฝาพับแล้วพลิกหมุนหน้าจอมาวางในแนวนอน แป้นพิมพ์จะเปลี่ยนไปเป็นแบบ QWERTY
Samsung Zeal มาพร้อมจอแสดงผล 2 จอ ด้านใน และด้านนอก กล้องถ่ายรูปความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ระบบออโต้โฟกัส สนับสนุนแอปพลิเคชั่นสังคมออนไลน์ Skype, Facebook, Twitter รองรับ VZ Navigator การ์ดหน่วยความจำmicroSD สูงสุด 32 GB
Samsung Zeal มือถือแป้นพิมพ์ E Ink เทคโนโลยี
ที่มา siamphone

Canon IXUS 1000 HS กล้องคอมแพ็คระดับไฮเอนด์

แคนนอน บุกตลาดกล้องดิจิตอลคอมแพคไตรมาสสุดท้ายของปี 2553 ด้วยกล้องดิจิตอลแคนนอน IXUS 1000 HS ระดับไฮเอนด์ที่มีเลนส์ออพติคอลซูมสูงสุดถึง 10 เท่า ในรูปทรงเพรียวบางที่สุดในโลก เพียง 22.3 มม. คุณภาพเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีใหม่ HS SYSTEM และชิปประมวลผลภาพ DIGIC 4 ลดสัญญาณรบกวนภาพและการสั่นไหว คมชัดด้วยเซ็นเซอร์ CMOS ความละเอียดสูง 10 ล้านพิกเซล พร้อมฟังก์ชั่นใหม่ อาทิ Handheld Night Scene สำหรับถ่ายภาพกลางคืนคมชัด ไม่เบลอ, ระบบป้องกันการสั่นไหว Dynamic IS สำหรับการถ่ายภาพซูมใกล้, โหมด Best Image Selection เลือกภาพที่สวยที่สุดอัตโนมัติ, บันทึกวีดีโอคุณภาพสูงแบบ Full HD Movie 1920x1080 พร้อมระบบ ออโต้อัจฉริยะ Smart Auto Movie รองรับการถ่ายภาพในสถานการณ์ต่างๆ ได้มากถึง 28 รูปแบบ และพิเศษ! ฟังก์ชั่น Miniature Effect Scene ย่อส่วนภาพวิวกว้างให้กลายเป็นภาพแบบเมืองจำลอง ที่มีให้เลือกทั้งภาพนิ่งและบันทึกวีดิโอ
กล้องดิจิตอล Canon IXUS 1000 HS
เทคโนโลยี HS System พลังเลนส์ซูม 10 เท่า ดีไซน์บางที่สุดในโลก

ใหม่ ! ระบบ HS System ลดสัญญาณรบกวนภาพ ภาพเบลอจากการสั่นไหวของกล้องขณะถ่ายภาพในภาวะแสงน้อย / เวลากลางคืน หรือการถ่ายภาพด้วยโหมดออโต้โดยไม่ใช้ขาตั้งกล้อง
- ระบบเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 1 / 2.3 นิ้ว
- ชิปประมวลผลภาพ DIGIC 4
ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
หน้าจอ LCD ขนาดกว้าง 3 นิ้ว
ใหม่! เลนส์ซูมสูงสุด 10 เท่า ช่วงกว้างเลนส์ขนาด 36-360 ม ตัวกล้องดีไซน์บางที่สุดในโลก เพียง 22.3 มม.
ใหม่! บันทึกวีดิโอความละเอียดสูงระดับ Full HD 1920x1080 พร้อมพอร์ท HDMI
ใหม่! บันทึกวิดีโอได้อย่างสะดวกรวดเร็วทันทีด้วยปุ่ม Movie Button
ใหม่! โหมด Smart Auto ปรับภาพอัตโนมัติตามสถานการณ์ต่างๆ ให้ภาพคมชัดทุกสภาวะแสง ได้สูงสุดถึง 28 scene ทั้งภาพนิ่งและบันทึกวีดิโอ
ใหม่! Smart Auto in Movies ช่วยให้การถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดายและสามารถปรับซูมออพติคอลได้
ใหม่! Handheld Night Scene โหมดถ่ายภาพกลางคืนแบบไม่ใช้ขาตั้งกล้อง
ใหม่! Best Image Selection โหมดเลือกภาพที่สวยที่สุดอัตโนมัติจากการถ่ายภาพต่อเนื่อง
ใหม่! Dynamic IS ระบบป้องกันการสั่นไหว
โหมดถ่ายวิดิโอแบบ Super Slow Motion ด้วยความเร็วสูงถึง 240 เฟรมต่อวินาที และดูย้อนหลังแบบ “Super Slow Motion” ได้ถึง 30เฟรมต่อวินาที หรือเล่นภาพได้ช้ากว่าปกติถึง 8 เท่า
High Speed Continuous Shooting ระบบถ่ายภาพ 3.7 เฟรมต่อวินาที โหมดถ่ายภาพแบบต่อเนื่อง 3.7 เฟรมต่อวินาที
High Speed Burst Shooting โหมดถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง ถึง 8.8 เฟรมต่อวินาทีพร้อมฟังก์ชั่น Best image selection ที่สาสามารถเลือกช๊อตที่ดีที่สุดได้อัตโนมัติ
บันทึกวีดิโอในระบบ Stereo Sound ลำโพงแยกซ้ายขวา
Creative mode เพื่อการถ่ายภาพแบบสร้างสรรค์
- Fish Eye Effect Scene เอฟเฟกต์ภาพแบบโค้งนูน
- ใหม่! Miniature Effect Scene เอฟเฟกต์ย่อส่วนภาพวิวกว้างให้กลายเป็นภาพแบบเมืองจำลอง ทั้งภาพนิ่งและบันทึกวีดิโอ
- Low Light Mode โหมดถ่ายภาพแสงน้อย
- Color Accent ฟังก์ชั่นเลือกสีเด่น / Color swap เพื่อสลับสีวัตถุ
แฟลชอัจฉริยะ Smart FE
โหมด Smart Shutter สามารถตั้งกล้องถ่ายภาพอัตโนมัติ
- Wink Detection ระบบสั่งงานถ่ายภาพอัตโนมัติแค่ขยิบตา
- Blink Detection ระบบแจ้งเตือนเพื่อค้นหาบุคคลที่หลับตาขณะถ่ายภาพ
Canon IXUS 1000 HS กล้องคอมแพ็คระดับไฮเอนด์
กล้องดิจิตอลคอมแพค Canon IXUS 1000HS ราคา 13,900 บาท มี 3 สี (ชมพู/น้ำตาล/เงิน) จำหน่ายแล้ววันนี้ ณ ตัวแทนจำหน่ายของแคนนอนทั่วประเทศ www.canon.co.th
ที่มา siamphone

Cinemin Swivel โปรเจคเตอร์สำหรับ iPhone หรือ iPod

Cinemin Swivel เครื่องฉายภาพหรือโปรเจอเตอร์ขนาดพกพา สร้างความตื่นตาให้กับการเล่นมัลติมีเดียของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ รองรับกับโทรศัพท์มือถือ iPhone เครื่องเล่น iPod รวมไปถึงคอมพิวเตอร์, กล้องดิจิตอล และ สมาร์ทโฟน คุณสามารถรับชมแกลลอรี่รูปภาพ, วีดีโอ ได้อย่างเต็มอารมณ์ เพียงเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับ Cinemin Swivel แล้วฉายภาพออกไปยังผนังห้อง หรือ วัสดุที่เป็นพื้นราบ สามารถส่งภาพออกไปในขนาดกว้าง สูงสุด 60 นิ้ว Cinemin Swivel สามารถปรับหมุนได้ 90 องศา คุณจึงสามารถส่งภาพขึ้นไปฉายบนเพดานห้อง เพื่อสร้างบรรยากาศก่อนนอนได้อย่างโรแมนติก Cinemin Swivel มีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับพกพาไปกับคุณได้ทุกสถานที่ จะใช้งานเพื่อความบันเทิง หรือ นำเสนองานให้กับลูกค้าก็ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Cinemin Swivel โปรเจคเตอร์สำหรับ iPhone หรือ iPod

จอ AMOLED 7 นิ้วสำหรับ”แท็บเล็ต”

รายงานข่าวจากในงานแสดงเทคโนโลยี FPD International 2010 ที่เริ่มแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ (10-12 NOV 2010) นอกจากจะมีการนำเสนอเทคโนโลยี Color E-Ink หรือ”อีอิงค์จอสี”ที่มาพร้อมกับต้นแบบเครื่องอ่านอีบุ๊คที่พร้อมจำหน่ายใน ต้นปีหน้าแล้ว ทาง Samsung Mobile Display (SMD) ยังได้นำ Galaxy Tab รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับจอ AMOLED ขนาด 7 นิ้วมาโชว์ในงานนี้อีกด้วยภาพถ่ายของต้นแบบจอแสดงผล AMOLED ที่นำออกมาแสดงในงาน FPD International 2010 จะมีขนาด 7 นิ้ว โดยมีความละเอียดระดับ WXVGA 1200×600 พิกเซล (169 ppi) สามารถแสดงสีได้ 16.7 ล้านสีด้วยความสว่างสดใส 250 cd/m² และสามารถมองเห็นภาพบนหน้าจอได้ทุกมุมมอง ทั้งนี้ทาง SMD มีแผนที่จะจำหน่ายจอแสดงผล AMOLED ขนาดดังกล่าวนี้ในปี 2011 อย่างไรก็ดี ทางบริษัทมีแผนที่จะนำจอแสดงผล Super AMOLED ออกโชว์ในงานนี้ด้วย แต่แค่ AMOLED ก็ดูแหล่มแล้วนะเนี่ย โดยเฉพาะหากมันถูกนำมาใช้กับแท็บเล็ตอย่าง Galaxy Tab แล้วล่ะก็คงสวยน่าดูชมเลยทีเดียว (เอ่อ…ผมยังหมายถึงจอแสดงผลนะครับ) สำหรับ Galaxy Tab รุ่นปัจจุบันจะใช้จอ TFT-LCD ข้างล่างนี้เป็นคลิปแนะนำเทคโนโลยีจอแสดงผล Super AMOLED ครับ
ที่มา Arip

วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

NEC เผย LifeTouch นวัตกรรมที่เรียกตัวเองว่า Cloud Communicator พัฒนาบนระบบปฏิบัติการ Android


ช่วงนี้สงคราม Tablet ยังปะทุเป็นระยะ เหมือนสงครามเย็นระหว่าง ค่ายผู้พัฒนาแต่ละค่าย ที่ล้วนแต่งัด รูปลักษณ์ ศักยภาพ และ ประสิทธิภาพ ที่ต่างกันบนผลิตภัณฑ์ของแต่ละบริษัท ซึ่งทาง NEC ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ผลิต Tablet ที่ชื่อว่า NEC's LifeTouch ที่พัฒนาบนระบบปฏิบัติการ Android
ตามแผนการเดิมที่ทาง NEC เคยตั้งไว้ว่า จะเปิดตัวเจ้า Tablet LifeTouch ตั้วนี้ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่เพราะติดปัญหา ปรับแก้ ฟังก์ชั่นการทำงานและคุณสมบัติบางอย่าง ทำให้ต้องเลื่อนการเปิดตัวออกมา ในตอนนี้ ได้เผยรูปลักษณ์พร้อมจำกัดความตัวเองว่าเหนือกว่า Tablet ทั่วไปเพราะนี่คือนวัตกรรม ที่เรียกว่า Cloud Communicator ที่เน้นการสื่อสารกันผ่านระบบการประมาวลผลบนกลุ่มเมฆ หรือ Cloud Computing

ซึ่งการทำงานดังกล่าว น่าจะเหมาะกับกลุ่ม พนักงาน ในองค์กรเดียวกัน ใช้งานกันเพราะการ เชื่อมต่อ แบ่งปันไฟล์เอกสาร ประชุมผ่านวีดีโอ และ ไฟล์เสียง ทุกไฟล์จะถูกจัดเก็บ บน Cloud Computing หรือที่เรียกกระบวนการนี้ว่า On-Cloud ซึ่งหากเป็นองค์กรที่มี พนักงาน จำนวนมาก แล้วต้องใช้ระบบร่วมกัน จำเป็นต้องมี Private Cloud Computing มาช่วยในเรื่องการสื่อสารแบบ On The Go Business

นอกจากเรื่องของบริการการเชื่อมต่อแบบ On-Cloud แล้ว ในเรื่องของอุปกรณ์ และการออกแบบ NEC' LifeTouch มีคุณสมบัติมตรฐาน ที่ Tablet ต้องมีหน้าจอแสดงผล 7 นิ้วระบบสัมผัส ประมวลผลด้วย ARM Cortax A8 Processor กล้องถ่ายภาพ 3 ล้านพิเซล สล็อทสำหรับ SD การ์ด มีระบบ WiFi ในตัวพร้อม GPS ซ฿งคุณสมบัติทั้งหมด ถูกพัฒนารวมบนระบบปฏิบัติการ Android 2.1

ซึ่งคาดว่า NEC'LifeTouch จะเปิดตัวที่ประเทศญี่ปุ่นก่อน ภายในสิ้นเดือนนี้

ที่มา TechCrunch, Engadget,beta.i3
By: Murdoc

หรือนี่จะเป็น Galaxy Tap รุ่นหน้าจอ 10.1 นิ้วที่เขาร่ำลือกัน!!

ถ้าจะพูดถึงตลาดของ Tablet PC ในปัจจุบันนี้ก็ถือว่าเริ่มจะมีการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ นะครับ ไม่ว่าจะเป็น เจ้าสังเวียนอย่าง iPad จาก Apple หรือว่า จะเปน Playbook จาก RIM ที่พึ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน และอีกหนึ่งค่อยที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือ Galaxy Tab จาก SAMSUNG ที่ถือว่ากำลังได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกันในตอนนี้ แต่ทาง SAMSUNG ก็ยังไม่ยอมหยุดไว้แค่นั้น เพราะล่าสุดในงาน FPD International 2010 ที่จัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ที่ทางต้นสังกัดอย่าง SAMSUNG ได้นำเอา Tablet PC อีกหนึ่งรุ่นมาโชว์ภายในงานนี้ด้วย ซึ่งถ้ามองดูเผินๆ นั้นน่าจะมีขนาดหน้าจอประมาณ 10.1 นิ้ว หรือว่านี่มันคือ!! Galaxy Tab รุ่นใหม่ที่เคยมีข่าวลือออกมาเมื่อไม่นานมานี้

โดยจาก Spec คร่าวๆ ของเจ้า Tablet PC ตัวใหม่ของ SAMSUNG ตัวนี้จะใช้หน้าจอ AMOLED ที่ให้ทั้งสีสันทีสดใส และความคมชัด ตลอดจนอัตราการส่องสว่างที่ดีกว่า (250 cd/m2) และ contrast ที่สูงถึง 1,000:1 แถมยังมีความบางเพียง 1.8 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งจะมีความบางกว่าเจ้า Galaxy Tab รุ่นปัจจุบันที่วางขายอยู่ในท้องตลาดซะอีก ถึงแม้ว่ายังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัดว่า เจ้า Tablet ตัวนี้นั้นจะเป็น Galaxy Tab รุ่นใหม่หรือไม่ก็ตาม แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่บ้างที่ทาง SAMSUNG อาจจะต้องที่การจะช่วงชิงส่วนแบ่งในตลาดของ iPad เพิ่มขึ้น จึงได้นำตัวต้นแบบของ Tablet PC ขนาด 10.1 นิ้วเพื่อเป็นการขู่ทาง Apple ว่าให้ระวังตัวไว้ดีๆ ก็เป็นได้ครับ

ที่มา : samsunghub,beta.i3

นี่คือ “Nexus S” ??

จากข่าวเมื่อวันก่อนที่พบ “Nexus S” ขึ้นหราบนหน้า Best Buy แต่นั่นยังไม่ฮือฮาเท่าวันนี้ มีแหล่งข่าวที่ไม่เอ่ยนาม ส่งภาพของมือถือซัมซุง “GT-i9020″ มาที่เว็บไซต์ Engadget ภาพดังกล่าวถ่ายเมื่อเดือนที่แล้วครับ โดยตัวเครื่องคล้ายคลึงกับ “Galaxy S” เดิม แต่ดีไซน์โค้งมนกว่ามาก บนหน้าจอเป็นทัชสกรีนทั้งหมด ไม่มีปุ่มกดแบบธรรมดาแล้ว ด้านหลังตูดยังงอนเหมือนเดิม แต่กล้องมีแฟลชเพิ่มมา คล้าย Samsung Fascinate ของ Verizon
เป็นไปได้สูงมากที่ “Samsung i9020″ จะเป็นมือถือตัวต้นแบบต่อจาก Nexus One แต่ชื่อก็ยังคงคลุมเครืออยู่ไม่น้อย เดี๋ยวก็คงมีรายละเอียดออกมาเพิ่มเติม
นี่คือ “Nexus S” ??
ที่มา i3

วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

SEIKO Clocks Talking Gadget Alarm เทรนด์สุดล้ำ สไตล์กราฟฟิก


ไซโก ผู้นำด้านนวัตกรรมแห่งเครื่องบอกเวลาจากประเทศญี่ปุ่น ”ปลุก!” เทรนด์ทันสมัยสไตล์ กราฟฟิค ด้วยเกตเจ็ตดิจิตอลสุดล้ำ SEIKO Clocks Talking Gadget Alarm นาฬิกาปลุกดีไซน์สุดเก๋รูปทรงปิรามิด โดดเด่นกับฟังก์ชั่นปลุกด้วยเสียง พิเศษสุด! กับฟังก์ชั่นเสียงไซบอร์ก หุ่นยนต์เจ้าเสน่ห์ที่มาช่วยปลุกให้ตื่นและสดชื่นกับอารมณ์เท่ๆ ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งเสียงเตือนบอกเวลาแบบ Auto Alarm ที่จะนับถอยหลังเพื่อบอกเวลาทุกๆ นาทีจนครบ 15 นาที หรือทุกๆ 1 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้พลาด ทุกช่วงเวลาแห่งความบันเทิง พร้อมซ่อนไอเดียความเก๋ไก๋ กับการดูเวลาในมุมกลับไว้ใต้ฐานปิรามิด ให้พลิกดูเวลาและวันที่เหนือความคาดหมาย ขนาดกะทัดรัด เพียง 8.2 x 10.5 x 10.5 ซม. สามารถพกพาเดินทางไปได้สะดวก ด้วยทรงปิรามิดไซบอร์ก รุ่นนี้ ราคาเพียง 2,460 บาทเท่านั้น!
ที่มา igadgety

PlayBook แท็บเล็ต BB ถูกกว่า iPad

คงไม่มีใครปฏิเสธว่า iPad ของ Apple เป็นผู้นำตลาด”แท็บเล็ต” โดยเฉพาะยอดจำหน่ายที่นับวันจะทิ้งห่างคู่แข่งไปไกลจนแทบไม่เห็นฝุ่น แต่หากต้องการเอาชนะ iPad จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดคือ การเพิ่มคุณสมบัติที่ iPad ขาด และนั่นคือ สิ่งที่ RIM บริษัทผู้ผลิต BlackBerry ได้ทำกับ PlayBook แท็บเล็ตที่มาพร้อมกับกล้องด้านหน้า และหลัง เพื่อให้ผู้ใช้เล่น video chat ได้ อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังพยายามตอกย้ำความมั่นใจในความสำเร็จให้กับผลิตภัณฑ์ตัวนี้เมื่อออกสู่ตลาดด้วยการประกาศว่า PlayBook จะมีราคาต่ำกว่า 500 เหรียญฯ หรือไม่ถึง 15,000 บาท โดยราคาดังกล่าวจะเป็น PlayBook เวอร์ชันที่สนับสนุนการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi เพียงอย่างเดียว (ยังไม่มีเวอร์ชัน 3G) ในขณะที่ถ้าเป็น iPad เวอร์ชัน Wi-Fi จะมีราคาอยู่ที่ 500 เหรียญฯ และ 3G จะอยู่ที่ 630 เหรียญฯ (ประมาณ 18,600 บาท) คราวนี้มาดูว่า PlayBook มีข้อได้เปรียบอะไรบ้าง? นอกเหนือจาก video chat หรือความสามารถในการสนทนาแบบเห็นหน้าผ่านเครือข่ายไร้สาย เมื่อเทียบกับ iPad ของ Apple โดยทั่วไปก็จะมีความสามารถในการเล่น Flash ซึ่งอาจจะสำคัญ หรือไม่สำคัญสำหรับผู้ใช้บางรายก็ได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องความสามารถในการทำงานร่วมกับ BB ทั้งในเรื่องความสามารถของการซิงค์ข้อมูล และการใช้ BB เชื่อมต่อเน็ต อย่างไรก็ดี คงต้องรอดูต้นปีหน้า เมื่อ PlayBook วางตลาดว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้ใช้แค่ไหน? ก่อนหน้านี้ Apple เพิ่งจะออกซอฟต์แวร์ FaceTime ที่ทำให้ผู้ใช้แมคสามารถสนทนาแบบเห็นหน้ากับผู้ใช้ iPhone 4 ได้
ที่มา Arip

เหลือเชื่อ Skyfire บน iOS ขายหมดภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

หลายๆ ท่านคงทราบข่าวการมาถึงของ Skyfire เวอร์ชั่น iOS ที่อนุญาตให้คอนเท้นท์ Flash บนเว็บสามารถคุยกับ iOS รู้เรื่องได้ แต่เชื่อหรือไม่ครับว่าแอพพลิเคชั่นดังกล่าวนั้นขายดีมากจนกระทั่งผู้พัฒนาต้องถอนออกจาก App Store เป็นการชั่วคราว เพราะรองรับปริมาณการดาวน์โหลดไม่ไหว
โดยภายในช่วง 5 ชั่วโมงแรกของการวางขายผ่านทาง App Store นั้น Skyfire กลายมาเป็นหนึ่งในแอพยอดฮิตติดลมบนของ iOS ไปในทันที โดยผู้พัมนา Skyfire ได้กล่าวผ่านทางบล็อกของตนว่ามีผู้ดาวน์โหลดเยอะเกินที่เครื่องเซอร์เวอร์จะรองรับไหว จึงตัดสินใจแปะป้าย “Sold Out” ไปก่อนชั่วคราวจนกว่าจะปรับปรุงระบบให้รองรับการดาวน์โหลดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้
ทั้งนี้ Skyfire อนุญาตให้ผู้ใช้งานอุปกรณ์ iOS รับชมวิดีโอที่ทำมาจาก Flash ได้ โดยการส่งไฟล์วิดีโอดังกล่าวไปที่เซอร์เวอร์ของ Skyfire เพื่อทำการแปลงให้เป็นฟอร์แมต HTML5 และส่งกลับมายังอุปกรณ์ iOS ของผู้ใช้งาน และด้วยเหตุนี้นี่เองที่ทำให้เซอร์เวอร์ของ Skyfire ล่ม เพราะมีผู้ต้องการชมวิดีโอ Flash มากเกินกว่าที่เซอร์เวอร์จะสามารถแปลงไฟล์ได้ทัน อย่างไรก็ตามนี่เป็นวิธีการเดียวเท่านั้นที่ผู้ใช้อุปกรณ์ iOS จะสามารถรับชมวิดีโอ Flash ได้ โดยที่ตัวแอพไม่โดน Apple แบนไปซะก่อน เพราะแอพไม่ได้แปลง Flash ไปเป็น HTML5 ภายในตัวอุปกรณ์เอง แต่ใช้วิธีการส่งไปที่เซอร์เวอร์นอกเพื่อทำการแปลง แล้วจึงดาวน์โหลดกลับมาที่ตัวเครื่องเพื่อรับชมอีกครั้งหนึ่ง
ที่มา i3

ยอดขายมือถือ Windows Phone 7 วันแรกอยู่ที่เพียง 40,000 เครื่อง!

เมื่อวันจันทร์ที่ 8 ที่ผ่านมา มือถือ Windows Phone 7 ได้ฤกษ์วางขายแล้วในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ว่ายอดขายนั้นอาจไม่สูงมากเท่าที่ Microsoft หวังไว้
โดยรายงานของ Thestreet ระบุว่ายอดขายมือถือ Windows Phone 7 ในวันแรกอยู่ที่ราว 40,000 เครื่องสำหรับเครือข่าย AT&T และ T-Mobile โดยตัวเลขดังกล่าวนั้นอ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ทำวิจัยด้านข้อมูลการตลาดแห่งหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ Microsoft ได้ออกมาประกาศว่า ทางบริษัทคาดว่าจะสามารถขายมือถือ Windows Phone 7 ได้ถึง 3.5 ล้านเครื่องภายในปีนี้ แต่เอาจริงอาจทำได้ไม่มากเท่าที่คาดไว้
ยิ่งไปกว่านั้น ยอดขายมือถือ Windows Phone 7 ยังน้อยมากเกือบจะเท่ากับ Microsoft Kin ที่สามารถขายไปได้เพียง 10,000 เครื่องในวันแรกที่วางจำหน่ายเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ตัวเลขยอดขายมือถือ Windows Phone 7 ดังกล่าวนั้นยังไม่รวมมือถือ 87,000 เครื่องที่ Micrsoft มอบให้กับพนักงานของตนใช้ และอีก 25,000 เครื่องที่ Dell เสนอให้กับพนักงานของตนใช้แทน Blackberry
ถึงแม้นี่อาจไม่ใช่ข่าวที่น่ายินดีนักสำหรับ Microsoft แต่ว่าทางบริษัทก็ยังมีลุ้นอีกในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปีนี้ที่กำลังจะมาถึง อีกทั้งในตอนนี้ Windows Phone 7 ก็มีผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นแล้วกว่า 12,000 ราย รวมทั้งแอพอีกกว่า 1,000 ตัวให้ดาวน์โหลดแล้ว
เมื่อเดือนที่แล้ว Google ประกาศว่าสามารถขายมือถือ Android ไปได้ 200,000 เครื่องต่อวัน ในขณะที่ Apple อ้างว่าสามารถขาย iPhone ไปได้ 260,000 เครื่องต่อวันเช่นเดียวกัน
ที่มา i3

Bisqui Phon ขนมปังกรอบโทรได้จาก Sharp

Bisqui Phon หรือรหัสรุ่น SH-04C โทรศัพท์มือถือจากผู้ผลิต Sharp ดีไซน์รูปทรงฝาพับน่ารักคิกขุ มีรูปร่างคล้ายแผ่นขนมปังกรอบ ที่จุ่มนม หรือราดด้วยช็อคโกแล็ต ดูแล้วน่ารับประทานเป็นอย่างมาก SH-04C มาพร้อมหน้าจอแสดงผลหลัก ขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 480 x 854 พิกเซล แสดงผล 16.7 ล้านสี จอแสดงผลด้านนอก 1.4 นิ้ว กล้องถ่ายรูป CCD ความละเอียด 9.6 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า CMOS ขนาดตัวเครื่อง 110 x 50 x 17.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 129 กรัม รองรับการ์ดหน่วยความจำ MicroSD/MicroSDHC สูงสุด 16 GB
SH-04C มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว (Milk) และ สีช็อคโกแล็ต (Choco) วางจำหน่ายผ่าน NTT Docomo ในประเทศญี่ปุ่น จำนวนจำกัดเพียง 15,000 เครื่อง/สี เท่านั้น
ที่มา Siamphone

แอลจี จีที 540 LG GT540

แว่วมาว่า แอลจี ออพติมัส จีที 540 รุ่นนี้ ขายดีมากจนแอลจีก็คาดไม่ถึง ไม่รู้ว่าเพราะความเก่งของโทรศัพท์มือถือหรือความหล่อของพรีเซ็นเตอร์หนุ่ม หล่อชาวเกาหลีกันแน่

จะว่าไปแล้ว จีที 540 นั้นรูปร่างหน้าตาดูดี ขนาดกำลังพอเหมาะมือ และน้ำหนักเบา วัสดุเป็นโลหะที่ออกแบบให้ดูดีตั้งแต่หัวจดเท้า

มาดูคุณสมบัติเบื้องต้นของตัวเครื่องกันก่อน จีที 540 มีหน้าจอแอลซีดีระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 3 นิ้ว รองรับเครือข่าย 3 จี เอชเอสดีพีเอ 7.2 มีไวไฟ บลูทูธ จีพีเอสมาพร้อมในตัวเครื่อง กล้องถ่ายรูป ดิจิทัล 3 ล้านพิกเซล

จีพีเอสในตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับการใช้งานแผนที่นำทางฟรีตลอดชีพด้วยนะ

จีที 540 เป็นโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 2.1 ที่สามารถอัพสู่ 2.2 ได้ หรืออยากจะใช้เวอร์ชั่นเดิมก็ไม่มีอะไรเสียหาย

ปัจจุบันระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ หรือแอนดรอยด์ โอเอส กำลังมาแรง คาดว่าจะขึ้นเป็นที่สองของโลกและไต่สู่ที่ 1 ได้ภายใน ค.ศ. 2014 หรืออาจจะเร็วกว่านั้น แอนดรอยด์โอเอส จนถึงขณะนี้มี 4 เวอร์ชั่น รุ่นแรกเผยโฉมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2009 เวอร์ชั่น 1.5 คัพเค้ก ต่อมาก็เป็นเวอร์ชั่น 1.6 หรือโดนัท เวอร์ชั่น 2.1 หรือเอแคลร์ และเวอร์ชั่น ใหม่ล่าสุดคือ 2.2 ชื่อเล่นก็คือ โฟรโย

ดร.สก็อตต์ อานห์ ซีอีโอและประธานกลุ่มโทรศัพท์มือถือแอลจี เกาหลีใต้ บอกว่า เวลาจะซื้อสมาร์ทโฟน ให้พิจารณาจากคุณภาพของจอ ซีพียู และระบบปฏิบัติการ แอลจี จึงมีออพติมัส ซึ่งจะมีโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนทุกโอเอส อยู่ในกลุ่มนี้ แต่จะผนวกจุดเด่นของแอลจี เข้าไปเพิ่มเติม มียูสเซอร์อินเตอร์เฟสแบบพิเศษบนหน้าจอ

แอลจีใช้ทีมงานหลายร้อยคนทำงานร่วมกับกูเกิล เพื่อทำโทรศัพท์มือถือออพติมัสโดยเฉพาะ แอลจีต้องการสมาร์ทโฟนเป็นโทรศัพท์มือถือที่ทุกคนใช้งานได้

สำหรับ จีที 540 จุดเด่นนอกจากดีไซน์ ใช้งานง่าย และราคาถูกเพียง 8 พันบาท แบตเตอรี่ที่มาพร้อมตัวเครื่องเป็นลิเทียมไอออน 1500 มิลลิแอมแปร์ ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ระดับสูงที่สุดในตลาดเวลานี้ ทำให้รองรับการใช้งานได้สบายเป็นวัน ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตฯหมด

อีกไม่นานก็จะเห็นแอลจี แอน ดรอยด์ ออพติมัส รุ่น ชิก และวัน เข้ามาวางขายเพิ่มเติมอีกสองรุ่น ในราคาไม่เกินหมื่นต้น ๆ หรือต่ำกว่าหมื่นบาท

ส่วนคนที่อยากเห็นแท็บเล็ต จอ 7 นิ้วของแอลจี ต้นปีหน้าได้เห็นและได้ใช้งานแน่นอน ตอนนี้แอลจีอยู่ระหว่างพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์

รักแอนดรอยด์ ชอบแอนดรอยด์ ไม่ควรพลาด.
แอลจี จีที 540 LG GT540
ที่มา เดลินิวส์

กาแล็คซี่แฟมิลี่

มาว่ากันต่อเรื่องมือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์กันให้จุกกันเลยดี กว่า ไหน ๆ ปีนี้ ใครก็พูดถึงแต่แอนดรอยด์ และผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือทุกค่ายก็ทยอยเปิดตัวโทรศัพท์มือถือที่ใช้แอน ดรอยด์โอเอสกันมากจนจำชื่อรุ่นได้ไม่หมด
ซัมซุงมากันเป็นแฟมิลี่ หลังจากมีกาแล็คซี่ เอส ที่ ซัมซุงบอกว่า ขายได้มากกว่า 1 ล้านเครื่องทั่วโลก หลังจากเปิดตัวเพียง 1 เดือน ในบ้านเรากาแล็คซี่ เอส ก็ร้อนแรงไม่ใช่ย่อย ขายไปแล้วกว่า 10,000 เครื่อง คราวนี้เลยขนมากันทั้งครอบครัว มีกาแล็คซี่เอสรุ่นเล็ก ราคาไม่แพง ประมาณ 7-9 พันบาท ผ่านซัมซุงกาแล็คซี่ 3 และ 5

ขอเริ่มที่กาแล็คซี่ 3 มีหน่วยประมวลผลหรือซีพียู 667 เมกะเฮิรตซ์ จอใหญ่มาตรฐาน 3.2 นิ้ว ความละเอียดในระดับดับเบิลยูคิววีจีเอ ซึ่งมีความคมชัดมาก ๆ รองรับเครือข่าย 3 จี กล้องถ่ายรูป 3.2 ล้านพิกเซล มีไวไฟ บลูทูธ หน่วยความจำในตัวเครื่อง 130 เมกะไบต์ เพิ่มหน่วยความจำภายนอกผ่านไมโครเอสดีการ์ด


นอกจากความโดดเด่นอยู่ที่ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และรองรับมัลติมีเดียหลากหลายรูปแบบแล้ว แบตเตอรี่ยังเป็น รุ่นใหม่ ขนาด 1,500 มิล ลิแอมแปร์ ซึ่งถือ ว่าสูงสุดในยุคนี้ ทำให้เราสามารถใช้งานโทรศัพท์ได้นานตลอดวัน ปัญหาของโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนก็คือ แบตเตอรี่หมดเร็ว อันเนื่องมาจากมีแอพพลิเคชั่นมากมายให้เราดาวน์โหลดมาใช้ ความสามารถ ที่เก่งเทียบเท่าเครื่องคอมพิว เตอร์ขนาดพกพา หน้าจอคมชัดแทบบาดตาก็ต้องแลกกับการสิ้นเปลืองพลังงานเป็นธรรมดา

มาพูดถึงกาแล็คซี่ 5 น้องเล็กกันบ้าง ซัมซุงอ้างว่า เป็นมือถือแอนดรอยด์ที่ราคาถูกและคุ้มค่าที่สุด หน่วยประมวลผลด้อยกว่า เพราะใช้ซีพียู 600 เมกะเฮิรตซ์ จอ 2.8 นิ้ว หน้าจอจะคมชัดน้อยกว่ารุ่น 3 เพราะเป็นแอลซีดีแบบคิววีจีเอ กล้อง 2 ล้านพิกเซล การเชื่อมต่อรองรับได้ ไวไฟ บลูทูธ มีจีพีเอส หน่วยความจำในตัวเครื่อง 90 เมกะไบต์ อาจจะดูน้อยแต่เพิ่มจากหน่วยความจำภายนอกได้

ทั้งกาแล็คซี่ 3 และ 5 เป็นแอนดรอยด์ที่ราคาน่าสนใจสำหรับผู้ที่เริ่มใช้แอนดรอยด์
มีหลายท่านถามมาว่า มือถือแอน ดรอยด์นี่มันเก่งกว่ามือถือทั่วไปยังไง อธิบาย แบบรวบรัดก็คือ แอนดรอยด์ก็คือ ระบบปฏิบัติการน้องใหม่บนโทรศัพท์มือถือกลุ่มสมาร์ทโฟน เป็นผลงานการพัฒนาของกูเกิล ที่เปิดให้ผู้ผลิตมือถือ และนักพัฒนาสามารถนำไปต่อยอดได้ฟรี ๆ ทำให้แอนดรอยด์เติบโตและถูกจับตามอง ว่า จะสามารถแซงระบบปฏิบัติการซิมเบี้ยน ที่ยังครองที่หนึ่งในตลาดโลกภายในปีสองปีนี้

เมื่อกูเกิลเป็นผู้พัฒนาแอนดรอยด์ ทำให้เราสามารถใช้บริการต่าง ๆ ของกูเกิลได้บนมือถือ เหมือนที่เราคุ้นเคยกับ การใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่ถูกย่อ มาให้ใช้บนมือถือ การใช้สมาร์ทโฟนให้คุ้มค่าเงิน ที่ซื้อมา ก็ควรจะดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมา ใช้งานควบคู่กันไปด้วยจึงจะสนุกและรู้ สึกว่าแตกต่างจากการใช้โทรศัพท์มือถือ ทั่ว ๆ ไป

แต่ต้องไม่ลืมว่า สมาร์ทโฟนนั้นมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายอื่นนอกเหนือไปจากค่าโทรศัพท์ ผู้ใช้ควรพร้อมจ่ายค่าบริการดาต้าซึ่งเดี๋ยวนี้มีให้เลือกหลากหลายแพ็กเกจ ตามความต้องการใช้งาน แนะนำให้ซื้อแพ็กเกจจะประหยัดกว่า ไม่เช่นนั้นอาจเจออาการบิลช็อกตอนจ่ายตังค์ หากเผลอไปปล่อยให้เชื่อมต่อเน็ตทั้งวันทั้งคืน.
ที่มา เดลินิวส์



วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Panasonic LUMIX DMC-GF2 เปิดตัวแล้ว

เปิดตัวออกมาแล้วสำหรับใครที่ติดอกติดใจกับรุ่นก่อน GF1 สำหรับ Panasonic LUMIX DMC-GF2 ซึ่งเป็นกล้องที่เรียกว่า DSL Micro (DSLM) หรือกล้องขนาดเล็กที่มีความสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ และสำหรับรุ่นนี้ถือว่าเล็กและเบาที่สุดเลย มาพร้อมหน้าจอขนาด 3 นิ้ว เป็นจอระบบสัมผัส รุ่นนี้ยังมาพร้อมสเปกและฟังก์ชั่นเทพๆ เพียบ สามารถถ่ายวิดีโอได้ระดับ Full HD 1080i @60fps ขนาดความละเอียดภาพ 12.1 ล้านพิกเซล สามารถแตะสัมผัสหน้าจอเพื่อเลือกโฟกัสได้ มีฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Q-Menu ที่สามารถเซ็ต shortcuts บนจอสำหรับฟีเจอร์ไหนที่ใช้บ่อยๆ มีโหมด iA โหมดเลือก Scene อัจฉริยะ สำหรับใครที่กำลังเล็งกล้องขนาดเล็กแต่ฟังก์ชั่นไม่เล็ก เตรียมเงินให้พร้อมไว้เลย คาดว่าจะมาราวเดือนมกราคม ปีหน้านี้

Panasonic LUMIX DMC-GF2 เปิดตัวแล้ว
ที่มา Dpreview

iPhone Table ขนาด 58 นิ้วรองรับ Multi Touch Screen


และนี่คือนวัตกรรมใหม่ ที่เชื่อว่าจะโดนใจหลายๆ คน นั้นคือ โต๊ะทำงานในรูปแบบ iPhone ขนาด 58 นิ้ว ซึ่งรองรับ Multi Touch Screen ซึ่งสามารถ Connect กับ iPhone iPod และ iPad ของคุณได้ ทำให้คุณสามารถใช้ Device สุดโปรดของคุณบนโต๊ะทำงาน Hitech นี้ได้รูปแบบการ Connect จะใช้ผ่าน USB Port ซึ่งหากนึกภาพไม่ออก ชม VDO ข้างล่างนี้ได้เลย
ที่มา nextmobilephone

ฟรีบริการเก็บสถิติเว็บไซด์ FlashSanook แฟลชเกมสนุกของคนออนไลน์