Sony VAIO ซีรีส์ S และ F |
digital camera camcorder video camera Sanyo Sony Panasonic ไอโฟน notebook, เน็ตบุ๊ก,LCD,LCD TV Samsung,Canon EOS 1100D,Canon EOS 600D
วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
Sony ตัดสินใจอัพเกรด VAIO ซีรีส์ S และ F
ViewPad 10Pro แท็บเล็ต “ดูอัลบู๊ต”
วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
Dell Streak 5 ปูพื้นฐานก่อนทำตลาดจริงจัง
ฟูจิตซึโชว์ “มือถือ-พีซีวินโดวส์” เครื่องเล็กที่สุดในโลก
Samsung All-in-One แบบ 3D
Samsung All-in-One แบบ 3D |
Google Wallet กระเป๋าสตางค์บนมือถือ
Google Wallet |
AIS เปิดประสบการณ์ Galaxy Episode II
นายสมชัย เลิศสุทธิ วงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า
วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
HP Officejet 7500A Wide-Format e-All-in-One เพื่อความคุ้มทุนสำหรับธุรกิจเอสเอ็มบี
ยอดขายอีบุ๊กคินเดิลแซงหนังสือกระดาษทุกประเภท
อเมซอนเผยสถิติการซื้อขายหนังสือบนเว็บไซต์ล่าสุดอย่างเป็นทางการ ระบุว่านับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2011 หนังสือกระดาษทุก 100 เล่มที่อเมซอนจำหน่ายไปนั้นสามารถจำหน่ายในรูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพื่ออ่านบนคินเดิล (Kindle) ถึง 105 เล่ม ถือเป็นเป็นยอดขายที่สูงกว่าช่วงเมษายนปีที่แล้วถึง 3 เท่าตัว โดยหนังสือทั้งหมดรวมทั้งหนังสือปกแข็ง (hardcover) และหนังสือปกอ่อน (paperback) ซึ่งไม่มีจำหน่ายในเวอร์ชันอีบุ๊ก
'นีลสัน' ชี้คนใช้แท็บเล็ต 1 ใน 3 เลิกใช้คอมพ์
นีลสัน มีการสำรวจถึงพฤติกรรมผู้ใช้งานแท็บเล็ต หลังจากที่เริ่มใช้งาน พบว่า 1 ใน 3 หรือราว 35% ให้ข้อมูลว่าไม่ได้กลับไปใช้งานเดสก์ท็อบหรือใช้งานน้อยลงมาก ในขณะที่ 32% บอกว่าใช้เดสก์ท็อปน้อยลง และนีลสันยังรายงานอีกว่า 77% ของผู้ใช้งานแท็บเล็ตสามารถเปลี่ยนรูปแบบการทำงานจากเดสก์ท็อปหรือโน้ตบุ๊ก มาทำงานบนแท็บเล็ตแทน
วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
แอลจีปลื้ม Optimus 2X สมาร์ทโฟนดูอัลคอร์เครื่องแรกของโลก
หลังจากประสบความสำเร็จในการเป็นแบรนด์แรกของโลกที่นำเสนอเทคโนโลยี Dual Core ล่าสุด LG Optimus 2X ได้รับการรับรองจาก กินเนสบุ๊ค เวิลด์ เรคคอร์ด ให้เป็นมือถือรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล Dual Core จึงให้ประสิทธิภาพด้านความเร็ว การท่องเว็บ และมัลติมีเดียเพื่อความบันเทิงที่เหนือกว่ามือถือ Single Core โดย เปิดตัวเป็นครั้งแรกที่ประเทศเกาหลี ในเดือนมกราคม 2554 แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกของแอลจีได้เป็นอย่าง ดี
วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วิธีเลือกซื้อคอมพิวเตอร์อย่างไร ให้ตรงกับการใช้งาน
ช่วงต้อนรับเปิดเทอมหลายๆคนคงกำลังมองหาคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ ทั้งเครื่องเดสก์ท็อป และโน้ตบุ๊ก ให้บุตรหลาน หรือ ซื้อใช้เอง แต่จะซื้ออย่างไรให้ตรงกับความต้องการงบไม่บานปลายและคุ้มค่า ท่ามกลางตัวเลือกมากมายในขณะนี้...
สำหรับหลายๆ คนแล้ว การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องน่าปวดหัว คุณอาจจะคิดว่าเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี โดยขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ หรือศึกษาข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือเว็บไซต์มาแล้ว แต่พอคุณไปถึงร้าน พนักงานขายที่พร้อมให้คำแนะนำเพิ่มเติมอื่นๆ อีกมากก็อาจทำให้งงมากขึ้น การศึกษาหาข้อมูลให้มากที่สุดนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่บางครั้งคำแนะนำจากคนอื่น อาจทำให้คุณหลงลืมวัตถุประสงค์ของตัวเองในการซื้อคอมพิวเตอร์ คนที่จะเป็นผู้ใช้งานเครื่องคอมพ์ที่คุณจะซื้อก็ คือ ตัวคุณเอง ไม่ใช่เพื่อน สื่อโฆษณาต่างๆ หรือพนักงานขาย แต่คือคุณ ฟังดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่คุณอาจแปลกใจว่ามีคนจำนวนมากเลยทีเดียวที่ลืมข้อสำคัญในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ข้อนี้ไป เช่น คุณอยากได้โน้ตบุ๊กสำหรับเล่นเน็ต พิมพ์งานได้ สักเครื่องราคาไม่แพง เพื่อนแนะนำให้ซื้อ แมคบุ๊กโปร เกินความจำเป็นไหม หรือ จะเอาไปทำงานกราฟฟิค ตัดต่อวิดีโอ แต่จะซื้อเน็ตบุ๊กราคา 19,900 บาทเหมาะสมหรือไม่
ตอบคำถามแรกให้ได้ว่า คุณใช้คอมพ์ทำอะไร?
วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
“Logitech HD Webcam C525” เว็บแคม HD
LG Optimus Black เตรียมวางจำหน่ายในเอเชีย
LG ได้ประกาศอย่างเป็นทางการออกมาว่า มือถือรุ่นใหม่ Optimus Black นั้นจะวางจำหน่ายในทวีปยุโรปภายในเดือนนี้ ต่อด้วยทวีปอเมริกาเหนือ และตามมาด้วยทวีปเอเชีย
สำหรับ LG Optimus Black นี้ไม่ใช่มือถือแบบ dual-core แต่ว่ามีจุดเด่นอยู่ที่ความบางและเบา (9.2 มิลลิเมตร, 109 กรัม) และยังมีหน้าจอแบบ Nova display ซึ่งสว่างมาก ขนาด 4 นิ้ว, มีกล้องด้านหน้า 2 ล้านพิกเซล, กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส ไฟแฟลช และถ่ายวีดีโอได้ 720p, มี RAM 512MB, cpu 1GHz และหน่วยความจำ 2GB, Android 2.2 Froyo
นอกจากนี้เดือนหน้า LG จะวางจำหน่าย Optimus Black เพิ่มอีก 2 สี คือ สีขาวและสีชมพู ว่าแต่ถ้ามี 2 สีเพิ่มมาแบบนี้จะมีการเปลี่ยนชื่อมั้ยนะ
สำหรับราคาของ Optimus Black นั้นตั้งไว้ที่ 350 ยูโร (ประมาณ 15,000 บาท)
ที่มา phonemove
วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
เขย่าบัลลังก์กูเกิล “เฟซบุ๊ก” ดึงคนเข้าเว็บข่าวเพียบ
สะท้อนพฤติกรรมชาวออนไลน์ในช่วงปีที่ผ่านมาที่ได้รับอิทธิพลจากกระแสเครือข่ายสังคมสุดร้อนแรงโดยตรง ทำให้ฐานะการเป็น “ประตูสู่เว็บไซต์” ของกูเกิลเริ่มสั่นคลอน ขณะที่มีการจับสังเกตว่า ทั้งกูเกิล และเฟซบุ๊ก ต่างเพิ่มดีกรีการแข่งขันกันเป็นประตูสู่โลกออนไลน์อย่างดุเดือดขึ้นทุกขณะ
ผลการสำรวจนี้มาจากการศึกษาของบริษัทวิจัย Pew Research Center ซึ่งดำเนินโครงการศึกษาเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมสื่อสารมวลชน หรือ Project for Excellence in Journalism ทำการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคข่าวออนไลน์ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2010 ใช้สถิติการสำรวจกลุ่มตัวอย่างจากบริษัทนีลเส็น (Nielsen) โดยเลือกเว็บไซต์ข่าวยอดนิยม 25 อันดับแรกในสหรัฐฯ มาวิเคราะห์ถึงความถี่ในการใช้งานของผู้อ่านเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ ระยะเวลาในการอ่านข่าวแต่ละครั้ง ขอบเขตความลึกของการค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์ รวมถึงเว็บไซต์ถัดไปหลังจากอ่านข่าวเสร็จ
ปรากฏว่า กว่า 40% ของปริมาณการใช้งานเว็บไซต์ข่าวอเมริกัน (ทราฟฟิก) ทั้ง 25 แห่งนั้นมาจากเว็บไซต์อื่น โดยบริการ Google News ของกูเกิล คือบริการที่สามารถเพิ่มทราฟฟิกให้เว็บข่าวอเมริกันได้มากที่สุด สำหรับ 60% ของทราฟฟิกที่เหลือ การสำรวจพบว่าผู้อ่านส่วนใหญ่เข้าสู่เว็บไซต์โดยพิมพ์ชื่อเว็บข่าวเพื่อเปิดหน้าโฮมเพจโดยตรง จุดนี้ทำให้โฮมเพจของเว็บไซต์ข่าวเป็นส่วนที่ถูกเปิดชมมากที่สุด ซึ่งพบในเว็บไซต์ 21 ใน 25 แห่งที่ทำการสำรวจ
ทีมสำรวจตั้งข้อสังเกตว่า โซเชียลมีเดียหรือสื่อในเครือข่ายสังคมเช่นเฟซบุ๊กกำลังเป็นเครื่องมือดันทราฟฟิกตัวใหม่ที่มาแรงแซงเครื่องมืออื่น โดยขณะที่กูเกิลเป็นเบอร์ 1เฟซบุ๊กกลับเป็นบริการที่ช่วยดันยอดทราฟฟิกเว็บไซต์ข่าวอเมริกันมากเป็นอันดับ 2 จุดนี้พบในเว็บไซต์ 5 ใน 25 แห่งที่ทำการสำรวจ
นัยของผลสำรวจนี้คือ การเสิร์ชหรือการค้นหาข่าวบนเสิร์ชเอนจินซึ่งมีอิทธิพลต่อนักอ่านข่าวออนไลน์มานานนับ 10 ปี กำลังจะถูกแทรกซึมด้วยการ “แบ่งปันข่าว” หรือการแชร์ (sharing) ข่าวซึ่งเชื่อว่าจะมีอิทธิพลต่อนักอ่านข่าวต่อเนื่องในช่วง 10 ปีนับจากนี้
เว็บไซต์ข่าวอเมริกันที่ได้รับทราฟฟิกจากเฟซบุ๊กมากที่สุด คือ The Huffington Post โดยคิดเป็น 8% จากผู้อ่านทั้งหมด
เครือข่ายสังคมชื่อดังอย่างทวิตเตอร์ (Twitter) กลับไม่มีแรงดันทราฟฟิกเว็บไซต์ข่าวอย่างที่หลายคนคิด โดยมี 1 ใน 25 เว็บไซต์เท่านั้นที่ได้รับทราฟิกจากทวิตเตอร์มากเกินกว่า 1% นั่นคือ The Los Angeles Times ที่ได้รับทราฟฟิกจากทวิตเตอร์ราว 3.53%
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของระยะเวลาการใช้งาน การสำรวจพบว่าผู้อ่านเว็บไซต์ข่าวอเมริกันส่วนใหญ่ (77% ของทราฟฟิกทั้งหมดในเว็บไซต์ข่าวอเมริกัน 25 แห่ง) อ่านข่าวออนไลน์เพียง 1-2 ครั้งต่อเดือน และเวลาในการใช้งาน 1 ครั้งนั้นต่ำเพียง 2-3 นาทีต่อครั้งเท่านั้น โดยบริการยาฮูนิวส์ (Yahoo! News) คือบริการที่มี “กลุ่มผู้อ่านน้อยครั้ง” ต่ำที่สุด ซึ่งก็ยังมีสัดส่วนสูงถึง 55%
สำหรับกลุ่มที่อ่านข่าวออนไลน์เป็นประจำมากกว่า 10 ครั้งต่อเดือน และใช้เวลาอ่านแต่ละครั้งมากกว่า 1 ชั่วโมง ปรากฏว่าผู้อ่านกลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยราว 7% ของทราฟฟิกเท่านั้น โดยซีเอ็นเอ็น (CNN) คือเว็บไซต์ข่าวที่มี “ผู้อ่านขาประจำ” มากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 18% ของทราฟฟิกรวม รองลงมาคือ Fox New's ที่มีสัดส่วนผู้อ่านกลุ่มนี้สูงถึง 16%
การสำรวจพบว่า มีเว็บไซต์ข่าวอเมริกันเพียง 6 แห่งเท่านั้นที่มีผู้อ่านขาประจำในสัดส่วนเป็นเลข 2 หลัก
ทีมวิจัยสรุปความแตกต่างของผลการสำรวจที่ได้ว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่องค์กรข่าวอเมริกันและทั่วโลกควรสรรหากลยุทธ์ที่แตกต่างเพื่อรองรับกลุ่มตลาดที่มีความต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งในแง่ของการบริการข่าว และการหารายได้จากผู้อ่าน โดยมองว่าโฆษณานั้นอาจเหมาะสมกับกลุ่มผู้อ่านบางกลุ่มเท่านั้น ขณะที่รูปแบบการสมัครสมาชิกก็ยังคงเหมาะสำหรับผู้อ่านอีกกลุ่ม
การสำรวจยังพบว่า กูเกิล คือเว็บไซต์ปลายทางอันดับ 1 ที่ผู้ใช้เปิดหลังอ่านข่าวจบแล้ว ก่อนที่ผู้ใช้จะท่องเว็บอื่นๆ ต่อเนื่องไปเรื่อย อย่างไรก็ตาม จุดนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่ากูเกิลไม่แสดงลิงก์ที่ทำให้ผู้ใช้เข้าสู่เว็บเฟซบุ๊กเช่นที่ส่งลิงก์เข้าสู่เว็บไซต์อื่นๆ ทำให้ทั้งกูเกิลและเฟซบุ๊กถูกมองว่าเป็นคู่แข่งกันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคู่แข่งในแง่ของการเป็นประตูสู่เว็บไซต์อื่น
เว็บไซต์ 25 แห่งที่ถูกดำเนินการศึกษาในครั้งนี้ ประกอบด้วย เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ 11 แห่ง ได้แก่ The New York Times, The Washington Post, USA Today, The Wall Street Journal, The Los Angeles Times, New York Daily News, New York Post, Boston Globe, San Francisco Chronicle, Chicago Tribune และ Daily Mail ของอังกฤษ
เว็บไซต์ 6 แห่งเป็นเว็บไซต์เครือข่ายเคเบิลทีวี เช่น MSNBC, CNN, ABC, Fox, CBS และ BBC อีก 7 แห่งเป็นบริการเว็บท่ารวมข่าว เช่น Google News, the Examiner, Topix, Bing News, Yahoo! News, AOL และ The Huffington Post โดยเว็บไซต์สุดท้าย คือ สำนักข่าวสากลอย่าง Reuters
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ฟูจิตสึ ส่ง LIFEBOOK 10 รุ่นใหม่ลงตลาด
โทโมกิ ทาคาฮาชิ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ฟูจิตสึ พีซี เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า ฟูจิตสึ เปิดตัวโน้ตบุ๊กในตระกูล LIFEBOOK ใหม่ล่าสุดทั้งหมด 10 รุ่นพร้อมกันเพื่อรุกตลาดเมืองไทย เน้นสมรรถนะความแรงของเครื่องและประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น
LIFEBOOK รุ่นใหม่ ประกอบด้วย S Series ( SH761 & SH561), N Series (NH751), P Series (PH701), A Series (AH531), L series ( LH701 & LH531) รวมถึง B series ( BH531) โดยทุกรุ่นมาพร้อมชิปประมวลผลอินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจเนอเรชั่น 2 ที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ด้านความแรงในการประมวลผล ความเร็ว และความสามารถในการแสดงภาพ ออกแบบให้ใช้งานง่าย เพื่อกลุ่มคอนซูเมอร์ และนักธุรกิจ
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดตัว STYLISTIC Q550 หน้าจอสัมผัส ดีไซน์บางเฉียบ (Slate PC) เป็นแท็บเล็ตพีซีสำหรับผู้ใช้ที่เป็นนักธุรกิจ และระดับผู้บริหาร STYLISTIC Q550 จะติดตั้งระบบความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แบบตอบทุกโจทย์ความต้องการความปลอดภัยด้านไอซีที ส่วน LIFEBOOK TH550 แท็บเล็ตรุ่นแรกของฟูจิตสึ มาพร้อมเทคโนโลยีมัลติทัช 4 จุด (four-point multi-touch) และรองรับการใส่ข้อมูล 3 แบบ ได้แก่ การพิมพ์ การเขียน และการสัมผัสหน้าจอ
'เรากำลังเข้าสู่โลกยุคที่มีศูนย์กลางเป็นมัลติมีเดียโดยผู้ใช้มีความต้องการในเรื่องของความรวดเร็ว และความสวยงาม การท่องเว็บ และการเล่นเกมที่สามารถทำได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งโน้ตบุ๊กใหม่ล่าสุดของเรามาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ที่หลากหลาย สามารถปรับการตั้งค่าให้ตรงกับความชอบและความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้งานได้ มากที่สุด'
โน้ตบุ๊กใหม่ทั้ง 10 รุ่นราคาตั้งแต่ 20,000 ถึง 80,000 บาท โดยในปีนี้ฟูจิตสึ ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดโน้ตบุ๊ก ขึ้นมาอยู่ที่ 2% หรือประมาณ 4หมื่นเครื่องจากปีที่ผ่านมาที่มีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ1%หรือ2หมื่นเครื่อง
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
ตลาด"แอปฯ"โตกระฉูด ทะลุ3.8พันล.ดอลล์ปีนี้
บริษัทวิจัย IHS iSuppli รายงานว่าธุรกิจร้านจำหน่ายแอปฯที่แบรนด์ใหญ่อย่างแอปเปิล กูเกิล โนเกีย และริม (Research In Motion) เป็นเจ้าของอยู่ในขณะนี้จะมีมูลค่ารายรับรวมสูงถึง 3,800 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 8,300 ล้านเหรียญในปี 2014 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า
ตัวเลขคาดการณ์นี้สะท้อนว่า อัตราการเติบโตของตลาดโมบายล์แอปฯนั้นเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด โดยเติบโตจากปี 2010 ที่มีมูลค่าราว 2,100 ล้านเหรียญ และ 830.6 ล้านเหรียญในปี 2009
Jack Kent นักวิเคราะห์ตลาดอุปกรณ์พกพาของบริษัท IHS ระบุว่าการเติบโตเหล่านี้เป็นผลจากพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งมีความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในการดาวน์โหลดเกมและโปรแกรมแอปฯเพื่อใช้ในอุปกรณ์พกพาของตัวเอง ทำให้รายได้การจำหน่ายแอปฯและคอนเทนต์ในร้านค้าออนไลน์ของผู้เล่นรายหลักในตลาดอุปกรณ์พกพา ถีบตัวเพิ่มขึ้นชัดเจนในปีนี้
IHS iSuppli เชื่อว่าร้านแอปฯออนไลน์ของแอปเปิลอย่าง App Store จะสามารถทำรายได้ทะลุ 2,910 ล้านเหรียญในปีนี้ คิดเป็นสัดส่วนราว 2 ใน 3 ของส่วนแบ่งตลาดรวม อย่างไรก็ตาม การสำรวจของ IHS iSuppli พบว่าส่วนแบ่งตลาดของแอปเปิลในตลาดโมบายล์แอปฯจะลดลงเหลือ 60% ในช่วง 3 ปีนับจากนี้ (ปี 2014)
สำหรับ Android Market ของกูเกิล บริษัทวิจัย IHS iSupply คาดว่าจะมีรายได้รวม 425.36 ล้านเหรียญในปีนี้ คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 295.4% จุดนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมจากบริษัทวิจัยนาม Distimo ซึ่งเพิ่งคาดการณ์ว่ากูเกิลจะสามารถเพิ่มจำนวนแอปฯได้เท่าเทียมแอปเปิลในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยเสริมให้กูเกิลสามารถจำหน่ายแอปฯ ได้มากขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ผู้ที่คาดว่าจะสามารถครองส่วนแบ่งตลาดโมบายล์แอปฯ อันดับที่ 3 คือริม เจ้าของร้าน BlackBerry App World โดย IHS iSupply คาดว่าริมจะสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้น 69.2% ในปีนี้จนทำรายได้รวมที่ 279.11 ล้านเหรียญสหรัฐ นำหน้าร้าน Ovi Store โนเกียซึ่งคาดว่าจะทำเงินได้ 201.48 ล้านเหรียญในปี 2011
สำหรับไมโครซอฟท์ที่ไม่ติดชาร์จในขณะนี้ IHS iSupply คาดว่าไมโครซอฟท์จะกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นในตลาดได้อย่างรวดเร็วในอนาคต โดยเฉพาะความร่วมมือกับโนเกียซึ่งคาดว่าจะทำให้ร้าน Windows Phone Marketplace ของไมโครซอฟท์มีปริมาณการดาวน์โหลดแอปฯที่เพิ่มขึ้นแน่นอน
นอกจากนี้ IHS iSupply ยังมองว่าธุรกิจซื้อขายสินค้าและบริการบนแอปฯหรือ in-app purchase จะเป็นกุญแจสำคัญในการดันยอดเม็ดเงินสะพัดในธุรกิจโมบายล์แอปฯตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นไป คาดว่าแอปเปิลจะนำโด่งในตลาดนี้เช่นเดิม
ในเชิงของผู้สร้างแอปฯ IHS iSupply คาดว่ารายได้ส่วนใหญ่จะยังตกอยู่กับเจ้าของแอปฯที่มีเนื้อหาอยู่แล้วและนำมาผสานและดัดแปลงในรูปของแอปฯเพื่อจำหน่ายต่อบนโทรศัพท์มือถือ เช่น Time Warner, Disney หรือ News Corp แต่ขณะเดียวกัน บริษัทหน้าใหม่ผู้สร้างแอปฯก็อาจแจ้งเกิดได้อย่างที่ Rovio เจ้าของเกม Angry Birds โด่งดังเป็นพลุแตกในขณะนี้
ในภาพรวม IHS iSupply คาดว่าปีหน้า (2012) ธุรกิจโมบายล์แอปฯจะมีมูลค่าเกิน 5,600 ล้านเหรียญ ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 6,900 ล้านเหรียญในปี 2013
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ลุ้นลูกผสมอีบุ๊ก-แท็บเล็ตใหม่แจ้งเกิดแข่ง iPad
ความเคลื่อนไหวเรื่องแผนการคลอดลูกผสมอีบุ๊กและแท็บเล็ตนี้ได้รับการยืนยันจากบาร์นสแอนโนเบิลเมื่อวันพุธที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยบริษัทแถลงต่อนักวิเคราะห์และนักลงทุนในทิศทางที่สอดคล้องกับข้อมูลซึ่งทำการยื่นต่อคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ Securities and Exchange Commission หรือ SEC อย่างไรก็ตาม บาร์นสแอนด์โนเบิลปฏิเสธที่จะยืนยันกำหนดการเปิดตัว "24 พ.ค." ซึ่งบริษัทระบุในเอกสารแจ้งต่อ SEC ว่าจะจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์อีรีดเดอร์ใหม่ที่นิวยอร์กซิตี้
สิ่งที่สะท้อนว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อเรื่องนี้เต็มที่คือมูลค่าหุ้นของบาร์นสแอนด์โนเบิลที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 14.3% ในช่วงวันพุธที่ผ่านมา ก่อนจะปิดที่ 12.03 เหรียญสหรัฐ
นี่คือความเคลื่อนไหวล่าสุดในวงการเครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีแนวทางจุดยืนต่างจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตมาโดยตลอด ที่ผ่านมา เครื่องอ่านอีบุ๊กเน้นจุดขายเรื่องการใช้หน้าจออีอิงค์หรือหมึกอิเล็กทรอนิกส์ที่ประหยัดพลังงานเพราะไม่ต้องใช้ไฟเลี้ยงเมื่อแสดงหน้าจอเดิมค้างไว้ แถมมีแสงสะท้อนจากหน้าจอในระดับต่ำที่ถนอมสายตาเหมาะแก่การอ่านหนังสือมากกว่า แต่เพราะความต้องการด้านมัลติมีเดียของผู้บริโภค ทำให้ผู้สร้างเครื่องอ่านอีบุ๊กจำนวนไม่น้อยพยายามพัฒนาความสามารถของเครื่องอ่านอีบุ๊กให้รองรับเกมและการแสดงผลอื่นๆที่มีในแท็บเล็ตมากขึ้น
จนล่าสุดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา บาร์นสแอนด์โนเบิลประกาศอัปเดทซอฟต์แวร์ในเครื่องอ่านอีบุ๊กหน้าจอสี Nook Color โดยดึง Android 2.2 Froyo มาเพิ่มคุณสมบัติใหม่ให้ Nook Color สามารถเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่าเครื่องอ่านอีบุ๊กแบรนด์อื่น ทำให้ขณะนี้ Nook Color กลายเป็นเครื่องอ่านอีบุ๊กที่มีหน้าจอสัมผัส สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันทั้งที่ฟรีและต้องจ่ายค่าบริการ ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับเกมยอดฮิตอย่าง Angry Birds, อีเมล รวมถึงการเล่นไฟล์วิดีโอ Flash
การอัปเดทซอฟต์แวร์ครั้งนั้นทำให้ Nook Color กลายเป็นแท็บเล็ตราคาประหยัดที่สามารถตีตลาดอเมริกันได้ในราคา 249 เหรียญสหรัฐฯ ต่ำกว่าแท็บเล็ตรายอื่นในตลาดหลายร้อยเหรียญ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะแท็บเล็ตเหล่านี้มีความสามารถมากกว่า Nook Color ทั้งเรื่องการติดกล้องดิจิตอล การมีแอปพลิเคชันที่มากกว่า รวมถึงการใช้หน่วยประมวลผลที่ดีกว่า โดยทั้งหมดนี้มีโอกาสสูงที่จะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือขยายตลาดให้ Nook ในอนาคต
ปัจจุบัน Nook สามารถครองส่วนแบ่ง 1 ใน 4 ของตลาดอีบุ๊ก เป็นอันดับสองรองจาก Kindle ของอเมซอน คาดว่าลูกผสมอีบุ๊ก-แท็บเล็ตจะเป็นที่จับตาของทั้งตลาดอีบุ๊กและตลาดแท็บเล็ตอย่างใกล้ชิด
การอัปเดทซอฟต์แวร์ Nook Color เมื่อเดือนเมษายน ทำให้ผู้ใช้ Nook Color สามารถเล่นเกม Angry Birds ได้
รูปแบบการแสดงผลที่คล้ายกับแท็บเล็ตของ Nook Color ซึ่งเป็นผลจากการอัปเดทซอฟต์แวร์ Android 2.2
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
5 ขั้นตอนและ 2 เงื่อนไขการซื้อ iPad 2 "6 พ.ค. 54"
เว็บไซต์ www.powerbuy.co.th ระบุว่า ขั้นตอนแรกของการซื้อ iPad 2 คือการเข้าคิวเพื่อรับใบจองสินค้าที่หน้า Apple Shop ขั้นที่ 2 คือต้องรอเวลา 11.00 น. จึงจะสามารถเริ่มรับใบจองจากเจ้าหน้าที่ โดยระบุรุ่นที่ต้องการจอง จุดนี้ในเว็บไซต์ระบุว่า ใบจองจะมี Barcode และหมายเลขสติคเกอร์ (Sticker No.) ติดไว้ ซึ่งจำนวน Sticker ในแต่ละรุ่นจะเท่ากับจำนวนสินค้าในรุ่นนั้นพอดี หากรุ่นที่ต้องการหมด ให้เปลี่ยนรุ่นหรือสละสิทธิ์เพื่อรอสินค้าในรอบต่อไป
ขั้นที่ 3 คือชำระเงิน (เจ้าหน้าที่นำไปชำระที่ Cashier เพาเวอร์บายพร้อมกับสินค้า) ต่อมาคือการนำสินค้ามาตรวจรับ พร้อมรับฟังการชี้แจงการใช้งานอย่างย่อ และขั้นที่ 5 คือกรอกข้อมูล เพื่อยืนยันการซื้อสินค้าในระบบ Online
ในส่วนเงื่อนไข พาวเวอร์บายระบุว่าจะจำกัดสิทธิ์ 1 คนซื้อได้ 2 เครื่อง และขอสงวนการจำหน่ายสินค้าเพียง 30 คิวต่อวัน ต่อสาขา เงื่อนไขที่ 2 คือหากลูกค้าปฏิเสธการรับสินค้าอันเนื่องมาจากปัญหาเกี่ยวกับตัวเครื่องภายนอก จะดำเนินการคืนเงินให้ลูกค้าโดยไม่มีการเปลี่ยนสินค้า
ในส่วนราคา iPad 2 with WiFi ทั้งสีขาวและดำจะมีราคาเท่ากัน รุ่น 16GB ราคา 15,900 บาท 32GB ราคา 18,900 บาท 64GB ราคา 21,900 บาท โดย iPad 2 with WiFi+3G รุ่น 16GB ราคา 19,900 บาท 32GB ราคา 22,900 บาท 64GB ราคา 25,900 บาท โดย Smart Cover หรือหน้ากากกันรอย iPad 2 ถูกระบุว่าจะจำหน่ายแยกต่างหาก ยังไม่มีการระบุราคาในขณะนี้
แม้ในเว็บไซต์ของไอสตูดิโอจะไม่ระบุรายละเอียดการจำหน่าย แต่เวลาการจำหน่ายนั้นถูกกำหนดไว้ชัดเจนที่ 11.00 น.ตรงกับพาวเวอร์บาย ซึ่งคาดว่าจะเป็นเวลาที่ iPad 2 เครื่องแรกในประเทศไทยจะถูกส่งมอบ
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงจาก iPad มาเป็น iPad 2 เด่นชัดที่สุดคือ ขนาดและความบาง โดย iPad 2 มีขนาดบาง 8.8 มิลลิเมตร จากรุ่นแรกที่หนา 13 มิลลิเมตร น้ำหนักเบากว่า มีให้เลือก 2 สีคือขาวและดำ ในขณะที่ไอแพดรุ่นแรกจะมีสีเดียวคือดำ ส่วนขนาดหน้าจอจะยังคงเท่าเดิมคือ 9.7 นิ้วที่ความละเอียด 1,024x768 พิกเซล พร้อมกล้องคุณภาพ VGA ด้านหน้า แต่กล้องถ่ายภาพด้านหลังจะสามารถถ่ายภาพความละเอียดอยู่ที่ 7 แสนพิกเซล (690x720 พิกเซล) และสามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 720p (1,280x720 พิกเซล) ที่ความเร็วเฟรมเรท 30 เฟรมต่อวินาที โดยกล้องทั้งสองตัวมีระบบ Auto Focus เรียบร้อย ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ iPad 2 เป็นที่หมายตาของสาวกแอปเปิลทั่วโลก
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
EOS 1100D ชูจุดเด่น “โดนใจ”
ที่มา igadgety
ไลก้ากับไอโฟน
ที่มา thairath
-
นาฬิกาข้อมือสุดหรูราคาเป็นล้าน - นาฬิกาข้อมือสุดหรูราคาเป็นล้าน อู้หู...เรือนบอกเวลาสุดหรูราคาเป็นล้าน! นาฬิการาคาเป็นล้าน ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับแบรนด์นาฬิกาชั้นสูง มักจะเป็นคอลเลกชันค...
-
All New Mazda 6 / Atenza อุ่นเครื่องก่อนเจอกันที่ปารีส - All New Mazda 6 / Atenza อุ่นเครื่องก่อนเจอกันที่ปารีส มาสด้าสร้างกระแสความเคลื่อนไหวในตลาดรถยนต์ครอบครัว หรือกลุ่ม D-Segment ระลอกใหม่เพื่อชะลดยอดขายคู่ปร...
-
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีผลตอบแทนติดลบได้หรือไม่ - กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีผลตอบแทนติดลบได้หรือไม่ ในโลกของการออมเงินนั้น นอกจากเราจะสามารถออมเงินด้วยตนเองโดยการนำเงินในส่วนที่เหลือจากการใช้จ่ายประจำวันแล้วนำ...
-
"ตุ๊ก ชนกวนันท์-บ๊วย" รักสะบั้น "หย่า" แยกทางกันแล้ว - "ตุ๊ก ชนกวนันท์-บ๊วย" รักสะบั้น "หย่า" แยกทางกันแล้ว ส่วน "ดู๋-สัญญา" โต้เปล่ามีกิ๊กนางงาม ตัดสินใจไปจดทะเบียนหย่ากันที่เขตสะพานสูงและฝ่ายหญิงขอเลี้ยงดูลูก...
-
22 สัญญาณเตือนภัยของการนอกใจที่พบได้ง่ายที่สุด - 22 สัญญาณเตือนภัยของการนอกใจที่พบได้ง่ายที่สุด สัญญาณของการนอกใจเกิดขึ้นได้ เพราะใช่ว่าเมื่อแต่งงานแล้ว ทุกคู่จะครองเรือนกันได้ตลอดรอดฝั่ง แถมทุกวันนี้โอก...
-
ตำนานนก Angry Birds ทำไม ?ต้องนกโกรธ ? - ตำนานนก Angry Birds ทำไม ?ต้องนกโกรธ ? มีหลายคนรู้แล้ว แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าทำไมเจ้านก Angry Birds จึงต้องเป็นนกโกรธ แล้วโกรธใคร? อะไรทำให้เจ้านก...
-
Will Samsung's Galaxy S III come standard with wireless charging? - Will Samsung's Galaxy S III come standard with wireless charging? Now that phones and tablets are practically as thin as their ports will allow, wireless c...