วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554

วงการโทรคมนาคมปี'54 คึกคัก ประเดิม 3 จีทีโอทีทั่วประเทศ-เอชเอสพีเอ

หลังกระบวนการประมูลใบอนุญาต 3จี ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ต้องยุติลงตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 23 ก.ย.2553 ที่มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามประกาศ กทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อการประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไอเอ็มที ย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์โดยให้ กทช. ระงับการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อการประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไอเอ็มที ย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์ และการดำเนินการต่อไปตามประกาศดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าคดีจะถึงที่สุดหรือศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
เวลานั้นความหวังที่จะได้ใช้เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 จีทั่วประเทศเป็นเรื่องไกลเกินเอื้อม กระทั่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ขยายโครงข่าย 3จีทั่วประเทศภายใต้งบดำเนินงาน 19,980 ล้านบาท แบ่งเป็นการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้าง 17,440 ล้านบาท อัพเกรดโครงข่ายเดิมของบริษัท เอซีที โมบายในระบบ 2 จีเป็น 3 จีราว 2,000 ล้านบาท และงบสำรอง 540 ล้านบาท

กระบวนการประกวดราคาโครงการจัดสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 จี ทีโอที ทั่วประเทศ มูลค่าโครงการ 17,440 ล้านบาท คืบหน้าอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดขายซองประมูลในวันที่ 14 ธ.ค. 2553 และรับยื่นซองพร้อมเอกสารเพื่อเข้าร่วมประมูลในวันที่ 10 ม.ค. 2554 กระทั่งประกาศรายชื่อผู้มีคุณสมบัติผ่านเข้าร่วมประมูลในวันที่ 18 ม.ค. 2554

แม้ระหว่างกระบวนการจะมีผู้ที่ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติให้เข้าร่วมประมูลยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดเพื่อขอให้ระงับการประมูลโครงการ 3จีทีโอทีออกไปก่อน ทว่าหนึ่งวันก่อนประมูลศาลได้มีคำสั่งยกคำขอกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนพิจารณาคดีของผู้ฟ้องคดี ทำให้ทีโอทีสามารถจัดประกวดราคาโครงการจัดสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 จี ทีโอที ทั่วประเทศได้

โดยการประกวดราคาโครงการจัดสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 จี ทีโอที ทั่วประเทศ ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (อี-อ๊อคชั่น) ในวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา คอนซอร์เตียมเอสแอล ประกอบด้วยบริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) บริษัท หัวเว่ย จำกัด บริษัท โนเกีย-ซีเมนส์ จำกัด ใช้รหัสประมูล GGG222 เสนอราคาต่ำสุดที่ 16,290 ล้านบาท ลดลงจากราคากลาง 1,150 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6.59% ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้เป็นการเสนอให้รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่เซ็นอนุมัติ โดยตามกำหนดการจะลงนามในสัญญาว่าจ้างได้ประมาณกลางเดือนก.พ. และในเดือนเม.ย.นี้จะสามรถเปิดให้บริการ 3 จีทีโอทีในบางพื้นที่เพิ่มเติมได้ พร้อมเปิดบริการครอบคลุมทั่วประเทศใน 1 ปี

ภายหลังการประกวดราคาเสร็จสิ้น นายนพณัฏฐ์ หุตะเจริญ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที กล่าวว่า ราคาประมูลที่ได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งทุกขั้นตอนดำเนินงานด้วยความโปร่งใส ซึ่งราคาที่ได้ในวันนี้ตามขั้นตอนยังมีการต่อรองราคากันอีกครั้ง

ความหวังที่จะได้ใช้เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จีทั่วประเทศของคนไทยกลับมาอีกครั้ง หากการดำเนินงานโครงการนี้ไม่มีเหตุให้สะดุดล้มไปก่อน

ขณะที่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ก็สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการโทรคมนาคมไม่น้อยไปกว่าการประมูลโครงการ 3จีของทีโอที เมื่อนายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท เซ็นสัญญาให้ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เช่าใช้โครงข่ายเพื่อให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นเวลา 15 ปี ภายหลังจากบมจ.ทรูฯ เข้าซื้อกิจการของกลุ่มบริษัท ฮัทช์สัน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนระบบซีดีเอ็มเอภายใต้แบรนด์ ฮัทช์ ใน 25 จังหวัด ด้วยมูลค่า 6,300 ล้านบาท โดยการลงนามในสัญญาดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา

ตามข้อตกลงในสัญญาซึ่ง กสท ได้ลงนามกับ ทรู มีด้วยกัน 2 ส่วน ประกอบด้วย 1. สัญญาโอนถ่ายลูกค้าที่ใช้ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ซีดีเอ็มเอ แบ่งเป็น สัญญาดูแลลูกค้าเพื่อถ่ายโอนไปยังเทคโนโลยีเอชเอสพีเอ และสัญญาที่ดูแลโครงข่ายเดิมในระบบซีดีเอ็มเอ ซึ่งเป็นสัญญาที่มีอายุ 2 ปี และ 2. สัญญาให้ดำเนินการธุรกิจระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 จีแบบเอชเอสพีเอ แบ่งเป็นสัญญาเช่าใช้อุปกรณ์บางส่วนในการใช้บริการเครือข่ายโทร
ศัพท์เคลื่อนที่ระบบเอชเอสพีเอ และสัญญาขายส่ง-ขายปลีก ซึ่งเป็นสัญญาที่มีอายุ 15 ปี

ดังนั้นในช่วงครึ่งปีแรกของวงการโทรคมนาคมจะมีการลงทุนเพื่อขยายโครงข่ายทั้งจากโครงการ 3จีทีโอที และการอัพเกรดเทคโนโลยีบนคลื่นความถี่เดิมเพื่อให้บริการ 3 จี ด้วยเทคโนโลยีเอชเอสพีเอ

ส่งผลให้เพียงแค่เดือนแรกของปี 2554 วงการโทรคมนาคมก็ก้าวเข้าสู่เทคโนโลยี 3 จีใน 2 รูปแบบ สร้างความคึกคักให้กับวงการสื่อสารโทรคมนาคมไทยอย่างมาก.
ที่มา เดลินิวส์

วันเสาร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2554

Sony Ericsson PlayStation Phone มีพรีวิวออกมาแล้ว

หลังจากมีภาพออกมาให้เห็นพร้อมกับรายละเอียดเบื้องต้นกันบ้างแล้ว สำหรับ Sony Ericsson Xperia Play หรือ PlayStation Phone คราวนี้มาพบกับพรีวิวตัวเครื่องกันบ้าง ก่อนจะนำไปเปิดตัวในงาน MWC 2011 ที่จะจัดขึ้นเร็วๆ นี้
PlayStation Phone ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 2.3 Gingerbread หน่วยประมวลผล Qualcomm MSM8655 ความเร็ว 1 GHz, RAM 512MB หน้าจอแสดงผล ระบบสัมผัสมัลติทัช ความละเอียด 854 x 480 พิกเซล ขนาด 4 นิ้ว พร้อมแป้นปุ่มกดควบุคมเล่นเกมส์คล้าย PSP Go แบบสไลด์ทางด้านข้าง
PlayStation Phone ติดกล้องถ่ายรูปด้านหลัง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และมีกล้องหน้า มีไมโครโฟนเสียง 2 ตัวหน้า-หลัง บันทึกวีดีโอความละเอียด 800 x 480 พิกเซล ซึ่งจะได้รับการปรับปรุงคุณภาพไปที่ความละเอียดระดับ HD ก่อนวางจำหน่าย การเชื่อมต่อผ่านช่องเสียบ Micro USB, ชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร เพิ่มเติมหน่วยความจำด้วยการ์ด MicroSD แบตเตอรี่ขนาดความจุ 1500 mAh
Xperia Play: third party PSX and GBA emulators

Sony Ericsson PlayStation Phone มีพรีวิวออกมาแล้ว
ที่มา siamphone

พานาโซนิคใช้กล้องตระกูล G หวังดันตลาดโต

พานาโซนิครุกตลาดกล้องดิจิตอลรับพุทธศักราชใหม่ เปิดตัวกล้องมิรเรอร์เลสตอบรับแนวคิด "New Generation System Camera" ด้วย GF2 กล้องที่เล็ก เบาที่สุดในโลก และ GH2 กล้องที่มีออโต้ โฟกัส สปีดเร็วที่สุดในโลก ตั้งเป้าปี 54 กล้องตระกูล G จะช่วยดันตลาดกล้อง DSLR ให้โตติดอันดับ 1 ใน 3

ฮิโรทากะ มุราคามิ ซีอีโอกลุ่มบริษัทพานาโซนิค ประเทศไทยกล่าวว่าในปี 2554 พานาโซนิคตั้งเป้าว่าจะขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของกลุ่มกล้อง DSLR ในประเทศไทย และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 8% จากเดิมที่ปี 2553 เคยทำไว้ 5%

ในต้นปีนี้เราได้มีการเปิดตัวกล้องดิจิตอลตระกูล G Series ซึ่งถือเป็นเรือธงของบริษัท ที่จะช่วยผลักดันตลาดรวมกล้องดิจิตอลให้มีการเติบโตสูงขึ้น โดยคาดการณ์ว่าในช่วงเดือนแรกของการเปิดวางจำหน่าย จะสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 1,000 ตัว

โดยกล้องที่นำมาเปิดตัวในวันนี้เป็นกล้องตระกูลมิรเรอร์เลส (Micro 4/3) ทั้งหมด 2 รุ่นคือ GF2 ที่ทำมาเพื่อต่อยอดความสำเร็จของ GF1 กล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ที่เล็กและเบาที่สุดในโลก (112.8x67.8x32.8มม. หนัก 265กรัม) ใช้เซ็นเซอร์ Live Mos ความละเอียด 12.1ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพนิ่งระบบ 3มิติ, บันทึกวิดีโอความละเอียด Full HD 1920x1080, 50i และใช้ชัตเตอร์ระบบสัมผัส บนหน้าจอขนาด 3 นิ้ว อีกรุ่นหนึ่งคือ GH2 กล้อง Live Speed AF ที่เร็วสุดในโลกเพียง 0.1วินาที ใช้เซ็นเซอร์ความละเอียด 18.31 พิกเซล ค่าความไวแสงสูงสุด 12800 หน้าจอระบบสัมผัสที่ปรับหมุนได้ และการบันทึกวิดีโอความละเอียด Full HD 1920x1080, 50i

กล้องพานาโซนิค GF2 วางจำหน่ายแล้วในราคา 25,990 บาท พร้อม 14mm./F2.5 ASPH และ GH2 ราคา 59,990 บาท (เฉพาะบอดี้)

"ปัจจุบันตลาดกล้องตระกูลมิรเรอร์เลสในประเทศไทยมีการแข่งขันกันสูง บริษัทจึงต้องพยายามสื่อสารกับผู้บริโภคให้เห็นถึงข้อดีของกล้องตระกูลนี้ อีกทั้งยังได้มีการทำโฆษณา ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้น มีการนำผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้กล้องมาถ่ายทอดประสบการณ์เพื่อให้ผู้ใช้ได้เห็นภาพโดยตรง นอกจากนี้ยังจะเพิ่มในส่วนของกิจกรรมส่งเสริมการขาย และจำนวนสินค้าในร้านค้าตัวแทนจำหน่าย"

ในส่วนของตลาดรวมกล้องดิจิตอลในเมืองไทย บริษัทตั้งเป้าจะโตขึ้นอีก 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยในปี 2553 ตลาดรวมกล้องดิจิตอลในเมืองไทยอยู่ที่ 1.2 ล้านตัว มูลค่ารวมกว่า 8,200 ล้านบาท คาดการณ์ว่าในปี 2554 จะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.35 ล้านตัว มูลค่ารวมกว่า 9,500ล้านบาท

นอกจากนี้ในครึ่งปีแรกของปี 54 บริษัทยังมีแผนเปิดตัวกล้องดิจิตอลเอสแอลอาร์ 2 รุ่น, คอมแพกต์ 8-9 รุ่น และกล้องวิดีโอ 7 รุ่น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ในทุกๆ เซกเมนต์ รวมถึงเลนส์ถ่ายภาพอีก 8 รุ่น เพื่อรองรับการใช้งานกล้องตระกูล G Series

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554

Acer ICONIA - ICONIA Tab เตรียมพบกันในไทยเร็วๆนี้

Acer ICONIA - ICONIA Tab เตรียมพบกันในไทยเร็วๆนี้ เอเซอร์ เตรียมไลน์สินค้ารุกตลาดแท็บเล็ต พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมโน้ตบุ๊กทัชสกรีน 2 หน้าจอ Acer ICONIA และสินค้าตระกูลแท็บเล็ตที่เอเซอร์พร้อมส่งลงตลาดมีทั้งที่เป็นระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 และระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ในขนาดหน้าจอ 7-10 นิ้ว

ซึ่งทางเอเซอร์ระบุว่า แท็บเล็ต ICONIA Tab ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 ที่สามารถเชื่อมต่อการใช้งานกับคีย์บอร์ด จะเริ่มทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการภายในเดือนมีนาคมนี้ ขณะที่มีข้อมูลจากทางผู้จัดงานไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซ์โป ที่จะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ว่าจะมีการนำ Acer ICONIA แบบ 2 หน้าจอมาวางจำหน่าย

สำหรับราคา และวันวางจำหน่ายแน่นอน ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ เพราะผลิตภัณฑ์ที่เอเซอร์นำมาโชว์ในขณะนี้ ยังเป็นแบบโปรโตไทป์ ทำให้เครื่องที่วางจำหน่ายจริงอาจมีการปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสมกับการใช้งานมากขึ้น

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

เบราว์เซอร์ใหม่ติดอาวุธ"ห้ามตามรอย"

โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์พร้อมใจกันติดเครื่องมือเพื่อให้ชาวเน็ตป้องกันตัวเองจากนักโฆษณาออนไลน์ ที่ใช้วิธีลักลอบสอดแนม สะสม และติดตามข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ต ก่อนจะเสนอโฆษณาเพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่เลือกไว้ เป็นไปตามนโยบายป้องกันการตามรอยของชาวออนไลน์ที่ทางการสหรัฐฯประกาศไว้เมื่อปลายปี 2010 ที่ผ่านมา

เว็บเบราว์เซอร์คือโปรแกรมเปิดเว็บไซต์ที่ชาวออนไลน์ทุกคนต้องใช้เป็นประตูเพื่อเข้าสู่โลกออนไลน์ โดยอเล็กซ์ ฟาวเลอร์ ประธานฝ่ายเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยของมอสซิลา (Mozilla) ผู้สร้างไฟร์ฟ็อกซ์ (Firefox) เบราว์เซอร์ยอดนิยมอันดับ 2 ของโลก ให้ข้อมูลว่าเครื่องมือป้องกันการตามรอยหรือ "Do Not Track" จะเป็นส่วนแรกของนานาคุณสมบัติเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของชาวออนไลน์ที่ไฟร์ฟ็อกซ์จะพัฒนาเพิ่มเติมในอนาคต แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเครื่องมือป้องกันการตามรอยของไฟร์ฟ็อกซ์จะเปิดใช้งานเต็มตัวเมื่อใดในขณะนี้ แม้ข่าวลือจะระบุว่าไฟร์ฟ็อกซ์จะดำเนินการเสร็จในครึ่งแรกของปี 2011

สำหรับกูเกิลโครม (Google Chrome) ผู้ใช้เบราว์เซอร์จากกูเกิลสามารถดาวน์โหลดคุณสมบัติเพิ่มเติมเพื่อปิดกั้นนักโฆษณาได้แล้วในขณะนี้ แต่ยังจำกัดเฉพาะเครือข่ายโฆษณาออนไลน์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ตั้งค่าส่วนตัวเพื่อกำหนดโฆษณาออนไลน์ที่ต้องการได้เท่านั้น เช่น เครือข่ายของเอโอแอล (AOL), ยาฮู (Yahoo) และกูเกิล (Google) ซึ่งคาดว่าจะมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

ไม่เพียงเบราว์เซอร์น้องใหม่ แต่พี่ใหญ่อย่างไออี (Internet Explorer) เบราว์เซอร์จากไมโครซอฟท์ซึ่งชาวออนไลน์ทั่วโลกใช้งานมากที่สุดในขณะนี้ ก็ถูกยืนยันว่าจะมีเครื่องมือป้องกันการตามรอยมาให้บริการในเวอร์ชันหน้า (IE9) ด้วย โดยจุดต่างคือเครื่องมือในไฟร์ฟ็อกซ์และโครมจะทำงานโดยอัตโนมัติ แต่ในไออี 9 ชาวออนไลน์จะสามารถกำหนดชื่อหรือค้นหาเว็บไซต์ที่ต้องการปิดกั้นได้เอง

การติดเครื่องมือป้องกันการตามรอยในเว็บเบราว์เซอร์เหล่านี้เกิดขึ้นเพราะนโยบาย "Do Not Track" ที่คณะกรรมการการค้าสหรัฐฯ หรือ FTC เสนอไว้ จุดประสงค์คือเพื่อหาทางออกให้ผู้บริโภคอเมริกันสามารถปกป้องตัวเองให้พ้นจากการตามรอย ซึ่งนักการตลาดส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักใช้การรวบรวมข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ต ทั้งข้อมูลประวัติการเข้าเว็บไซต์ การคลิกลิงก์ คำที่ค้นหาบ่อย และการซื้อสินค้าออนไลน์ มาเป็นข้อมูลในการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ก่อนจะนำเสนอโฆษณาออนไลน์โดยไม่สอบถามผู้บริโภคว่าต้องการหรือไม่

จุดนี้ทำให้กรมพาณิชย์สหรัฐฯออกมาประกาศเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้มีการกำหนดแนวทางดำเนินการที่ชัดเจนเพื่อให้นักโฆษณาออนไลน์ชี้แจงแก่ผู้บริโภคว่าได้ลงมือเก็บข้อมูลการใช้งานใดไปและมีแผนจะนำไปใช้งานอะไร โดยควรเปิดทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถปิดการเก็บข้อมูลได้ รวมถึงการเลือกไม่อนุญาตให้เก็บข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดได้ ซึ่งบริษัทที่ต้องการเก็บข้อมูล ก็จะต้องดำเนินการอย่างปลอดภัยด้วย

สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นการยกระดับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต แต่ก็เป็นความหวาดหวั่นของวงการโฆษณาออนไลน์ ซึ่งคาดว่าจะสูญเสียรายได้มหาศาลจากการปิดกั้นที่เกิดขึ้น
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554

โมโตโรล่า คัมแบค! พร้อม 3 แอนดรอยด์โฟน

โมโตโรล่า ร่อนจดหมายเชิญนักข่าวเข้าร่วมงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด หลังซุ่มเก็บตัวนานกว่า 1 ปี พร้อมส่ง 3 สมาร์ทโฟนลงตลาดครั้งแรกรับการกลับมาในงานไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซ์โป 2011 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-6 กุมภาพันธ์ศกนี้
เนื้อความในจดหมายระบุว่า "Are You Ready for a Lift-proof Smartphone โมโตโรล่า ร่วมกับเอสไอเอส และคูล ขอเชิญร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่เหนือใครกับสมาร์ทโฟนที่คุณไม่เคยพบเห็นมาก่อน" โดยงานแถลงข่าวจะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 31 มกราคม 2554

การส่งจดหมายเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมงานแถลงข่าวในครั้งนี้ ถือเป็นการประกาศย้ำชัดว่าโมโตโรล่าจะกลับมาทำตลาดในประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากเงียบหายไปตั้งแต่ปลายปี 2552 ซึ่งในครั้งนี้โมโตโรล่าจะจับมือกับตัวแทนจำหน่ายชั้นนำอย่างเอสไอเอส และคูล ดิสทิบิวชัน เปิดตัวสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 2.1 (Eclair) 3 รุ่นด้วยกันคือ "Defy" ที่มาพร้อมหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 3.7 นิ้ว ใช้ซีพียู OMAP 3610 ความเร็ว 800MHz กล้อง 5 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช รวมถึงการเชื่อมต่อ 3G HSDPA 7.2 Mbps, ไวไฟ, บลูทูธ และ A-GPS

Motorola Charm ที่มาพร้อมหน้าจอแบบสัมผัส และแป้นพิมพ์แบบ QWERTY กล้องดิจิตอล 3 ล้านพิกเซล รองรับการเชื่อมต่อ 3G-HSDPA 3.6 Mbps, ไวไฟ, บลูทูธ และ A-GPS และ Motorola QUENCH XT502 ที่ใช้ซีพียู Qualcomm ความเร็ว 600 MHz มีหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 3.2 นิ้ว กล้อง 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช รองรับการเชื่อมต่อ HSDPA 7.2 Mbps, ไวไฟ, บลูทูธ และ A-GPS

โดยก่อนหน้านี้ช่วงเดือนกันยายน 2552 โมโตโรล่าได้จับมือร่วมกับเจมาร์ทในการทำตลาด MotoAURA โทรศัพท์มือถือจอแสดงผลรูปวงกลมหรูหรา ครอบแซฟไฟร์คริสตัลเลนส์ 62 กะรัต, MotoSurf A3100 สมาร์ทโฟน 3G ระบบปฏิบัติการวินโดวส์โมบายล์ และ MotoZine ZN5 โทรศัพท์พร้อมซอฟต์แวร์ถ่ายและแบ่งปันภาพจาก Kodak
Motorola Defy
Motorola QUENCH XT502
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

iPad 2 รออีกนิด 9 กพ. มาแน่หรือ? พร้อมกล้องหน้าจริงหรือไม่?

ได้เห็นข่าวเรื่อง iPad 2 แล้วว่ายังไงซะก็มีกล้องถ่ายรูปด้านหน้าแน่นอน อันนี้พูดกันมาหลายรอบมากมาย ซึ่งใน iPad 2 โดยจาก iOS 4.3 Beta 2 ตัวล่าสุดที่ Apple เพิ่งปล่อยออกมานั้น ก็มีไฟล์ homeScreenOverlayFaceTime~ipad.png ซึ่งจะเป็น icon menu อยู่ใน Homescreen ของ iPad2 แน่นอนว่ามี icon facetime photobooth และ Camera เพิ่มเข้ามา

ซึ่ง icon ทั้ง 3 ตัวก็เป็นตัวยืนยันได้อย่างดีว่า iPad2 นั้นมีกล้องด้านหน้าและกล้องหลัง แต่จะอยู่ใน iOS 4.3 Beta 2 เพราะตอนที่ยังเป็น iOS 4.2 นั้นยังไม่มี icon นี้เลย
และจากข่าวล่าสุดเรื่องวันเปิดตัวที่ร่ำๆ กันว่าจะเปิดตัววันที่ 27 เพราะก่อนหน้าที่ภาพของ icon App Calendar ใน iPad2 นั้นเป็นเลข 27 ซึ่งก็หมายถึงว่าวันเปิดตัวนั้นเป็นวันที่ 27 มกราคมนี้ แต่ล่าสุดได้มีการอัพเดทเลขที่อยู่ใน icon Carlendar มาเป็นเลข 9 แล้ว ซึ่งจะเห็นได้ใน iPad รุ่นปัจจุบันเหมือนกันในเมนู Settings > Brightness & Wallpaper ซึ่งก็ทำให้ต้องคิดกันต่อแล้ว่าวันที่ จะเป็นการเปิดตัวจริงๆ หรือไม่คอยติดตามกันต่อไป (ส่วนตัวเลข 27 ที่เราเห็นนั้นเป็นภาพที่มาจากเว็บไซต์ของ Apple โดยเป็นรูป iPad ในหน้า http://www.apple.com/ipad/gallery/)
ที่มา sanook.com

OLYMPUS SP-800UZ ความละเอียดสูง ทางยาวเลนส์ครอบคลุม

กล้องถ่ายรูปเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะนอกจากจะซื้อหาง่ายแล้ว ยังเก็บไว้ใช้งานแปรเปลี่ยนเป็นเงินมาต่อยอดได้อีกด้วย แต่ไหนๆ จะซื้อแล้วต้องเลือกของดีๆ กันหน่อย หยิบมาแนะนำหนึ่งรุ่น นี่เลย Olympus SP-800UZ ที่พกพาความละเอียด 14 ล้านพิกเซลติดตัวมาด้วย ภายใต้การออกแบบคลาสสิกร่วมสมัย ดูแข็งแรงทนทาน ส่วนเว้าโค้งรองรับสรีระของมือขวาให้จับถนัดกระชับมือ แม้ถ่ายด้วยมือเดียว

เลนส์กำลังขยายสูงครอบคลุมระยะการถ่ายภาพที่กว้างอย่างเหลือเชื่อ ด้วยระยะความยาวโฟกัสตั้งแต่ 28 มม. ที่มุมกว้าง ไปจนถึง 840 มม. ที่ภาพระยะไกล (เทียบเท่าเลนส์ 35 มม.) ซูมออปติคอล 30 เท่า ซูมดิจิตอล 5 เท่า ช่องรับแสง f/2.8-f/5.6 ระยะโฟกัสในโหมดปกติ Wide Angle 10 ซม.-ระยะอนันต์ (Infinity) Telephoto 180 ซม.-ระยะอนันต์ โหมดมาโคร 1-1.8 ซม. และโหมดซูเปอร์มาโคร 1-1.5 ซม. (ล็อกความยาวโฟกัส)

หน้าจอ TFT Color LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 230,000 พิกเซล มุมมองกว้าง 16:9 ช่วยให้การถ่ายภาพในมุมสูงและต่ำสามารถมองเห็นภาพในจอ แสดงเมนูและข้อมูลบนจอได้อย่างชัดเจน

หน่วยประมวลผลใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ CCD ขนาดใหญ่ 1/2.3 นิ้ว ความละเอียดภาพสูงสุด 14 ล้านพิกเซล ให้ภาพคมชัดแม้ต้องการสร้างงานพิมพ์ที่มีขนาดใหญ่ หรือตัด/ขยายบางส่วนของภาพ พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว DUAL IS โดยใช้การถ่ายภาพความไวสูงและกลไกป้องกันภาพสั่นไหวแบบเลื่อน CCD เพื่อชดเชยการเบลอของภาพ

ระบบประมวลผลภาพ TruePic III ที่พัฒนาเพื่อการทำงานของกล้องดิจิตอล SLR สามารถสร้างภาพที่มีความชัดเจนสูงโดยการใช้ข้อมูลพิกเซลทั้งหมดสำหรับแต่ละภาพ เพื่อให้ได้ภาพที่มีคุณภาพสุดยอด สีแม่นยำ โทนสีสมจริง และการประมวลผลความเร็วสูง ทั้งยังสามารถจับภาพได้คมชัดเมื่อตั้งค่า ISO สูงๆ

ให้การถ่ายภาพกลายเป็นเรื่องง่าย ด้วยฟังก์ชันพิเศษ iAUTO จะตรวจจับความแตกต่างของแต่ละประเภทของซีนและตั้งค่าของกล้องโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุดตามสภาพแวดล้อมในแต่ละสถานการณ์ อาทิ Portrait, Landscape, Night+Portrait, Macro, Sports ทำงานรวดเร็วประมวลผลฉับไว ให้คุณสามารถถ่ายภาพได้ในทันทีโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนการตั้งค่าแต่อย่างใด พร้อมระบบ AF Illuminator ช่วยให้โฟกัสวัตถุในที่มืดได้ง่ายขึ้น และฟังก์ชันพิเศษให้สามารถถ่ายภาพพาโนรามาได้โดยการเลื่อนกล้องตามไกด์แบบง่ายๆ
แจ่ม!!!

ไม่ใช่แค่การถ่ายภาพนิ่ง ด้วย CCD ขนาดใหญ่ ทำให้ Olympus SP-800UZ ยังสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวความละเอียดสูงได้ในระดับ Extended HDTV 1280x720 พิกเซล 30 เฟรมต่อนาที ด้วยรูปแบบการบีบอัดภาพเคลื่อนไหว MPEG-4 AVC/H.264 ที่ล้ำสมัย สั่งงานเริ่มหรือหยุดได้ด้วยการสัมผัสเพียงปุ่มเดียว และติดตั้งพอร์ต HDMI เพื่อการแสดงผลภาพและเสียงแบบดิจิตอลสมบูรณ์แบบผ่านโทรทัศน์ระบบ HD สามารถสั่งงานผ่านรีโมทคอนโทรลโทรทัศน์ด้วยฟังก์ชัน HDMI Output Control เยี่ยม!!!

หน่วยความจำตัวเครื่องสูงถึง 2GB จึงสามารถถ่ายโอนภาพที่ชอบจากคอมพิวเตอร์ไปยังกล้องและค้นหาภาพที่ต้องการตามข้อมูลการถ่ายภาพ และแสดงภาพที่ค้นหาได้จากกล้องโดยตรง นอกจากนี้ เมื่อใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ (เอกสิทธิ์เฉพาะ) จะสามารถใช้งานเป็น Net-surfing เพื่อท่องอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย

สเป็กสูง มากความสามารถแบบนี้ ลองเดาดูหน่อยว่าราคาเท่าไหร่...??? ไม่บอกหรอก... เอาเป็นว่าคุณเห็นแล้วจะทึ่ง แล้วรีบซื้อทันที รับรอง!!!

TECH
เซ็นเซอร์รับภาพ CCD 1/2.3 นิ้ว ความละเอียดภาพสูงสุด 14 ล้านพิกเซล เลนส์ทางยาวโฟกัสเทียบเท่าเลนส์ 35 มม. ที่ 28-840 มม. ซูมออปติคอล 30 เท่า ซูมดิจิตอล 5 เท่า ช่องรับแสง f/2.8-f/5.6 ระยะโฟกัสในโหมดปกติ 10 ซม.-ระยะอนันต์ โหมดมาโคร 1-1.8 ซม. โหมดซูเปอร์มาโคร 1- 1.5 ซม. ความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 1/2000 วินาที ความไวแสงสูงสุด ISO 6400 หน่วยความจำตัวเครื่อง 2GB จอ LCD 3 นิ้ว ความละเอียด 230,000 พิกเซล 16:9 ระบบประมวลผลภาพ TruePic III ระบบป้องกันภาพสั่นไหว DUAL IS ฟังก์ชัน iAUTO ระบบ AF Illuminator
LOVE
หน่วยความจำภายในขนาดใหญ่

HATE
มันเยี่ยมจนมองไม่เห็น

WE SAY
ใช้ง่าย ถ่ายภาพแจ่ม แหล่มสุดๆ ย้ำอีกครั้งว่า ราคาถูกมากๆ เมื่อเทียบกับความสามารถของมัน
WWW.OLYMPUSIMAGING-TH.COM
ที่มา http://hitech.sanook.com/olympus-sp-800uz-ความละเอียดสูง-ทางยาวเลนส์ครอบคลุม-931823.html

ลือเพิ่มเติม PSP2 สามารถต่อเข้าระบบ 3G Network ได้

จากข่าวลือเมื่อคราวที่แล้ว ทาง Sony มีกำหนดจะประกาศเปิดตัวเครื่อง PSP2 อย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันแถลงข่าวประจำปีของ Sony ในวันที่ 27 มกราคม 2011 นี้ โดยล่าสุดทางหนังสือพิมพ์ Nikkei ของญี่ปุ่นได้ลงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่อง PSP2 ที่ทางโซนี่จะทำการประกาศเร็วๆนี้ว่า ทางโซนี่ได้ติดต่อขอความร่วมมือไปยังบริษัทให้บริการด้านเครือข่ายโทรศัพท์มือถืออย่าง DoCoMo เพื่อทำสัญญาข้อตกลงในการให้เครื่อง PSP2 สามารถใช้สัญญาณระบบ 3G ได้

การทำให้เครื่อง PSP2 เชื่อมต่อเข้ากับระบบ 3G ได้นั่นก็หมายความว่า ผู้ใช้งานเครื่อง PSP2 สามารถที่จะเชื่อมต่อ PSP2 เข้าสู่ระบบเน็ตเวิร์ค อินเตอร์เน็ต ได้โดยการใช้สัญญาณโทรศัพท์มือถือแบบ 3G แทนนั่นเอง ไม่จำเป็นจะต้องใช้แค่สัญญาณไวร์เลส จากเครื่องเราเตอร์อย่างเดียวแล้ว หรือ Hot-Spot เท่านั้นแล้ว แถมความไวในการเชื่อมอินเตอร์เน็ตด้วยระบบ 3G ก็ยังรวดเร็วไม่แพ้เน็ตเวิร์คปกติอีกด้วย คุณสามารถเชื่อมต่อกับ 3G ในการดาวน์โหลดเกม เพลง ภาพยนตร์ มาลง PSP2 ได้ทุกที่ทุกเวลา เพียงแต่ว่าตอนนี้โซนี่ทำสัญญาระบบ 3G แค่ในญี่ปุ่นเท่านั้น ที่อื่นหมดสิทธิ์ โดยเฉพาะประเทศไทย

ยังมีข้อมูลน่าสนใจของ PSP2 จากหนังสือพิมพ์ Niikei อีกเรื่องหนึ่งก็คือ จอภาพของเครื่อง PSP2 นั้นทางโซนี่อาจจะใช้จอภาพในแบบ OLED ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจอภาพแบบใหม่ ที่มักนิยมใช้กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เพราะราคาแพง ทำให้ผลิตจอใหญ่ๆไม่ได้ ซึ่งข้อดีของจอ OLED ก็คือประหยัดพลังงาน เพราะจอสามารถผลิตแสงได้เอง ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ผลิตแสง แถมความละเอียดสีก็คมชัดด้วย ส่วนเรื่องประสิทธิภาพของ Hardware นั้นทาง Niikei ก็แจ้งว่า โซนี่จะใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพสูงมาใช้กับ PSP2 อย่างแน่นอน แต่ยังไม่เปิดเผยในตอนนี้ รอดูในวันที่ 27 มกราคม 2011 นี้ว่าจะเปิดตัวจริงหรือไม่ แต่ราคาคงไม่ธรรมดาแน่นอน

สรุปข่าวลือ PSP2 ตอนนี้
- รองรับ 3G
- NTT DoCoMo เป้นผู้ให้บริการ 3G ในญี่ปุ่น
- เล่นเกมออนไลน์ได้ผ่านระบบ 3G
- บริการดาวน์โหลดเกม หนังและอื่นๆผ่าน 3G
- ไม่มีระบบโทรศัพท์
- ระบบ Wireless ธรรมดายังมีอยู่
- จอ OLED (ลือว่าจะเป็นแบบ Touch ด้วย)
- จะใช้ processor ที่สร้างภาพได้แบบ Hi-Def
- ราคายังไม่กำหนด
- กำหนดออกปีนี้ 2011
ข้อมูลอ้างอิงและภาพจาก kotaku
ที่มา sanook

วันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2554

Nokia เปิดตัว C5-03 สมาร์ททัชโฟน 3.5G พร้อม WiFi

โนเกียเปิดตัว Nokia C5-03 สมาร์ททัชโฟนมีสไตล์ที่มาพร้อมความสะดวกสบายด้วย Wi-Fi และการเชื่อมต่อสัญญาณมือถือความเร็วสูง 3.5G ในราคาเบา เบา เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย พร้อมสนุกกับแอพพลิเคชั่นหลากหลายสำหรับคนไทย
Nokia C5-03 เป็นอุปกรณ์สื่อสาร 3.5G เครื่องเพรียวบางพร้อมกล้อง 5 ล้านพิกเซล หน้าจอหลักสามารถปรับเปลี่ยนได้ และเชื่อมสู่บัญชีรายชื่อผู้ติดต่อ อีเมล์ และแอพพลิเคชั่นต่างๆ บน Ovi Store ได้อย่างง่ายดาย มาพร้อมหลากหลายแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาขึ้นเพื่อคนไทยไม่ว่าจะเป็น สนุก! โมบาย บริการท่องเว็บไซต์สนุกดอทคอมผ่านมือถือ Spelling Bee โปรแกรมฝึกทักษะการสะกดคำศัพท์ภาษา อังกฤษจากนิตยสารภาษาอังกฤษยอดนิยมของเยาวชน Nation Junior และเกมส์ก้านกล้วย การต่อสู้ของช้าง ก้านกล้วย และงวงแดง ที่สร้างสรรค์จากภาพยนตร์ ก้านกล้วย แอนิเมชั่น 3 มิติชื่อดังของไทย

Nokia C5-03 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟน Symbian ในรูปลักษณ์สวยงามมีสไตล์ ยังได้นำแผนที่พร้อมระบบนำทางด้วยเสียง และ Ovi mail มาให้บริการฟรี โดยแผนที่ Ovi เวอร์ชั่นล่าสุด (ให้บริการในเบื้องต้นผ่าน Nokia Beta Labs) ได้เพิ่มข้อมูลระบบขนส่งสาธารณะ และฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถ check in เพื่อระบุตำแหน่งปัจจุบันบนสังคมออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Ren Ren
มร.ชูมิท คาพูร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า Nokia C5-03 เป็นสมาร์ทโฟนที่มอบคุณประโยชน์ของบริการ Ovi ไม่ว่าจะเป็นเกมส์, อีเมล์, ระบบนำทาง และอื่นๆ อีกมากในราคาเบา เบา ถือเป็นอุปกรณ์สื่อสารระบบสัมผัสดีไซน์สวย ที่ผสมผสานทุกสิ่งอย่างสำหรับวัยรุ่นที่ชื่นชอบความบันเทิง และสังคมออนไลน์ พร้อมเสริมว่า Nokia C5-03 จะพาคุณไปยังสถานที่ใหม่ๆ และให้คุณได้แบ่งปันตำแหน่งปัจจุบันกับเพื่อนๆ ผ่าน Facebook ด้วยระบบ A-GPS และระบบนำทางฟรีตลอดชีพ ทดลองเล่นเกมส์ใหม่ๆ และท่องเว็บด้วยการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือเครือข่าย 3.5G เพลิดเพลินกับเกมส์ และแอพพลิเคชั่นมากมายบน Ovi Store

ผู้ใช้ Nokia C5-03 ยังสามารถตั้งค่า Ovi Mail ซึ่งเป็นอีเมล์ฟรีจากโนเกียได้อย่างง่ายดาย รวมถึงอีเมล์อื่นๆ เช่น Yahoo Mail, Windows Live Hotmail เป็นต้น

Nokia C5-03 จะวางจำหน่ายในเดือนธันวาคมนี้ ในราคา 7,490 บาท มีหลากหลายสีสันให้เลือก สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nokia C5-03 ได้ที่โนเกียแคร์ไลน์ 02-255-2111 หรือ www.nokia.co.th
Nokia เปิดตัว C5-03 สมาร์ททัชโฟน 3.5G พร้อม WiFi
ที่มา siamphone

ยูทูบเฮ ยอดชมวิดีโอบนมือถือทะลุ 200 ล้านครั้งต่อวัน

ยูทูบ (YouTube) ประกาศชัยรับทิศทางการขยายตัวของธุรกิจในวงการอุปกรณ์พกพา ระบุว่ายอดการเรียกชมวิดีโอยูทูบบนอุปกรณ์พกพาในปัจจุบันมีจำนวนสูงเกิน 200 ล้านครั้งต่อวัน ทั้งในกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบพกพาอื่นๆ

อองเดรย์ โดโรนิเชฟ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์พกพาของยูทูบ แสดงความเห็นไว้ในบล็อกของบริษัทว่า การขยายตัวของตลาดอุปกรณ์พกพาและความนิยมในการชมวิดีโอออนไลน์บนสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ยูทูบเชื่อว่าในอนาคต ยูทูบจะมีพันธมิตรด้านการโฆษณาออนไลน์มากขึ้น เพราะบริษัทเหล่านี้จะต้องการคว้าโอกาสในการทำให้คอนเทนต์ของตัวเองปรากฏสู่อุปกรณ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น

สถิติยอดชมวิดีโอออนไลน์บนอุปกรณ์มือถือ 200 ล้านครั้งต่อวัน ถูกมองเป็นหลักไมล์สำคัญหลังจากยูทูบเริ่มขยายความร่วมมือกับอุตสาหกรรมเพลง โดยล่าสุดยูทูบได้จับมือบริการเว็บไซต์เพลงนาม Vevo ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกูเกิล โซนีมิวสิคเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ยูนิเวอร์แซลมิวสิก และอาบูดาบีมีเดีย ในการทำให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์สามารถเข้าถึงรายการเพลงของ Vevo ได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชันฟรีของยูทูบ

แน่นอนว่า การใช้งานที่แพร่หลายแสดงถึงทิศทางรายได้สวยงามของยูทูบในอนาคต โดยเฉพาะรายได้จากการโฆษณา ซึ่งเชื่อว่าจะขยายตัวก้าวกระโดดต่อเนื่องไปอีกหลายปี
ยูทูบเฮ ยอดชมวิดีโอบนมือถือทะลุ 200 ล้านครั้งต่อวัน
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

หลุด "Dakota" BB ทัชสกรีน ดีไซน์คลาสสิค

ภาพจาก Boy Genius Report ที่ระบุว่าเป็นรูปของแบล็กเบอรีรุ่นใหม่ Curve Dakota และ Torch 2


เว็บไซต์ Boy Genius Report ได้มีการเปิดเผยข้อมูล แบล็กเบอรี Dakota สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของริมที่จะมาพร้อมกับหน้าจอแบบทัชสกรีน ในรูปทรงแท่ง ที่ถือเป็นแฟล็กชิปของแบล็กเบอรีตลอดมา รวมถึงข้อมูลของ Torch 2 และ Curve ใหม่

โดยข่าวลือที่ออกมาระบุว่า Dakota จะเป็นตระกูลใหม่ที่ ริม ออกมาวางจำหน่ายเพื่อรับกับกระแสความนิยมของสมาร์ทโฟนหน้าจอสัมผัส ซึ่งทางริมก็มีผลิตภัณฑ์ประเภทนี้อยู่ในตลาดแล้ว อย่าง Strom และ Torch ซึ่งมีดีไซน์ที่แตกต่างออกไปจากรุ่นยอดนิยมของแบล็กเบอรี

ทำให้ทางริม ต้องมีการพัฒนา Dakota ออกมาเพื่อจับตลาดผู้ใช้งานที่นิยมความคลาสสิค ในเครื่องรูปแบบ QWERTY ทรงแท่ง ที่แบ่งครึ่งหนึ่งออกเป็นหน้าจอสัมผัส และอีกครึ่งหนึ่งเป็นคีย์บอร์ด

โดยมีการคาดการณ์ว่า Dakota จะมีหน้าจอสัมผัสขนาด 2.8 นิ้ว บนความละเอียด VGA มาพร้อมกับกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่สามารถรองรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวความละเอียดสูงได้ หน่วยความจำภายใน 4GB และ RAM ขนาด 768 MB ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลของหน่วยประมวลผลที่ใช้

ขณะที่ความสามารถที่ถูกจับตามองอย่างการส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้กับอุปกรณ์ต่อพ่วงชนิดอื่น (Mobile Hotspot) ผ่าน Wi-Fi รวมถึงฟีเจอร์อื่นๆของเครื่องรุ่นนี้ น่าจะมีการเปิดเผยมากขึ้นเมื่อทางริม มีการเปิดตัวระบบปฏิบัติการแบล็กเบอรี เวอร์ชัน 6.1 อย่างเป็นทางการ

ขณะเดียวกันยังมีข่าวคราวความคืบหน้าของแบล็กเบอรี Torch 2 ที่จะมาพร้อมหน่วยประมวลผลความเร็ว 1.2GHz หน้าจอขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด VGA หน่วยความจำภายใน 8GB และ RAM 512 MB ขณะที่รูปทรงและฟีเจอร์อื่นๆจะเหมือนเดิมทั้งหมด

ความคืบหน้าของ Curve ซึ่งเป็นรุ่นที่ทางริม วางไว้เจาะตลาดล่าง ก็จะมีการอัปเดตเพิ่มเติมในส่วนของ ความละเอียดหน้าจอที่เป็น HVGA เพิ่มความละเอียดกล้องเป็น 5 ล้านพิกเซล และจะหันมาใช้หน่วยประมวลผล Tavor MG-1 800MHz

เป็นที่น่าสังเกตว่าแบล็กเบอรี รุ่นใหม่ทั้งหมด จะรองรับระบบ Near-field communication หรือ nfc ซึ่งเป็นชิปที่รองรับเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะสั้น ทำให้ผู้ใช้สามารถนำเครื่องไปทำธุรกรรมการเงินได้หลากหลายไม่ต่างจากบัตรเครดิต รวมถึงการใช้โทรศัพท์เพื่อรับบริการระบุตัวตน ในอนาคต

ทั้งนี้เชื่อว่าทาง ริม จะมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการของ Dakota ในช่วงงาน Mobile World Congress ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14-17 กุมภาพันธ์ 2554 ที่กรุงบาเซโลนา ประเทศสเปน ส่วน Torch 2 คาดว่า จะมีการเปิดตัวในช่วงปลายไตรมาส 3 กับทาง เอทีแอนด์ที

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554

iPad 2 ใหม่(ต้นแบบ) เพิ่มหน่วยความจำ ลดขนาดความบาง

ตั้งใจจะแสดงให้เห็นถึงความทันสมัยของอุปกรณ์เสริม iPad 2 แท่นวางที่เป็นอุปกรณ์เสริมของ Gadget แต่สิ่งที่โดดเด่นและน่าสนใจกว่ากลับเป็นตัว Mockup ที่เอามาใช้ไปซะอย่างนั้น เพราะแท่นวางที่นำมาแสดงนั้น ระบุว่าทำออกมารองรับ iPad 2 ดังนั้น Mockup ที่เอามาใช้วางให้ผู้เข้างาน CES 2011 ได้เชยชม จึงเป็นที่น่าจับตามอง เพราะติดตราสัญลักษณ์ Apple ไว้อย่างชัดเจน ส่วนรายละเอียดด้านคุณสมบัตินั้นไม่ได้ถูกเปิดเผย ทราบแต่เพียงว่า iPad 2 ตัวต้นแบบนี้ มีความบางเพียง 9.4 มิลลิเมตร สูง 240.8 มิลลิเมตร กว้าง 185.5 มิลลิเมตร และ มีหน่วยความจำภายใน สูงถึง 128 GB



iPad 2 ใหม่(ต้นแบบ) เพิ่มหน่วยความจำ ลดขนาดความบาง
ที่มา siamphone

วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554

จอยโยกอุปกรณ์เสริมสำหรับ iPad ตัวใหม่ล่าสุด

จอยโยกเสริมความแม่นยำเกมบน iPad เกมเมอร์บน iPad ต้องชอบแน่ๆ กับอุปกรณ์เสริมสำหรับ iPad ตัวใหม่ล่าสุดนี้ เคยลองเล่นเกมที่จะมีเหมือนคันโยกจำลองบนหน้าจอ ตรงมุมด้านซ้ายล่างของ iPad มั้ย คุณคงจะรู้นะซ่าร่าว่ามันเล่นได้ลำบากซะขนาดไหน ชอบจิ้มผิดจิ้มถูกซะเรื่อย และนี่เลยผมขอเสนอนวัตกรรมใหม่ที่จะมาช่วยแก้ปัญหาของคุณ นี่คือ Fling joystick คันโยกยางที่มาพร้อมตัวดูดให้ยึดติดกับ iPad อย่างแน่นหนา ที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัวเข้ากั้นเข้ากันกับ iPad ตัวเก่งของคุณ ต่อไปนี้คุณจะสามารถควบคุมทิศทางในเกมบน iPad ได้อย่างแม่นยำ ไร้ปัญหาการจิ้มผิดๆถูกๆอีกต่อไป ยังไม่พอถ้าคุณโทรมาสั่งภายในไม่กี่นาทีนี้ เราขอเสนอราคาพิเศษให้คุณได้เป็นเจ้าของ เอาไปเลย (ประมาณ) 750 บาทเท่านั้น
ที่มา NotebookSpec

Sony เปิดตัว notebook YB series มาพร้อม AMD Fusion

Sony เปิดตัว notebook YB series มาพร้อม AMD Fusion โน้ตบุ๊กโซนี่มาพร้อม AMD Fusion APU ราคาเพียง 550 เหรียญUS (ประมาณ 16,600 บาท) เป็น series YB ตัวใหม่มาพร้อมกับ AMD E-350 1.6 GHz การ์ดจอ HD 6310 (ออนบอร์ด), แรม 4 GB, ฮาร์ดดิสก์ 500 GB, HDMI, 802.11b/g/n wireless, Bluetooth 2.1 EDR+, USB 2.0 จำนวน 3 พอร์ต และ คีย์บอร์ดมีไฟ LED ใน YB series นี้มีขนาดหน้าจอ 11.6 นิ้ว และน้ำหนักเพียง 3.2 ปอนด์ (1.45 กิโลกรัม) สามารถเลือกขนาดแบตเตอรี่ได้มากก่วา 1 แบบ และคาดว่าโซนีจะขาย YB ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้
ที่มา NotebookSpec

หลุดภาพ “3DS” ก่อนจำหน่ายจริง เด็กต่ำกว่า 6 ปีงดเล่นโหมดสามมิติ

เปิดเผยภาพหลุดเครื่อง 3DS ก่อนวางจำหน่ายจริงที่ญี่ปุ่นในเดือนหน้า พร้อมข้อมูลสเป๊กเพิ่มเติม ความจุแรม 96MB แบต 1,300mAh ทางด้านนินเทนโดออกมาเตือนการใช้งานเครื่องว่าเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีไม่ควรเล่นโหมดที่นำเสนอภาพแบบสามมิติเนื่องจากจะเป็นอันตรายต่อสายตาได้ วันที่ 19 มกราคมที่จะถึงนี้ นินเทนโดจะจัดงานอีเวนท์พิเศษขึ้นในนิวยอร์ก งานอีเวนท์ดังกล่าวถูกคาดหมายว่านินเทนโดจะเปิดเผยความชัดเจนเกี่ยวกับเครื่องเกมพกพา “3DS” ที่สามารถนำเสนอภาพแบบสามมิติได้โดยไม่ต้องใส่แว่น งานที่กำลังจะถูกจัดขึ้นนี้ มีบุคคลในวงการเกมเฝ้ารอคำตอบว่า เครื่อง 3DS จะออกวางจำหน่ายในอเมริกาเมื่อใด และจะวางจำหน่ายในราคาเท่าไร อย่างไรก็ตามล่าสุดดูว่าจะมีข้อมูลเกี่ยวกับสเป๊กของเครื่อง 3DS ถูกเปิดเผยออกมาเพิ่มเติมผ่านภาพหลุดที่พนักงานในโรงงานผลิตเครื่อง 3DS เป็นคนถ่ายออกมาเผยแพร่
เว็บไซต์ 3DSbuzz.com นำภาพเครื่อง 3DS มาจากเว็บบอร์ดญี่ปุ่น ระบุว่าเครื่อง 3DS ที่เห็นในภาพนั้นเป็นรุ่นสีดำ “Cosmo Black” คล้ายกับโมเดลเครื่องที่นินเทนโดเคยนำไปโชว์ในงาน E3 2010 อย่างไรก็ตามเมื่อดูอย่างละเอียดแล้วพบว่าปุ่ม Start , Home และ Select มีการปรับเปลี่ยนให้แบนลงจนเสมอกับระดับของตัวเครื่อง ข้อมูลที่เปิดเผยออกมาเพิ่มเติมจะเกี่ยวข้องกับสเป๊กเครื่อง 3DS ที่จะใช้ความจุแรมขนาด 96 เมกะไบต์ มีแบตเตอรี่ 1,300mAh ซึ่งมีกำลังไฟมากกว่าเครื่อง DS Lite ที่ใช้แบตเตอรี่ 1,000mAh และ เครื่อง DSi ที่ใช้แบตเตอรี่ 840mAh ในส่วนของคลิปวิดีโอมีการเปรียบเทียบขนาดเครื่องระหว่าง 3DS , DSi และ DS lite เครื่องเกมพกพา 3DS จะวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ด้วยราคา 25,000 เยน หรือประมาณ 9,200 บาท ทางด้านกำหนดวางจำหน่ายในอเมริกาและยุโรปยังไม่มีการประกาศออกมาอย่างชัดเจน เพียงแต่ระบุว่าจะออกวางจำหน่ายก่อนเดือนเมษายน ทางด้านเกมที่จะลงให้กับเครื่อง 3DS มีทั้งจากนินเทนโดเองและค่ายเกมอื่น อาทิ ภาคต่อของเกม Kid Icarus, Mario Kart, Metal Gear Solid และ Dragon Quest ขณะนี้ทางนินเทนโดยังไม่ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับภาพหลุดเครื่อง 3DS แต่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการผ่านเว็บไซต์เตือนการใช้งานเครื่อง 3DS สำหรับเด็กที่มีอายุน้อย นินเทนโดเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ว่าโหมดการเล่นเกมที่นำเสนอภาพแบบสามมิติบนเครื่อง 3DS อาจจะไม่ดีต่อสุขภาพร่างกาย โดยระบุว่าเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี ควรจะเล่นเกมในโหมด 2 มิติปกติ เพราะว่าการเล่นเกมในแบบสามมิติจะเป็นอันตรายต่อสายตาของเด็กได้
ที่มา Manager

วันเสาร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2554

โลกไอที2011"ปีกระต่ายสวย"

โลกเศรษฐกิจอาจจะมองว่าปี 2011 คือปีกระต่ายไฟที่คนทั่วโลกยังนิ่งนอนใจและประมาทไม่ได้ แต่สำหรับโลกไอที ปี 2011 คือปี"กระต่ายสวย"ที่สินค้าไอทีใหม่ถอดด้ามจะไม่ได้กระจุกตัวในกลุ่ม"เนิร์ดไอที"อย่างเดิม แต่จะกระจายตัวอยู่ในกลุ่มใครก็ได้ที่เน้นแฟชั่น หลงเสน่ห์ความสะดวกสบายของเทคโนโลยี และความสวยงามของอุปกรณ์

"ประสิทธิ์ วรฉัตราวณิช" รองผู้จัดการทั่วไปและผู้อำนวยการฝ่ายนิวมีเดีย บริษัท เอ.อาร์.อินฟอร์เมชัน แอนด์ พับลิเคชัน จำกัด (ARiP) ผู้จัดงานมหกรรมไอที "คอมมาร์ต (Commart)" ในประเทศไทย ประเมินสถานการณ์ปี 2011 ว่าจะเป็นปี"ลูกผสม"ระหว่างสินค้าไอทียุคเก่าและใหม่ เพื่อการเปลี่ยนถ่ายไปสู่ยุคดิจิตอลเต็มรูปแบบในอนาคต

"สินค้าใหม่ออกมาจะไม่ได้อยู่ที่เนิร์ด แต่อยู่ที่ทุกคน สินค้าใหม่ออกมาจะเห็นดาราและเซเลบถือ" ประสิทธิ์กล่าว "สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้คือการเป็นยุคลูกผสม Hybrid & Transform อธิบายให้ง่ายคือโลกไอทีก็คล้ายกับการเปลี่ยนอาหารให้สุนัข ถ้าเปลี่ยนยี่ห้ออาหารเลย สุนัขจะท้องเสีย ต้องเอายี่ห้อเก่ามาผสมยี่ห้อใหม่ ก่อนที่จะค่อยๆลดยี่ห้อเก่าลงจนเหลือเฉพาะยี่ห้อใหม่"

ประสิทธิ์เชื่อว่า วิถีชีวิตของชาวออนไลน์ในปี 2011 จะเปลี่ยนไปใน 8 ทิศทาง โดยชีวิตคนไอทีจะอยู่กับฮาร์ดแวร์หลากหลาย แพลตฟอร์มจำนวนมากจะทำให้คำว่าคอมพิวเตอร์เจือจางไป และผู้บริโภคจะรู้จักคำว่า"สมาร์ท"แทน

เหนืออื่นใด การประเมินสถานการณ์ในภาพรวมทำให้ประสิทธิ์เชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนมือแชมป์ ยืนยันคำพูดที่ว่าไม่มีใครสามารถเป็นอันดับหนึ่งได้ถาวรตลอดกาล

1. คนจะใช้สองอุปกรณ์แทนพีซี

"ปี 2010 และปี 2011 คำถามว่าควรซื้อโน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ตจะถูกพูดถึงมากขึ้น มีแนวโน้มว่าสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะกลายเป็นพีซีเครื่องต่อไปสำหรับกลุ่มที่ไม่ต้องพิมพ์งานมาก ใช้เพื่อดูมากกว่า"

ประสิทธิ์เชื่อว่าผู้บริโภคจะเลือกอุปกรณ์ 2 ชิ้นนี้เพื่อใช้ทำงานแทนพีซีพกพา โดยมองว่าปัจจุบัน แท็บเล็ตนั้นทำงานได้แทบทุกอย่างในอุปกรณ์เดียว ขณะที่สมาร์ทโฟนก็กำลังจะมีพัฒนาการเป็นชิปดูอัลคอร์ และเพิ่มความเร็วระดับ GHz ในอนาคต

"ปี 2011 แท็บเล็ตจะกินโน้ตบุ๊ก 30% แต่โน้ตบุ๊กยังเป็นเมนสตรีมอยู่"

2. แท็บเล็ตจะกินตลาดแล็ปท็อป

ข้อมูลจากบริษัทวิจัย Goldman Sachs คาดว่าแท็บเล็ตโลกจะมียอดจัดส่ง 54.7 ล้านเครื่องปี 2011 โดยมีแนวโน้มว่าแท็บเล็ตจะสามารถกินส่วนแบ่งจากตลาดโน้ตบุ๊กไปได้ถึง 19.1 ล้านเครื่องในปี 2011

จุดนี้ประสิทธิ์ย้ำว่าสัดส่วนตลาดที่จะตกไปเป็นของแท็บเล็ตนั้นไม่ได้มีขนาดใหญ่ เนื่องจากกลุ่มคนที่จำเป็นต้องใช้งานพิมพ์ก็จะยังคงใช้งานแล็ปท็อปต่อไป ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตส่วนใหญ่จะยังชะลอตลาดไว้ ไม่ปล่อยให้แท็บเล็ตครองตลาดได้เร็วเกินไป

"ปี 2011 คิดว่ายังไม่มีเทคโนโลยีใดหายไป จะมีก็แต่เห็นน้อยลง ที่เห็นน้อยลงน่าจะเป็นเน็ตบุ๊ก แต่คาดว่าระบบปฏิบัติการกูเกิลโครมโอเอส ก็จะไม่ได้รับผลกระทบจากขาลงของเน็ตบุ๊ก เพราะเทคโนโลยีคลาวด์ ส่วนตลาดโน็ตบุ๊กก็ยังโต เช่นในกลุ่มคนเล่นเกม คิดว่าตลาดแท็บเล็ตจะถูกแตะเบรกโดยเวนเดอร์เอง ใช้วิธีซื้อแล้วไม่มีสินค้า หรือซื้อแล้วยังไม่มีบริการหลังการขาย"

3. เน็ตบุ๊กจะไปที่คลาวด์

"เน็ตบุ๊กไม่จำเป็นต้องเร็วกว่านี้หรือฉลาดกว่านี้มากมาย เพราะกูเกิลจะทำให้คนเริ่มผ่องถ่ายข้อมูลไปที่คลาวด์ ซึ่งนาทีนี้ คลาวด์มีการพัฒนามากขึ้น เน็ตบุ๊กจึงฉลาดขึ้นตามไปโดยปริยาย"

ประสิทธิ์ชี้ว่าพัฒนาการเน็ตบุ๊กนับจากนี้จะมีลักษณะคล้ายพัฒนาการกล้องดิจิตอล ที่ต้องใช้กับชุดเลนส์และซอฟต์แวร์ และไม่ได้วัดกันที่ความละเอียดเซ็นเซอร์ภาพอย่างเดียว ดังนั้น งานบางชิ้นที่ไม่จำเป็นต้องให้เน็ตบุ๊กประมวลผล จะถูกส่งไปที่คลาวด์ เพื่อรันแอปพลิเคชันบนระบบคลาวด์โดยตรง

"ค่ายผู้ผลิตสตอเรจจะมุ่งไปที่กลุ่มองค์กรมากขึ้น เพราะกลุ่มนี้จะต้องลงทุนคลาวด์คอมพิวติงมากขึ้น ไม่ใช่กลุ่มผู้บริโภคแบบในอดีต"

คลาวด์คอมพิวติงคือระบบประมวลผลเสมือนที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้ผ่านอินเทอร์เน็ต มีความยืดหยุ่นเหมือนเมฆในแง่การขยายตัวเพื่อรองรับการใช้งานโดยคนกลุ่มมาก และมีเสรีในการเคลื่อนที่เพราะสามารถเรียกใช้งานได้ตลอดเวลา ตัวอย่างบริการจากระบบคลาวด์ฯที่เป็นที่นิยมในขณะนี้คือบริการรับฝากและแชร์ไฟล์ออนไลน์

4. "วินโดวส์และอินเทล"จะสะเทือน

"ถ้าปี 2011 แท็บเล็ตถูกใช้มาก แชมป์ก็จะเปลี่ยนมือ"

ประสิทธิ์ยกตัวอย่างชิปเออาร์เอ็ม (ARM) โปรเซสเซอร์ที่ได้ชื่อว่าเป็นชิปที่เร็วที่สุดและประหยัดพลังงานที่สุดบนอุปกรณ์โมบายล์ในขณะนี้ และกำลังถูกเอ็นวิเดียและซัมซุงนำไปใช้ในการพัฒนาชิปเพื่ออุปกรณ์พกพา จุดนี้ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า ระบบปฏิบัติการทางเลือกอย่างแอนดรอยด์และไอโอเอส (iOS) จะถูกผนวกรวมกับชิปเออาร์เอ็ม จนอาจมีอิทธิพลแทนที่แพลตฟอร์มวินโดวส์และอินเทลได้

"วันนี้อินเทลเองก็คุยกับแอนดรอยด์ สร้างสรรค์ออกมาเป็นกูเกิลทีวี" ทั้งหมดนี้ทำให้ประสิทธิ์มองว่า แพลตฟอร์มอมตะอย่างอินเทลและวินโดวส์ของไมโครซอฟท์นั้นไม่ได้ถูกเลือกใช้เป็นอันดับต้นๆอย่างเคย ทำให้ความไม่แน่นอนเกิดขึ้นกับบัลลังก์ของอินเทลและไมโครซอฟท์ในปี 2011

5. โลกจะเข้าสู่ยุคไฮบริดมีเดีย

"อย่างที่บอกเรื่องอาหารสุนัข เทคโนโลยีในสื่อจะเปลี่ยนไปเลยไม่ได้ ปี 2011 จึงไม่ได้เป็นปีแห่งดิจิตอลแมกกาซีนเต็มตัว แต่จะเป็นปีที่ทุกคนพยายามจัดหาฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และแอปสโตร ให้พร้อมที่สุด"

ประสิทธิ์คาดว่า อีบุ๊กจะกินตลาดสิ่งพิมพ์รวม 15-20% ในปี 2011

"แต่ในเมืองไทยบ้านเรา คิดว่าตัวเลขหลักเดียวก็ดีใจแล้ว คาดว่าปี 2011 สื่อไทยจะลงมาเล่นมากขึ้น" โดยแม้อีบุ๊กจะยังไม่มีกลไกเปลี่ยนหน้าหนังสือที่ดีเท่ากับหนังสือเล่ม แต่ประสิทธิ์เชื่อว่าธุรกิจสื่อจะต้องเดินทางไปสู่ตลาดหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพราะทำให้ได้เงินเร็วขึ้น เนื่องจากเครื่องอ่านอีบุ๊กอย่างคินเดิลนั้นทำให้การซื้อและการอ่านเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน

6. ไวรัสมือถือจะกระฉูด

ประสิทธิ์ระบุว่ายิ่งแอปพลิเคชันมือถือถูกใช้งานมากเท่าใด ไวรัสในสมาร์ทโฟนก็จะมากขึ้นเท่านั้น โดยยกตัวอย่างว่า เพียงการดาวน์โหลดภาพวอลล์เปเปอร์ในสมาร์ทโฟน ก็มีความเสี่ยงได้รับไวรัสแฝงแล้ว

ปัจจุบัน ผู้ผลิตซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสต่างเปิดตัวผลิตภัณฑ์ป้องกันไวรัสในสมาร์ทโฟนถ้วนหน้า คาดว่าในปี 2011 ตลาดซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะขยายตัวมากขึ้น

7. สมาร์ททีวีจะโต

ปี 2011 จะเป็นปีทองของสมาร์ททีวีซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถชมรายการทีวีและแอปพลิเคชันบนทีวีเครื่องเดียวกันได้ ขณะเดียวกัน ตลาดทีวีสามมิติที่ไม่ใช่แว่นตาก็จะมีบทบาทในตลาดมากยิ่งขึ้น

"ปี 2010 ผู้ผลิตทีวีเริ่มเทสินค้าสามมิติมาสู่ผู้บริโภค ปี 2011 จะเป็นปีที่ผู้บริโภคต้องตัดสินใจเลือกซื้อโปรดักต์ บ้านเราต้องดูว่าบอร์ดแบนด์จะไป 12 เม็กหรือยัง (ปัจจุบันคือ 6 เม็ก) ถึงจุดนั้น ผู้ใช้สมาร์ททีวีจะโทรศัพท์ผ่านทีวีได้ โดยไม่ก็รอ 3G"

8. โซเชียลเน็ตเวิร์กจะมีผลวงกว้าง

เทรนด์ที่โดดเด่นและใกล้ตัวชาวออนไลน์มากที่สุดคือแนวโน้มการใช้งานเสิร์ชเอนจิ้นอย่างกูเกิลหรือยาฮูที่น้อยลง สวนทางกับแนวโน้มการใช้งานเครือข่ายสังคมเช่นเฟซบุ๊กที่จะเพิ่มขึ้น

"เพื่อนฝูงของเราจะกลายเป็นพิกเซล คือการเห็นหน้าเพื่อนผ่านรูปในหน้าจอคอมพิวเตอร์ ที่น่าลุ้นในปี 2011 คือ คนจะเชื่อเพื่อนหรือเชื่ออากู๋ (กูเกิล) ตรงนี้ทำให้โซเชียลคอมเมิร์ชกำลังมา คือเพื่อคุยกับเพื่อนในเครือข่ายสังคมแล้วซื้อได้เลย"

ประสิทธิ์ระบุว่าปัจจุบัน ชาวออนไลน์มีสถิติใช้งานเครือข่ายสังคมโดยเฉลี่ย 3.5 ชั่วโมงจากทั้งหมด 5 ชั่วโมง คำถามไม่ใช่ว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ แต่ควรเป็นว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มจาก 3.5 ชั่วโมงเป็นกี่ชั่วโมงในปี 2011 เนื่องจากตลาดเครือข่ายสังคมนั้นมีแผนการพัฒนาเพื่อต่อยอดการใช้งานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่จะนำบริการโลเคชันเบสมาผูกกับโซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อทำการตลาด ซึ่งเชื่อว่าจะมีความแพร่หลายมากขึ้นในปี 2011 เนื่องจากอุปกรณ์พกพาที่ทำให้เทคโนโลยีนี้ตามตัวผู้ใช้ไปได้ตลอดเวลามีจำนวนมากขึ้น

"ปี 2011 การใช้กลไกโซเชียลเน็ตเวิร์กในการทำให้เราฉลาดขึ้นจะมีอิทธิพลมากขึ้น เราเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่า Cloud sourcing คือผู้ใช้จะสามารถถามเครือข่ายสังคมของตัวเองได้ว่าจะแต่งตัวอย่างไร ซื้อของได้ถูกที่สุดได้ที่ไหน ซึ่งอาจนำไปสู่การซื้อเป็นกลุ่มเพื่อราคาที่ถูกกว่า รวมถึงการตั้งกลุ่มผู้ชื่นชอบสิ่งของแบบเดียวกันในเครือข่ายสังคม ที่จะทำให้เกิดการต่อยอดด้านรายได้ในวงการอินเทอร์เน็ต"

สำหรับเทคโนโลยีที่ไม่ถูกพูดถึง เช่น คิวอาร์โค้ด (QR Code), วินโดวส์โฟนเซเว่น (WP7) และเทคโนโลยีเนียร์ฟิลด์คอมมูนิเคชัน (NFC) ประสิทธิ์ย้ำว่าแม้จะมีการใช้งานมากแต่ยังอยู่ช่วงให้ความรู้ผู้ใช้ ซึ่งยังต้องดูความชัดเจนต่อไป

"ดิจิตอลมันนียังไม่มา อีแบงกิงโตแต่ก็ไม่เห็นเป็นรูปธรรม ต้องแรงจริงจึงจะเป็นเทรนด์ได้ ส่วน WP7 คนยังสงสัย ขณะที่แอนดรอยด์และไอโฟนสามารถจำหน่ายได้หลายแสนหลายล้านเครื่อง"

ประสิทธิ์ระบุว่าการประเมินเทรนด์ไอทีปี 2011 เป็นเรื่องยาก ไม่ใช่เพราะเทคโนโลยี 3G ไม่สามารถให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2011 แต่เป็นเพราะการประเมินผู้บริโภคบนปัจจัยพฤติกรรมที่ผันแปร

"ยากเพราะต้องคิดว่าใครต้องใช้อะไรบ้าง พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป และผู้ผลิตปล่อยของมาเยอะมาก มีรายงานว่าแท็บเล็ตจะถูกนำมาแสดงในงานซีอีเอสมากถึง 30 รุ่นจาก 15 เจ้า ทั้ง 8 ข้อนี้จ่อคอหอยหมดเลย ปี 2011 จะเป็นปีแห่งรอยต่ออย่างแท้จริง"

สำหรับการไม่มี 3G ประสิทธิ์เชื่อว่าจะมีผลเพียงอัตราการใช้ข้อมูลในประเทศไทยจะไม่เติบโตเท่าที่ควร โดยแอปพลิเคชันที่ต้องการการเชื่อมต่อสูงจะยังไม่เกิดเท่านั้น

"โครงข่ายไม่ใช่ปัจจัย เพราะไม่มีใครหิ้วทีวีออกนอกบ้านเพื่อใช้งาน ผมคิดว่าไม่มีเทคโนโลยีอะไรหายไปในปี 2011 จะมีก็แต่ลดความนิยม ที่มากที่สุดเชื่อว่าจะเป็นเน็ตบุ๊ก และระบบปฏิบัติการซิมเบียน"
โลกไอที2011"ปีกระต่ายสวย"
ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ฟรีบริการเก็บสถิติเว็บไซด์ FlashSanook แฟลชเกมสนุกของคนออนไลน์