วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แอปเปิล “ใหญ่กว่า” ไมโครซอฟท์!!

แอปเปิล “ใหญ่กว่า” ไมโครซอฟท์!!
ดีใจได้ไอแพด - ความคืบหน้าล่าสุดของไอแพด (iPad) แท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสรุ่นใหม่จากแอปเปิลคือการเริ่มวางจำหน่ายในญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี สวิสเซอร์แลนด์ สเปน อังกฤษ และแคนาดา เมื่อวันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในภาพคือ คาซุกิ คิมุระ (Kazuki Miura) ชาวญี่ปุ่นที่สามารถเข้าคิวซื้อไอแพดจากโอเปอเรเตอร์ตัวแทนจำหน่ายไอแพดอย่าง Softbank ได้เป็นคนแรก ท่ามกลางชาวญี่ปุ่นกว่า 1,200 คนที่ไปเข้าคิวรอซื้อไอแพดในร้านย่านกินซ่าก่อนเวลาจำหน่ายเครื่อง 8 โมงเช้า

ในที่สุด แอปเปิลก็ทำให้บัลลังก์ความยิ่งใหญ่ไมโครซอฟท์ ถึงคราวสั่นสะเทือน เพราะเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา มูลค่าหุ้นของแอปเปิลพุ่งทะยานเกินหน้าไมโครซอฟท์ได้แล้วเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี มูลค่าตลาดที่เพิ่มขึ้นทำให้แอปเปิลกลายเป็นบริษัทไอทีที่ใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนี้

วันพุธที่ 26 พฤษภาคม 2553 คือวันที่โลกต้องจารึกความร้อนแรงของตลาดหุ้นแนสแดค (Nasdaq) เพราะหลังสิ้นสุดเวลาการซื้อขาย แอปเปิลสามารถทำสถิติมูลค่าการซื้อขายหุ้นสูงกว่าแชมป์เก่าอย่างไมโครซอฟท์ จนทำให้แอปเปิลกลายเป็นบริษัทกลุ่มเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกได้สำเร็จ ทั้งที่แอปเปิลเคยมีอาการร่อแร่จนถูกมองว่าอาจจะไปไม่รอดในอุตสาหกรรมไอทีช่วงปี 90

ความสำเร็จของแอปเปิลนั้น เริ่มที่การดีดตัวของมูลค่าหุ้นสูงถึง 2.8% ทำให้แอปเปิลมีมูลค่าตลาดเบ็ดเสร็จ 229,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนจะชะลอลงต่ำ 0.4% ที่ 244.11 เหรียญต่อหุ้นในช่วงปิดตลาด ทำให้แอปเปิลมีมูลค่าตลาดราว 222,000 ล้านเหรียญ (ราว 7.548 ล้านล้านบาท) สูงกว่าไมโครซอฟท์ที่มูลค่าหุ้นต่ำลง 4% ซึ่งถือเป็นสัดส่วนการตกต่ำที่สุดในรอบ 7 เดือน ทำให้มูลค่าตลาดของไมโครซอฟท์อยู่ที่ 219,200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 7.453 ล้านล้านบาท)

ข้อมูลจากสำนักข่าวรอยเตอร์ Thomson Reuters Datastream ระบุว่า มูลค่าหุ้นของแอปเปิลในวันนี้นั้นสูงขึ้นกว่ามูลค่าหุ้นของแอปเปิลเมื่อ 10 ปีที่แล้วถึง 10 เท่าตัว โดยครั้งหลังสุดที่แอปเปิลสามารถมีมูลค่าตลาดที่สูงกว่าไมโครซอฟท์คือวันที่ 19 ธันวาคม ปี 1989 หรือเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว

แน่นอนว่า เหตุผลสำคัญของความสำเร็จในวันนี้คือความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อสินค้ามีสไตล์ ใช้งานง่าย และเป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ดาวรุ่งอย่างไอพ็อด (iPod) ไอโฟน (iPhone) คอมพิวเตอร์แมคอินทอช (Mac) ไอแพด (iPad) และอีกนานาสินค้าและบริการที่แอปเปิลสร้างสรรค์ได้ถูกอกถูกใจคนทั่วโลก

ขณะที่ไมโครซอฟท์ซึ่งเป็นเจ้าของระบบปฏิบัติการในคอมพิวเตอร์มากกว่า 90% ทั่วโลกนั้นยังไม่สามารถคว่ำสถิติความร้อนแรงที่ตัวเองเคยทำไว้ในปี 90 ได้สำเร็จ ทำให้มูลค่าหุ้นของไมโครซอฟท์ในวันนี้ มีมูลค่าลดลงราว 20% เมื่อเทียบกับ 10 ปีที่แล้ว

นี่ถือเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งที่ยืนยันว่า “ใดๆ นั้นไม่เที่ยง” เนื่องจากที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์นั้นสามารถรักษาตำแหน่งและทิ้งห่างคู่แข่งอย่างแอปเปิลได้ตลอดเวลา เช่นในปี 1997 ซึ่งเป็นปีที่แอปเปิลประกาศเพิ่มทุนบริษัทเพื่อขยายสินค้าของตัวเองให้สามารถรุกตลาดผู้บริโภควงกว้าง ขณะนั้นมูลค่าหุ้นของไมโครซอฟท์นั้นสูงกว่าหุ้นของแอปเปิลมากกว่า 5 เท่าตัว

อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์ยังสามารถนำหน้าแอปเปิลในแง่ผลประกอบการบริษัท โดยเฉพาะในแง่ยอดขายสินค้า ซึ่งไตรมาสแรกของปีนี้ไมโครซอฟท์ประกาศรายรับรวมที่ 14,500 ล้านเหรียญ (ราว 493,000 ล้านบาท) มากกว่าแอปเปิล ที่ประกาศยอดรายได้ 13,500 ล้านเหรียญ (ราว 459,000 ล้านบาท)

นักวิเคราะห์นั้นมองว่า ความร้อนแรงของแอปเปิลที่เหนือกว่าไมโครซอฟท์นั้นมีเหตุมาจากวิสัยทัศน์และการดำเนินงานของแอปเปิล ที่ผ่านมา แอปเปิลมองหาโอกาสเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดตลอดเวลา และยังหาช่องทางในการสร้างกำไรที่สูง ตรงกันข้ามกับไมโครซอฟท์ที่สถานการณ์บังคับให้ต้องพยายามรักษาฐานตลาดที่ตัวเองมีอยู่ ทำให้รูปการณ์ดูด้อยกว่าแอปเปิลที่พยายามสร้างสรรค์ตลาดใหม่อย่างมีศักยภาพ

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของไมโครซอฟท์ในขณะนี้ คือ การประกาศแผนเปิดตัวซอฟต์แวร์สำหรับโทรศัพท์มือถือใหม่ในปลายปี 2010 รายงานไม่ระบุถึงแผนที่ชัดเจน ซึ่งถือเป็นการประกาศครั้งแรกหลังจากไมโครซอฟท์ลงมือปรับโครงสร้างทีมดูแลผลิตภัณฑ์สินค้าคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์และเกมหรือ Entertainment & Devices Division อย่างจริงจัง โดยการเปลี่ยนตัวหัวหน้าทีมทำให้ทุกฝ่ายเชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญออกมาจากชายคาไมโครซอฟท์อย่างแน่นอนในอนาคต

ปัจจุบัน บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงิน Standard & Poor จัดให้แอปเปิลเป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือมากเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศสหรัฐอเมริกา (ดัชนีวัดจากมูลค่าตลาด) ตามหลังเพียงบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานอย่างเอ็กซอน โมบิล (Exxon Mobil Corp.) ซึ่งเป็นบริษัทอันดับ 1 ในทำเนียบ 500 บริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ

Company Related Link :
Apple
Microsoft

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

sahasachai@gmail.com

ฟรีบริการเก็บสถิติเว็บไซด์ FlashSanook แฟลชเกมสนุกของคนออนไลน์