ซัมซุง แคนดี้ ทู ทัชโฟนราคาแค่ 3,990 บาท

ซัมซุงกำหนดมาตรฐานพรีเมียมแมสโฟนใหม่ ส่ง แคนดี้ ทู ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ทุกด้าน ทั้งดีไซน์ นวัตกรรมในราคาต่ำกว่า 4 พัน พร้อมดึง ณเดชน์ คูกิมิยะ เป็นพรีเซ็นเตอร์สื่อสารความเป็นแมสตรงถึงตลาด ตั้งเป้า 3 เดือน 2 แสนเครื่องนายวิชัย พรพระตั้ง ผู้อำนวยการธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า นับตั้งแต่ซัมซุงเข้ามาบุกเบิกและปลุกกระแสตลาดทัชโฟนในไทยก่อนใครเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทำให้ความนิยมทัชโฟนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อรวมกับกระแสการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กที่เติบโตอย่างรวดเร็วทำให้ความต้องการทัชโฟนเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นวัยรุ่นเปลี่ยนไป

ในฐานะที่ซัมซุงเป็นผู้นำเทรนด์ในตลาดทัชโฟน เริ่มจากซัมซุง แคนดี้ ที่ดีไซน์โดนใจวัยรุ่นโดยซัมซุงทำตลาดในราคาต่ำกว่า 7 พันบาทรายแรก ครบรอบ 1 ปีมียอดขายถึง 6 แสนเครื่อง และเพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดทัชโฟน ซัมซุงจึงเปิดตัว ซัมซุง แคนดี้ ทู ที่มีสีสันจี๊ดจาดในแบบแคนดี้ บนหน้าจอแสดงผลขนาด 3.14 นิ้ว ระบบ TouchWiz UI 3.0 รองรับการใช้งานสังคมออนไลน์ รองรับการใช้งานไว-ไฟ พร้อมกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มีทั้งหมด 3 สี คือ ขาว เหลืองและชมพู ในราคาเพียง 3,990 บาท

'ดีไซน์ที่โดนใจ นวัตกรรมในแคนดี้ ทูที่ให้มาครบครัน รวมถึงราคาที่ถูกลงมาในระดับต่ำกว่า 4 พันบาท ซึ่งเชื่อว่าหาไม่ได้อีกแล้วในตลาดเวลานี้ ซึ่งทำให้แคนดี้ ทู กลายเป็นผู้นำในส่วนที่เป็นพรีเมียมแมสในตลาดมือถือ ไม่ใช่จำกัดวงอยู่เฉพาะตลาดทัชโฟนเหมือนในอดีตอีกต่อไป'

สภาพตลาดมือถือในขณะนี้ จากความต้องการของผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นนั้นมีความต้องการของสินค้าที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตลาดกลุ่มนี้มีมากถึง 30-40% ส่งผลให้การแข่งขันมีมากตามไปด้วย แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไปได้ไกลทำให้ต้นทุนต่ำลง ส่งผลให้ทัชโฟนที่มีราคาต่ำกว่า 4,000 บาท มีลูกเล่น ความคุ้มค่าและความสามารถเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

'ด้วยระดับราคาดังกล่าว รวมถึงนวัตกรรมต่างๆ ที่ใส่เข้าไป ทำให้โอกาสผู้บริโภคที่เคยใช้งานฟีเจอร์โฟนสามารถที่จะจับต้องทัชโฟนที่มีลูกเล่นของสมาร์ทโฟนครบได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมซัมซุงมั่นใจว่า แคนดี้ ทูจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของพรีเมียมโฟนในตลาดเมืองไทย'

นอกจากนี้เพื่อเป็นการเข้าถึงตลาดแมสมากยิ่งขึ้น ซัมซุงจึงเลือก ณเดชน์ คูกิมิยะ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้แก่แคนดี้ ทู พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่ดูน่ารัก สดใสขี้เล่น ซึ่งเชื่อว่า ณเดชน์สามารถสะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นแคนดี้ได้เป็นอย่างดี

'ซัมซุงได้เตรียมเงินกว่า 30 ล้านบาทในการประชาสัมพันธ์ โดยกว่า 80% จะลงไปในส่วนของภาพยนตร์โฆษณาที่จะแพร่ภาพทางโทรทัศน์ ที่ต้องการเจาะลงในตลาดแมสเป็นหลัก ส่วนที่เหลือ 20% จะสื่อสารทางสื่อออนไลน์ และออฟไลน์ โดยมั่นใจว่า จะสามารถมียอดขาย 2 แสนเครื่อง ภายใน 3 เดือน'
ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

Blackberry Playbook เตรียมบุกไทย

ริม จ่อเปิดตัว "แบล็กเบอร์รี เพลย์บุ๊ก" ในประเทศไทยไม่นานเกินรอ หวังเจาะเข้าทุกตลาดผ่านช่องทางจำหน่ายไอที และโอเปอเรเตอร์มือถือแม้ตัวเครื่องรุ่นแรกยังไม่สามารถใช้งาน 3G ชี้ 4 ปัจจัยหลักช่วยผลักดันเข้าตลาดแท็บเล็ตเต็มตัว แดนนี่ โบลดุค ผู้อำนวยการ ประจำประเทศไทย บริษัท รีเสิร์ช อิน โมชั่น (ริม) กล่าวว่า รูปแบบการทำตลาดของเพลย์บุ๊กในประเทศไทย ยังคงใช้เอสไอเอสเป็นดิสทริบิวเตอร์หลัก ร่วมกับการทำตลาดผ่านโอเปอเรเตอร์มือถือ ทำให้ในการวางจำหน่ายเพลย์บุ๊กจะสามารถส่งสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายได้ครบทุกช่องทาง

'เพลย์บุ๊กเป็นสินค้าที่สามารถทำตลาดได้ทุกกลุ่ม ไม่จำเป็นต้องเป็นเฉพาะคอนซูเมอร์หรือตลาดองค์กรโดยเฉพาะ ทำให้สามารถใช้ช่องทางจำหน่ายเดิมที่มีอยู่ในการทำตลาดได้ทันที ซึ่งหลังจากนี้คงเป็นช่วงหารือกับทั้งดิสทริบิวเตอร์และโอเปอเรเตอร์ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการ'

โดย 4 ปัจจัยหลักที่ แดนนี่ เห็นว่าจะทำให้เพลยบุ๊กเป็นที่นิยมในตลาดแท็บเล็ตไทย คือ 1.ขนาดของตัวแบล็กเบอร์รี เพลย์บุ๊ก (Blackberry Playbook) ที่ถือว่าเป็นแท็บเล็ตที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับการพกพา 2.ความสามารถในการใช้งานมัลติเทสก์ บนหน่วยประมวลผลแบบดูอัลคอร์ ที่ช่วยให้สามารถใช้ทำงานหลายสิ่งพร้อมกัน

3.การเชื่อมต่อในเบื้องต้นที่แบล็กเบอร์รี เพลย์บุ๊กวางจำหน่ายจะมีเพียงรุ่นที่รองรับการเชื่อมต่อเฉพาะไวไฟเท่านั้น แต่ในอนาคตจะมีรุ่นที่รองรับการใช้งาน 4G ออกมา สิ่งที่กลายเป็นจุดเด่นคือการที่ผู้ใช้เพลย์บุ๊กสามารถเชื่อมต่อแท็บเล็ตเข้ากับสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี หรือ 'Bridge' เพื่อให้ใช้งานระบบอีเมล ปฏิทิน ข้อมูล รวมถึง BBM ได้ทันที ทำให้ความปลอดภัยของข้อมูลยังเป็นไปตามมาตรฐานของแบล็กเบอร์รี

สุดท้ายคือ 4.การทำงานของเว็บเบราว์เซอร์รองรับการใช้งาน Adobe Flash ทำให้สามารถใช้งานเล่นอินเทอร์เน็ตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีความสามารถทางด้านมัลติมีเดียอย่างกล้องหน้า-หลัง ความละเอียด 3 ล้านและ 5 ล้านพิกเซลตามลำดับ สามารถเล่นไฟล์ภาพยนตร์ความละเอียดสูง 1080p ทั้งบนตัวเครื่องและผ่านสาย HDMI สู่จอภาพอื่นๆ

สำหรับแบล็กเบอร์รี เพลย์บุ๊ก ถือเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกจากทางริม มาพร้อมหน่วยประมวลผลดูอัลคอร์ ความเร็ว 1 GHz หน้าจอมัลติทัชขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 1024 x 600 จุด ขนาดตัวเครื่อง 194 x 130 x 10 มิลลิเมตร น้ำหนัก 425 กรัม ทำงานบนระบบปฏิบัติการแบล็กเบอร์รีแท็บเล็ต ที่พัฒนาขึ้นมาบนพื้นฐานของระบบปฏิติบัติการ QNX

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

TS3Cine กล้องดิจิตอล “ไฮเดฟฯ-ไฮสปีด”

TS3Cine กล้องดิจิตอลจากบริษัท Fastec สามารถบันทึกวิดีโอด้วยภาพความละเอียดสูง 1280×720 พิกเซลที่อัตราเร็ว 720 เฟรมต่อวินาที แต่กหากเพิ่มความละเอียดเป็น 1280×1024 จะสามารถบันทึกที่อัตราเร็วได้สูงสุด 500 fps อย่างไรก็ดี ถ้าคุณไม่สนใจเรื่องความละเอียดมากนัก TS3Cine สามารถบันทึกภาพได้เร็วสูงสุดถึง 20,000 เฟรมต่อวินาทีเลยทีเดียว ตัวกล้องมาพร้อมกับหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ถึง 7 นิ้ว (เท่าๆ กับ Galaxy Tab) ดังนั้น คุณสามารถเห็นภาพวิดีโอที่กำลังบันทึก (หรือเล่น) ได้อย่างชัดเจน คุณสมบัติเหล่านี้ไม่ค่อยได้พบในกล้องไฮสปีดขั้นเทพฯสักเท่าไร ในส่วนของแบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน 3 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สตอเรจที่มาพร้อมกับเครื่องเป็น SSD ความจุ 256GB TS3Cine วางจำหน่ายในราคา 29,900 เหรียญฯ (ประมาณ 9 แสนบาท) แต่หากต้องการ SSD เพิ่มอีก 256GB จะต้องเพิ่มอีก 2 พันเหรียญฯ (ประมาณ 6 หมืนบาท) อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทได้เปิดให้เช่ากล้องรุ่นนี้ด้วยสนนค่าบริการ 500 – 600 เหรียญฯ (ประมาณ 15,000 – 18,000 บาท) ต่อวัน
ที่มา Arip

แอลจีเปิดตัวOptimus 2X จีเนียสโฟนดูอัลคอร์เครื่องแรกของโลก จับมือAISขายคู่แพ็คเกจ349บ.เดือน

แอลจี เปิดตัว “LG Optimus 2X” มือถือDual Core รุ่นแรกของโลก ฉายา"จีเนียสโฟน"ทั้งจับมือ"เอไอเอส"ขายคู่แพ็ค เกจเหมาจ่าย 349 บาท/เดือน ใช้"ไว-ไฟ"ไม่อั้น-จีพีอาร์เอส 500MB/เดือน โทร 300 นาทีนายสมศักดิ์ อธิศัยตระกูล หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เทคโนโลยี Dual Core เป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของวงการโทรศัพท์มือถือ และแอลจีเป็นแบรนด์แรกของโลกที่นำเทคโนโลยีดังกล่าว มาใช้ใน LG Optimus 2X ถือเป็น “จีเนียสโฟน” (Genius Phone) ที่เหนือสมาร์ทโฟน

โดยมาพร้อมฟีเจอร์ที่แตกต่างและเหนือกว่า อาทิ การเชื่อมต่อ HDMI (High Definition Multimedia Interface) ให้ความละเอียดระดับ Full HD และชิป Tegra 2 ที่ใช้ใน LG Optimus 2X ได้รับการพัฒนาโดยผู้ผลิตการ์ดจอชื่อดังง NVIDIA ซึ่งให้ความเร็วในการประมวลผลที่ 1GHz และใช้พลังงานน้อยลงมาก ประสิทธิภาพเหนือกว่ามือถือ Single Core อย่างเห็นได้ชัด ทั้งการท่องเว็บที่รวดเร็วขึ้น การเล่นเกม 3 มิติโดยภาพไม่กระตุก และการตอบสนองของจอสัมผัส รวมทั้งการใช้แอพพลิเคชั่น และ Multitasking ได้ไม่สะดุด

นอกจากนี้ ยังเป็นมือถือเครื่องแรกของโลกที่รองรับการบันทึกและแสดงผลระดับ Full HD (1080p) ได้สมบูรณ์แบบ พร้อมการเชื่อมต่อผ่านพอร์ท HDMI เพื่อชมคอนเทนต์ต่างๆ ในทีวี Full HD ได้ และใช้มือถือเล่นเกมผ่านทีวีได้เสมือนเครื่องคอนโซลวิดีโอเกมมาพร้อมคุณสมบัติอื่นๆ ทั้งการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับอุปกรณ์ DLNA, กล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล, ระบบเสียงเวอร์ชวลเซอราวนด์ 7.1, จอภาพ IPS LCD ความละเอียดสูง และแบตเตอรี่ 1500mAH


สำหรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อสร้างความรับรู้และสื่อสารถึงคุณประโยชน์ของ LG Optimus 2X สู่ผู้บริโภคนั้น แอลจีได้เตรียมนำเสนอภาพยนตร์โฆษณาที่แสดงสมรรถนะของหน่วยประมวลผล Dual Core และประสิทธิภาพด้านมัลติมีเดียเพื่อความบันเทิง


ด้านนางภูมิใจ กฤติยานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด สมาร์ทโฟน บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า ปัจจุบันเอไอเอสมีฐานลูกค้าที่ใช้ Super Smartphone มากกว่า 1 ล้านราย และเทรนด์การใช้สมาร์ทโฟนปีนี้คาดว่าจะเติบโตกว่า 50% และได้ร่วมมือกับแอลจีนำเสนอ LG Optimus 2X พร้อมแพ็คเกจฟรี Wifi ของเอไอเอสที่มีกว่า 15,000 จุดทั่วประเทศใช้ได้ไม่จำกัด พร้อม AIS GPRS เดือนละ 500 MB โทรเดือนละ 300 นาที นาน 12 เดือน เมื่อสมัครแพ็กเกจเดือนละ 349 บาท

นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า LG Optimus 2X ซึ่งใช้เทคโนโลยี Dual Core เป็นรุ่นแรกของโลกจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของแอลจีในตลาดมือถือในปีนี้ ทั้งยังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยผลักดันเป้าหมายการเป็น 1 ใน 3 ของผู้นำตลาดในปีนี้ได้แน่นอน

สำหรับ LG Optimus 2X วางจำหน่ายในราคา 20,900 บาท พร้อมสายเคเบิล Micro HDMI สำหรับเชื่อมต่อทีวี และการ์ดความจำภายนอก 8GB
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

"แบล็คเบอรี่"ลดราคาลงอีกรอบ ลุยเปิดตัว"เพลย์บุ๊ก"ในไทย 27 เมษาฯนี้

ในจังหวะที่ผู้บริโภคใจจดใจจ่อรอคอยการมาถึงของไอแพด2 ค่ายแอปเปิล และกับอีกแท็บเล็ตสารพัดรุ่นของยี่ห้อต่างๆ รวมถึงค่าย"ริม"กับเพลย์บุ๊กค่าย ก่อนการมาถึงของเพลย์บุ๊ก สมรภูมิแข่งขันในตลาด"สมาร์ทโฟน"ก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน

รายงานข่าวแจ้งว่า"ริม"หรือรีเสิร์ช อิน โมชั่น ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน "แบล็กเบอรี่"หรือบีบีได้ประกาศปรับราคาเครื่องรุ่น Bold 9780 ลงอีก 1,000 บาท จาก 16,900 บาท เหลือ 15,900 บาท หลังจากเมื่อต้นเดือนที่แล้ว(มี.ค.2554) ลดราคามาแล้ว 2,000 บาท ล่าสุดนอกจาก 9780 แล้วยังลดรุ่น Torch 9800 (หน้าจอสัมผัส+คีย์บอร์ด) จาก 21, 900 เหลือ 17,900 บาท คาดว่าการปรับราคาดังกล่าวก็เพื่อทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นจากราคาที่ถูกลงในช่วงเวลาที่คู่แข่งหลายยี่ห้อเริ่มทยอยนำสินค้ารุ่นใหม่ๆ ออกวางตลาด เช่น เอชทีซี รุ่น Incredible S ราคา 16,900 บาท เป็นต้น

นอกจากนี้ "ริม"ยังเตรียมนำแท็บเล็ต "PlayBook"เข้ามาวางตลาดในเมืองไทยด้วย หลังเริ่มวางขายในสหรัฐอเมริกาไปแล้วเมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 เม.ย. (ราคาเริ่มต้น 499 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 15,000 บาท) แต่กำหนดวางขายยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นเมื่อใด ซึ่งเป็นที่น่าจับตาว่าจะก่อนหรือหลังการเข้าสู่ตลาดของไอแพด 2 ค่ายแอปเปิลที่คาดการณ์กันว่าจะเข้ามาวันที่ 6 พ.ค.นี้ และถ้าเป็นจริงก็เป็นไปได้สูงยิ่งที่ Playbook จะวางขายช้า
ที่มา ประชาชาติธุรกืจ

กองทัพ "แท็บเลต" บุกไทย เปิดศึกท้าชน "ไอแพด 2" พ.ค.นี้

ขณะที่ "แอปเปิล" เปิดศึกฟ้องซัมซุงว่าก๊อบปี้เทคโนโลยีไอโฟนและไอแพด เพิ่มอุณหภูมิการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเลตของ 2 ยักษ์ใหญ่

สำหรับในตลาดเมืองไทย เดือน พ.ค.นี้ถือว่าเป็นช่วงแห่งการเปิดศึกชิงเค้กตลาด "แท็บเลต" อย่างแท้จริง เพราะตลาดจะไม่มีผู้เล่นแค่ไอแพดของแอปเปิล และกาแล็คซี่แท็บของซัมซุงเท่านั้น

นอกจากมีข่าวว่าแอปเปิลเตรียมส่ง "ไอแพด 2" เข้ามาทำตลาดในไทย ดีเดย์ 6 พ.ค.นี้ ในราคาเริ่มต้น 15,900 บาท ซึ่งเป็นราคาเดียวกับตอนเปิดตัว ไอแพด 1

แม้ว่ายังไม่มีการยืนยันจากแอปเปิลว่าไอแพด 2 จะเปิดตัวในไทย ต้นเดือน พ.ค.หรือไม่ แต่ล่าสุด "ทิม คุก" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการจาก แอปเปิล ให้สัมภาษณ์ว่า ในสัปดาห์หน้า แอปเปิลเตรียมวางจำหน่ายไอแพด 2 เพิ่มอีกกว่า 13 ประเทศ ซึ่งกำลังวางแผนเพิ่มประเทศวางจำหน่ายให้มากขึ้นภายในไตรมาสนี้ และมั่นใจว่า แอปเปิลจะสามารถผลิตไอแพดได้มากเพียงพอกับความต้องการสำหรับไตรมาสนี้ด้วย

พร้อมกันนี้ แอปเปิลได้เปิดเผยยอดขายไอแพดในไตรมาสที่ผ่านมาว่า ทั้งเวอร์ชั่นแรกและเวอร์ชั่นสองรวมกัน สามารถจำหน่ายได้ถึง 4.69 ล้านเครื่อง โดยแอปเปิลได้เริ่มวางจำหน่ายไอแพด 2 ครั้งแรกในสหรัฐ เมื่อ 11 มีนาคมที่ผ่านมา และเพิ่มเป็น 25 ประเทศ เมื่อปลายเดือนมีนาคม และจากคำพูดของซีอีโอแอปเปิลก็ทำให้เชื่อได้ว่าไอแพด 2 มีโอกาสที่จะเปิดตัวในไทยช่วงต้นเดือน พ.ค.นี้จริง และหากเป็นจริงดังที่คาดการณ์จะยิ่งเพิ่มดีกรีความร้อนแรงของการแข่งขันในสังเวียนแท็บเลตเข้าสู่ระดับที่เข้มข้นมากขึ้น

เพราะขณะนี้แท็บเลตคู่แข่งในตระกูลแอนดรอยด์และระบบปฏิบัติการอื่นๆ เตรียมทยอยลงสู่สนามในเดือน พ.ค.นี้เช่นกัน หลังจากกูเกิลพัฒนาซอฟต์แวร์แอนดรอยด์ 3.0 (Honeycomb) สำหรับแท็บเลตโดยเฉพาะออกมา

"สมชัย สิทธิชัยศรีชาติ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีรายใหญ่ในไทย กล่าวว่า บริษัทได้รับแจ้งจาก โมโตโรล่าว่าพร้อมส่งแท็บเลต "Xoom" ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.0 เข้าตลาดไทยในช่วงสิ้นเดือนเมษายนถึงต้นพฤษภาคมนี้ ขณะเดียวกันก็จะเริ่มมีแท็บเลตแบรนด์ต่าง ๆ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.0 ทยอยเข้าสู่ตลาด ส่วน "Playbook" ของริม (รีเสิร์ช อินโมชั่น) ผู้ผลิตแบล็คเบอร์รี่ คาดว่าจะเข้ามาวางจำหน่ายในไทยภายในเดือนมิถุนายนนี้

สำหรับ "เพลย์บุ๊ก" แท็บเลตขนาด 7 นิ้วของริม วางจำหน่ายครั้งแรกในสหรัฐและแคนาดา เมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา รองรับเฉพาะ Wi-Fi ความจุ 16GB ราคา 499 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 15,000 บาท อย่างไรก็ตาม กระแสของเพลย์บุ๊กยังไม่เท่ากับไอแพด เพราะด้วยคุณสมบัติและการทำงานเน้นตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายลูกค้าองค์กรธุรกิจที่ใช้สมาร์ทโฟนแบล็คเบอร์รี่เป็นหลัก ซึ่งสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างดี

นอกจากนี้ พบว่าผู้ผลิตโน้ตบุ๊กรายใหญ่อย่าง "เอเซอร์" ก็ประกาศบุกตลาดแท็บเลตเต็มตัว โดยเมื่อ 22 เมษายนที่ผ่านมา ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ "ICONIA Familly" ซึ่งประกอบด้วย แท็บเลต 2 รุ่น คือ Iconia Tab W500 ขนาด 10.1 นิ้ว ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 มาพร้อมคีย์บอร์ดแบบสไลด์ ราคา 17,900 บาท พร้อมด้วย Iconia Tab A500 ขนาด 10.1 นิ้ว บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.0 สามารถเล่นไฟล์วิดีโอแบบ Full HD ราคา 17,900 บาท (ราคาไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

พร้อมกับมีแผนวางจำหน่าย Iconia Tab A100 ขนาด 7 นิ้ว ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.0 และสมาร์ทโฟน รุ่น Iconia Smart ขนาด 4.8 นิ้ว ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 นั้น ในช่วงปลายไตรมาส 2

"บุญชัย เงาวิศิษฎ์กุล" รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์จากเอเซอร์ กล่าวว่า เอเซอร์ไม่ได้ เปิดตัวสินค้าเพื่อชนกับไอแพด 2 เพราะฟีเจอร์และฟังก์ชั่นเทคโนโลยีสเป็กสูงกว่า และยังสามารถใช้ร่วมกับโน้ตบุ๊ก พีซีได้ง่ายกว่าระบบอื่นๆ โดยเอเซอร์เลือกใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายรายมองว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการรายใหญ่ที่สุดของโลกในอนาคต

ทั้งนี้ เอเซอร์วางตำแหน่งสินค้าตระกูล Iconia สำหรับการใช้งานบริโภคข้อมูล ใช้งานอ่านหนังสือ และเพื่อความบันเทิง เสมือนเป็นอุปกรณ์เครื่องที่สอง ไม่ได้มาแทนที่โน้ตบุ๊ก พร้อมกับตั้งเป้าหมายครองส่วนแบ่ง การตลาดประมาณ 30-40% จาก ตลาดรวมแท็บเลตในไทยประมาณ 3 แสนเครื่อง และสร้างรายได้สัดส่วน 20% ของรายได้รวมกลุ่มธุรกิจโมบิลิตี้ทั้งหมด

ด้าน บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ก็เตรียมนำแท็บเลต EeePad Transformer เข้ามาวางตลาดในไทยช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้ โดย EeePad มีขนาด 10.1 นิ้ว มา พร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.0 ความจุขนาด 16GB รองรับการ ใช้งานไว-ไฟ โดยจุดเด่นของ EeePad ก็คือ Docking Station เป็นคีย์บอร์ดเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ซึ่ง ตั้งราคาขายไว้ที่ 17,900 บาท แต่ หากไม่ต้องการ Docking Station ราคาจะอยู่ที่ 14,900 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

Honeycomb เตรียมจัดส่ง มิ.ย.นี้

Regza Tablet AT300 นั้นถูกนำมาโชว์ตัวครั้งแรกในงาน CES 2011 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนั้นโตชิบาระบุเพียงว่าแท็บเล็ตตัวดังกล่าวเป็นแค่ต้นแบบที่ยังไม่ได้มีการผลิตจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในส่วนของสเปกการใช้งานทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.0, ใช้ซีพียู NVIDIA TEgra 2 ที่เป็นดูอัลคอร์ ความเร็ว 1GHz, RAM 1GB มีหน้าจอ LED backlight ความละเอียด 1,280 x 800 พิกเซล แบบ 3D Glasses-Free พร้อมกล้องตัวหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้องตัวหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สำหรับวิดีโอคอลล์ สนับสนุนไฟล์วีดีโอความละเอียดสูง 1080p พร้อมทั้งยังรองรับการใช้งานอะโดบี แฟลช และยังมาพร้อมฟีเจอร์ REGZA Apps Connect ที่ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของโตชิบาที่ใช้เทคโนโลยีนี้ในแบบไร้สายได้ มีหน่วยความจำในตัว 16 กิกะไบต์ รองรับการเชื่อมต่อ IEEE 802.11b/g/n Wi-Fi, บลูทูธ ช่องต่อ HDMI, USB, micro USB และ SD Card แบตเตอรีสามารถใช้งานได้นาน 7 ชั่วโมง มีตัวเครื่องขนาด 177 x 273 x 15.8 มม. และหนัก 765 กรัม โดยโตชิบาระบุว่ามีเริ่มจัดส่งแท็บเล็ต Regza Tablet AT300 ในประเทศญี่ปุ่นประมาณเดือนมิถุนายน ในราคา 60,000 เยน หรือประมาณ 22,000 บาท
ที่มา Manager

"เล่นเกม"สุดยอดกิจกรรมคนแท็บเล็ต

กูเกิลพบ การเล่นเกมคือกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มผู้ใช้แท็บเล็ตทั่วสหรัฐฯ ปรากฏว่ามีไม่ถึงครึ่งที่อ่านหนังสืออีบุ๊กบนแท็บเล็ต ถือเป็นผลสำรวจที่สอดคล้องกับตลาดซื้อขายแอปพลิเคชันและคอนเทนต์บนแท็บเล็ตที่ผ่านมา เนื่องจากเกมเป็นแอปฯเบอร์หนึ่งที่ทำยอดขายได้สูงสุดในกลุ่มแท็บเล็ต

แผนกเครือข่ายโฆษณาออนไลน์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ AdMob ของกูเกิลเปิดเผยผลสำรวจกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดบนแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ โดย 84% ของกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้แท็บเล็ตในสหรัฐฯจำนวน 1,400 คนระบุว่าเล่นเกมเป็นประจำ ตามมาด้วย 78% ที่นิยมค้นหาข้อมูลบนแท็บเล็ต และ 74% ระบุว่ารับส่งอีเมลด้วยแท็บเล็ตทุกวัน ทั้งหมดนี้คือ 3 กิจกรรมยอดนิยมของเจ้าของแท็บเล็ตในสหรัฐฯ

การขึ้นแท่นกิจกรรมยอดฮิตของการเล่นเกมนั้นถูกตั้งข้อสังเกตว่าไม่น่าแปลกใจ เนื่องจากคุณภาพการแสดงผลเกมบนหน้าจอทัชสกรีนของแท็บเล็ตนั้นน่าดึงดูดสูง แถมพัฒนาการของแท็บเล็ตรุ่นหลังก็ส่งเสริมให้การแสดงผลเกมบนแท็บเล็ตเป็นไปอย่างสวยงามสมจริงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการติดตั้งชิปประมวลผลภาพกราฟิกเพื่อคุณภาพที่ดีกว่าเดิม

ที่สำคัญ อุตสาหกรรมเกมบนแท็บเล็ตนั้นมีการพัฒนาและการแข่งขันจนทำให้เกมบนแท็บเล็ตมีราคาไม่แพง และเปิดให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดอย่างแพร่หลายผ่านร้านค้าออนไลน์จำนวนมาก

นอกจากกิจกรรมยอดฮิต 3 อันดับแรก Admob ยังพบว่ากิจกรรมยอดนิยมอันดับ 4 คือการอ่านข่าว (61%) อันดับ 5 คือการใช้งานเครือข่ายสังคม (56%) อันดับที่ 6 คือการใช้แท็บเล็ตเพื่อฟังเพลงหรือดูวิดีโอ (51%)

สำหรับการอ่านหนังสือนั้นตกเป็นกิจกรรมที่ถูกทำบนแท็บเล็ตอันดับ 7 โดยการสำรวจพบว่าราว 46% เท่านั้นที่อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (eBook) สูงกว่าการชอปปิ้งออนไลน์ (42%) เพียงเล็กน้อย

ข้อมูลระบุว่า Admob ดำเนินการสำรวจครั้งนี้ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยพบว่าผู้ใช้แท็บเล็ตมากกว่า 59% ใช้เวลาบนแท็บเล็ตมากกว่าการอ่านหนังสือเล่มกระดาษ หากไม่ใช่แท็บเล็ต กลุ่มตัวอย่าง 52% ระบุว่าใช้เวลากับวิทยุ รองลงมาคือ 43% ใช้เวลากับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลทั้งแบบตั้งโต๊ะและพกพา ขณะที่ 41% ระบุว่าอยู่กับสมาร์ทโฟน มากกว่า 34% ที่ระบุว่าอยู่กับทีวี

Admob ยังพบว่าผู้ใช้แท็บเล็ตในสหรัฐฯมากกว่า 38% ที่ใช้นิ้วแตะหน้าจอแท็บเล็ตเป็นเวลามากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน อีก 30% บอกว่าใช้เวลาราว 1-2 ชั่วโมงต่อวัน โดยในเชิงสถานที่ 82% ของอเมริกันชนผู้ครอบครองแท็บเล็ตนั้นใช้งานกระดานชนวนไฮเทคที่บ้าน เพียง 11% เท่านั้นที่ใช้งานระหว่างเดินทาง และ 7% ใช้งานที่ทำงาน

ที่น่าสนใจคือ 28% ของกลุ่มตัวอย่างระบุว่าแท็บเล็ตกลายเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องหลัก โดย 69% ระบุว่าใช้แท็บเล็ตมากขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และ 77% ระบุว่าใช้งานคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปและแล็บท็อปน้อยลงเมื่อมีแท็บเล็ตในครอบครอง

ผลสำรวจเหล่านี้ถูกเปิดเผยท่ามกลางข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับแท็บเล็ตมากมาย เช่น โรงเรียนระดับอนุบาลในสหรัฐฯออกแถลงการเริ่มโครงการนำร่องในการใช้ไอแพดจะเป็นหนังสือเรียนของเด็กชั้นอนุบาล ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเสริมการเรียนรู้ของเด็กได้ดีกว่าเดิมแม้จะถูกต้านจากกลุ่มอนุรักษ์นิยม นอกจากนี้ ยังมีข่าวการเริ่มวางจำหน่ายของแท็บเล็ตหลายรุ่นหลายยี่ห้อในร้านค้าปลีกชื่อดังของสหรัฐฯ อย่างเบสต์บาย ทั้งเอเซอร์และโตชิบาที่จะวางจำหน่ายแท็บเล็ตของตัวเองในช่วงสัปดาห์นี้

นี้คือสิ่งตอกย้ำว่าแท็บเล็ตกำลังเป็นสินค้าสำหรับผู้บริโภคในวงกว้าง ทั้งในเชิงการจำหน่ายและเชิงการใช้งาน
"เล่นเกม" คือกิจกรรมยอดนิยมของผู้ใช้แท็บเล็ตในสหรัฐฯ
แท็บเล็ตจากเอเซอร์ Acer Iconia Tab ซึ่งมีคิววางจำหน่ายในเบสต์บาย สัปดาห์นี้
Asus Transformer แท็บเล็ตจากอัสซุส
ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

Fuuvi Pick กล้องทอยตัวจิ๋ว ใช้เป็นแฟลชไดร์ฟในตัว ความจุ 16 GB

Fuuvi Pick กล้องทอยดิจิตอลขนาดเล็กกะทัดรัด สีสันสดใส สะดวกในการพกพาด้วยขนาด 35 x 70 x 15 มิลลิเมตร น้ำหนักเบาเพียง 24 กรัม เลนส์กล้องมีความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล บันทึกได้ทั้งภาพนิ่ง และวีดีโอ มาพร้อมหัวต่อแบบ USB ในตัว สำหรับเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ เพื่อถ่ายโอนไฟล์ และ ชาร์จแบตเตอรี่ หรือใช้เป็นแฟลชไดร์ฟ เก็บข้อมูลด้วยการ์ดหน่วยความจำ MicroSD โดยรองรับการ์ดความจุสูงสุด 16 GB ราคาประมาณ 1,800 บาท

Fuuvi Pick กล้องทอยตัวจิ๋ว ใช้เป็นแฟลชไดร์ฟในตัว ความจุ 16 GB
ที่มา siamphone

เอซุสส่งสุดยอดเน็ตบุ๊กแพลตฟอร์มล่าสุดของ AMD Brazos

เอซุส ขอเสนอสุดยอดเน็ตบุ๊กรุ่น Eee PC 1015B และ 1215B บนแพลตฟอร์มรุ่นใหม่ล่าสุดของ AMD Brazos พร้อมเทคโนโลยี Super Hybrid Engine ลิขสิทธิ์เฉพาะของเอซุสผสมผสานกับฟีเจอร์ช่วยประหยัดพลังงานของ APU AMD Fusion ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานถึง 8.5 ชั่วโมง ASUS Eee PC 1015B และ 1215B บนแพลตฟอร์มรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง AMD Brazos สามารถลดการใช้พลังงาน และเพิ่มอัตราเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่าง CPU และ GPU ด้วยการรวมไว้บนชิปเซ็ตเดียวกันพิเศษสุดด้วยเทคโนโลยีกราฟิก DirectX11 ให้ภาพเคลื่อนไหวสามมิติคมชัดยิ่งกว่า เพื่อประสบการณ์การเล่นเกม และมัลติมีเดียโดยเฉพาะ รวมถึงพอร์ต HDMI เพื่อการแสดงผลระดับ HD ขนาด 1080p บนหน้าจอขนาดใหญ่อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ASUS Eee PC 1015B และ 1215B มีเทคโนโลยี Super Hybrid Engine ลิขสิทธิ์เฉพาะของเอซุส ที่ผสมผสานกับฟีเจอร์ที่ช่วยประหยัดพลังงานของ APU AMD Fusion ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานถึง 8.5 ชั่วโมง เพื่อการใช้งานได้อย่างต่อเนื่องตลอดวันโดยไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่ เชื่อมต่อสังคมออนไลน์ได้ดั่งใจด้วยกล้องเว็บแคมในตัว และพอร์ตเชื่อมต่อหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 เพื่อการถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วกว่า USB 2.0 ถึงสิบเท่า Bluetooth 3.0 และ 802.11n Wi-Fi เชื่อมต่อแบบไร้สายได้ตามต้องการ สำหรับคุณสมบัติการใช้งาน แต่ละรุ่นจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันโดย Eee PC 1015B มีขนาด 10 นิ้ว มาพร้อมหน่วยประมวลผล AMD C-50 Dual-core ขนาด 1.0GHz และ GPU AMD Radeon HD6250 ส่วน Eee PC 1215B มีขนาด 12 นิ้ว มาพร้อมหน่วยประมวลผล AMD E-350 Dual-core ขนาด 1.6 GHz และ GPU AMD Radeon HD6310 เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้ตรงตามความต้องการ เอซุสส่งสุดยอดเน็ตบุ๊กแพลตฟอร์มล่าสุดของ AMD Brazos สุดยอดเน็ตบุ๊ก ASUS Eee PC 1015B และ 1215B พร้อมให้คุณสัมผัสแล้ววันนี้ ที่ตัวแทนจำหน่ายเอซุสทั่วประเทศ ในราคา 8,990 และ 14,900 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) หรือดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ www.asus.co.th
ที่มา siamphone

Sony เตรียมออก Tablet จอ 9.4 นิ้ว ออกแน่เร็วๆนี้

หากพูดถึงสินค้าเครื่องเสียง ทีวี และโน๊ตบุ๊ค แน่นอนว่าหากมองในตลาดกลุ่มบนๆจะต้องมีชื่อของยี่ห้อ Sony ปรากฎขึ้นมาในหัวของใครหลายๆคน เพราะ Sony เองค่อนข้างมีชื่อเสียงเรื่องการออกแบบที่ดูทันสมัยและแตกต่างจากสินค้า ยี่ห้ออื่นๆ ความเนี๊ยบในหลายๆจุดทำให้สินค้าของ Sony สามารถตั้งราคาได้แพงและแตกต่างจากคู่แข่งขัน แม้ว่าในตอนนี้สินค้าจากเกาหลีจะมาแรงก็ตาม แต่เรื่องของการออกแบบนั้น Sony ถือว่าออกแบบได้สวยโดนใจลูกค้ามากทีเดียว เสียตรงที่ตั้งราคาสินค้าแพงไปสักหน่อย การออกแบบสินค้าหลายๆอย่างของ Sony ไม่ว่าจะเป็น Notebook หรืออุปกรณ์ IT อื่นๆนั้น ทำได้ค่อนข้างสวยงามจนมีคนเปรียบว่า ถ้ามองการออกแบบที่ดูเนี๊ยบใช้แล้วดูหรู ทางฝั่งอเมริกาและยุโรปคงต้องยกให้กับ สินค้าของ Apple แต่หากฝั่งเอเซีย Sony ถือว่าได้คะแนนค่อนข้างเยอะ
และเราเคยสงสัยไหมครับว่า Sony มี Notebook แล้วจะมี Tablet ออกมาขายด้วยหรือไม่ ซึ่งข่าวล่าสุดทาง Chief executive ของทาง Sony คือ Sir Howard Stringer ได้ออกมายืนยันแล้วว่า Sony กำลังเตรียมทำ Tablet ออกมาขายตามกระแสโลกไอที โดยจะใช้ระบบปฎิบัติการ แอนดรอยด์ 3.0 ซึ่งกำหนดจะออกจำหน่ายช่วงปลายซัมเมอร์ใน อเมริกา โดยจะเริ่มทำตลาดใน อเมริกา ก่อนที่จะไปประเทสอื่นๆ โดยหน้าตาตัวเครื่องจะออกมาในรูปแบบใดนั้นยังไม่มีข้อมูลหลุดออกมา นอกจากข่าวอย่างไม่เป็นทางการ ว่า Tablet ของ Sony นั้นจะมีขนาดหน้าจอประมาณ 9.4 นิ้ว จอ capacitive touch panel sporting a 1,280 x 800 pixel ใช้ชิพประมวลผล Tegra 2 processor มีกล้องทั้งด้านหน้าและหลัง และที่แปลกไปกว่า Tablet รุ่นอื่นๆก็คือ ทาง Sony จะทำช่อง อินฟราเรด มาให้ด้วย เพื่อจุดประสงค์ในการใช้งานเครื่อง Tablet เป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องเสียงอื่นๆภายในบ้านของทาง Sony โดยจะมี Software ควบคุมการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เช่นการควบคุมการทำงาน LCD TV ของทาง Sony ส่วนการเชื่อมต่ออื่นๆไม่ว่าจะเป็น WiFi +BT นั้นยังคงมีแบบใน Tablet รุ่นอื่นๆ
หากลอง มองย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน จริงๆ Sony ทำอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพามาแล้วหนหนึ่งกับ เครื่องประเภท UMPC ซึ่งในช่วงเวลานั้นดูเหมือน UMPC กำลังจะเริ่มแจ้งเกิดแต่ก็ดับไปแบบฝังไม่ต้องขุด เพราะเนื่องจากเทคโนโลยียังมาไม่ถึง โดยเฉพาะเรื่องแบตเตอรี่ และระบบปฎิบัติการที่ยังคงใช้ Windows รุ่นปกติและด้วยราคาเครื่องที่ทั้งแพงและใช้งานไม่สะดวกคล่องตัว จึง ทำให้เครื่อง UMPC ของทาง Sony ที่ออกแบบดูทันสมัยแตกต่างแต่ก็ไม่รอด แต่สำหรับ Tablet เองนั้น น่าจะไปได้สวย เพราะมีกลุ่มตลาดที่คุ้นเคยกับสินค้า Tablet รออยู่แล้วไม่จำเป็นต้องให้ความรู้กับผู้ใช้อะไรมากนัก เพียงแต่ว่า ราคาคือสิ่งสำคัญของแบรนด์ยี่ห้อนี้ โดยส่วนใหญ่สินค้าของ Sony ที่เราเห็นๆกันเค้ามักจะตั้งราคาสูงอยู่แล้ว และเจาะตลาดกลุ่มบนเป็นหลัก คงต้องรอดูกันว่า Tablet ตัวแรกของ Sony นั้นราคาจะแพงตามอย่างที่คาดหรือไม่

ที่มา sanook

ซัมซุงเชื่อกลไกตลาด หั่นราคา"กาแล็กซีแท็บ"

Samsung Galaxy Tab


ซัมซุงแจงเหตุปรับราคา กาแล็กซี แท็บ (Galaxy Tab) แท็บเล็ตรุ่นแรกที่ซัมซุงวางจำหน่ายมาแล้วราวครึ่งปี ล่าสุดปรับลดราคาเหลือ 14,900 บาท ชี้เป็นไปตามกลไกตลาด เนื่องจากเป็นไลน์สินค้าใหม่ รวมกับปัจจัยการผลิตทำให้การควบคุมราคาทำได้ค่อนข้างยาก

นายวิชัย พรพระตั้ง ผู้อำนวยการธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวถึงการปรับลดราคาครั้งล่าสุดของกาแล็กซี แท็บ ทำให้มีกระแสตอบรับในเชิงลบกับการตั้งราคาสินค้าของซัมซุง แต่เชื่อว่าเป็นไปตามกลไกตลาดที่ตลาดมีความต้องการมากขึ้นจำนวนการผลิตจึงเพิ่มขึ้นตาม

"กาแล็กซี แท็บ ถือเป็นสินค้าไลน์ใหม่ที่เข้ามาในตลาด ส่งผลให้จำนวนการผลิตเพื่อจำหน่ายในช่วงแรกมีไม่มากนัก เนื่องจากยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าตัวแท็บ จะได้รับความนิยมหรือไม่ แต่เมื่อมีการจำหน่ายมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง กระแสตอบรับดีขึ้นทั่วโลก การผลิตสินค้าลอตใหม่ในจำนวนที่มากขึ้น ก็ทำให้ตัวสินค้ามีต้นทุนถูกลง"

โดยซัมซุงยอมรับว่า การปรับลดราคาครั้งล่าสุดที่ 14,900 บาทนั้น ถือเป็นการรุกตลาดเข้าไปในกลุ่มที่ให้ความสนใจกับแท็บเล็ต และมีความต้องการอยู่ก่อนแล้ว ตัวเครื่องจึงไม่มีการนำไปผูกเข้ากับโปรโมชันของผู้ให้บริการเครือข่าย ส่งผลให้โอเปอเรเตอร์ไม่ต้องมีการซับซีไดส์ราคาแพ็กเกจ

"ในช่วงที่เปิดจำหน่ายกาแล็กซี แท็บในราคา 18,900 บาท ทั้งกับทางทรูมูฟและเอไอเอส ลูกค้าจะได้แพ็กแกจในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วย แต่การปรับลงมาเหลือ 14,900 บาท เป็นการโฟกัสไปยังกลุ่มที่พร้อมเสียค่าแพ็คแกจอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว และกำลังมองหาแท็บเล็ตไปใช้งาน"

ความคืบหน้าล่าสุดของกลุ่มผู้บริโภคที่มีการเรียกร้องให้ทางซัมซุงออกมารับผิดชอบในการปรับลดราคากาแล็กซี แท็บในครั้งนี้ คือจะมีการรวมกลุ่มกันในช่วงวันที่ 12 เมษายน 2554 เพื่อเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มผู้บริหาร โดยมีทีมงานผู้จัดงานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป เป็นผู้ช่วยประสานงาน ซึ่งทางซัมซุงก็พร้อมที่จะเข้าไปพูดคุยเพื่อหาทางแก้ปัญหาต่อไป

"เรายินดีที่จะแก้ไขปัญหาเป็นกรณีไป เนื่องจากมีผู้ที่ร้องเรียนเข้ามาอาจมีปัญหาไม่เหมือนกัน แต่ยืนยันว่าทางซัมซุงพร้อมพูดคุยกับลูกค้า เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด"

นอกจากนี้ยังได้ให้ข้อมูลความคืบหน้าถึงการนำ กาแล็กซี แท็บรุ่นหน้าจอ 8 นิ้ว และ 10.1 นิ้ว ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ในฐานะที่เป็นแท็บเล็ตที่บางที่สุดในโลกเพียง 8.6 มม. ว่ากำลังอยู่ในช่วงที่ดำเนินการ เนื่องจากต้องดูว่าจะนำตัวเครื่องที่รองรับเครือข่าย 3G ในคลื่นความถี่ใด เข้ามาทำตลาดร่วมกับโอเปอเรเตอร์ ขณะเดียวกันยังไม่ยืนยันว่าจะนำรุ่นที่รองรับเพียงการเชื่อมต่อไวไฟเข้ามาจำหน่ายด้วยหรือไม่

ส่วนกรณีที่ลูกค้าซื้อกาแล็กซี แท็บ รุ่นไวไฟ แล้วพบว่าสเปกสินค้า ไม่ตรงกับที่มีการประชาสัมพันธ์ออกมา ทางซัมซุงกำลังอยู่ในช่วงการดำเนินการหาทางช่วยเหลือผู้ที่ซื้อสินค้าไป เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนที่ใช้ในการผลิต แต่ยืนยันว่าจะมีมาตรการออกมาเยียวยา

จากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ทำให้ซัมซุงถือเป็นผู้จำหน่ายแท็บเล็ต รายแรกที่ยอมเปิดใจคุยกับผู้บริโภค ถึงสาเหตุในการปรับลดราคา ต่างกับแบรนด์ที่เป็นผู้นำในตลาดแท็บเล็ต ที่แม้มีการปรับลดราคา และมีเงื่อนไขคืนเงินส่วนต่างให้แก่ผู้ที่ซื้อสินค้าก่อน 2 สัปดาห์ แต่เงื่อนไขดังกล่าวไม่ครอบคลุมถึงไอสตูดิโอ ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย

โดยล่าสุดทางศูนย์ไอสตูดิโอในประเทศไทย ได้มีการประกาศปรับลดราคา ไอแพด ลงอีกหนึ่งรอบในช่วงราคา 200 - 2,500 บาท ทำให้ ไอแพด รุ่น Wi-Fi 16 GB ลงมาอยู่ที่ 12,700 บาท (จาก 12,900 บาท) และรุ่น 3G Wi-Fi 64 GB ที่ 20,400 บาท (จาก 22,900 บาท)
นายวิชัย พรพระตั้ง ผู้อำนวยการธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด
ซัมซุงเชื่อกลไกตลาด หั่นราคา"กาแล็กซีแท็บ"
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

iPad 2 อาจจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย เดือนพฤษาคมนี้

จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ที่ทางเราได้ข้อมูลมา รวมกับระยะเวลาเปิดตัวเมื่อเทียบกับ iPhone 4 คือประมาณ 3 – 4 เดือน หลังจากที่เปิดตวในอเมริกา ทำให้มีโอกาสที่เป็นไปได้สูงว่า iPad 2 จะพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการและวางขายในไทย ประมาณเดือนพฤษาคมที่จะถึงนี้ และสำหรับงานเปิดตัวก็คงไมพ้นที่เดิมๆ เซ็นทรัลเวิร์ล / เอสพลานาส หรือไม่แน่อาจจะเปลี่ยนไปใช้ร้าน iStudio ที่ดูหรูๆ นอกจาก 2 ห้างดังก็เป็นไปได้แน่นอนว่าหากใครไม่รีบนัก แนะนำให้รอกันไปก่อนกับ iPad 2 เพราะถ้าหากเราซื้อตอนนี้คงจะซื้อได้เฉพาะเครื่องหิ้วเท่านั้น แน่นอนว่าประกันศูนย์ก็ไม่มีแถมยังราคาแพงกว่าอีกหลายพันบาทอีก สุดท้ายย้ำกันอีกครั้ง ใครรอได้ก็รอกันไปก่อน แต่สำหรับใครที่มีเงินถุงเงินถังจะซื้อตอนไหน ก็คงไม่มีใครว่าอะไรอยู่แล้ว iPad 2 อาจจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย เดือนพฤษาคมนี้
ที่มา SpecPhone

Fujitsu Lifebook S761 ขนาดเล็กบางเบาแต่สเปกแรงสะใจ

Lifebook S761 มาพร้อมจอภาพขนาด 13.3 นิ้ว เน้นการพกพาตามสไตล์ S Series รองรับ ExpressCard, SIM card slots, USB 3.0 และ 2.0 ports จอภาพก็มาพร้อมพอร์ต HDMI ,VGA-out และ WIDI คีย์บอร์ดกันน้ำ spill-resistant ,ShockSensor, fingerprint reader, Trusted Platform Module (TPM), โดยสเปกนั้นก็มาพร้อม ซีพียู Sandy Bridge Intel Core i7-2620M แรม 8GB ฮาร์ดดิสค์ก็เป็น 128GB แบบ SSD น้ำหนักก็เรียกได้ว่าเบาทีเดียวเพียง 1.66kg แบตเตอรี่ 6-cell รองรับการใช้งานได้นานถึง 11.5 ชั่วโมง หรือสามารถเพิ่มไปได้อีกถึง 16.5 ชั่วโมง ด้วยแบตเตอรี่เริ่ม 3-cell ส่วนราคานั้นยังไม่เปิดเผยออกมา
Fujitsu Lifebook S761 ขนาดเล็กบางเบาแต่สเปกแรงสะใจ
ที่มา NotebookSpec

บันทึกวิดีโอ 360 องศาบน iPhone 4

GoPano Micro เป็นอุปกรณ์เสริมที่มาพร้อมกับแอพที่จะทำให้ iPhone 4 ของคุณสามารถบันทึกวิดีโอแบบ 360 องศาได้ โดยดีไซน์ของ GoPano จะใช้เลนส์พิเศษลักษณะเป็นกรวยพลาสติกที่ต่อเข้ากับเคส iPhone 4 สามารถรับภาพได้โดยรอบ โดยภาพที่รับมาจะชุดเลนส์ดังกล่าวจะส่งผ่านเข้าไปยังเลนส์ของกล้องด้านหลังของ iPhone 4 และควบคุมมุมมองผ่านแอพอีกทีหนึ่ง ผู้ใช้สามารถเลือกมุมมองที่ต้องการบันทึกจากกล้อง GoPano Micro ได้ด้วยการใช้นิ้วสัมผัสบนหน้าจอเลื่อนไปทางซ้าย หรือขวาในแบบพาโนรามารอบทิศ GoPano Micro ทำให้คุณได้อารมณ์ในการบันทึกวิดีโอแบบเดียวกับภาพยนต์ยังไงยังงั้น อย่างไรก็ตาม GoPano ยังไม่สามารถทำออกมาวางจำหน่ายได้ โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการระดมทุนบนเว็บไซต์ Kickstarter ตั้งเป้าไว้ที่ 20,000 เหรียญฯ ซึ่งใครที่ช่วยสมทบทุน 50 เหรียญฯ จะได้ GoPano Micro ไปหนึ่งชุด (100 เหรียญฯได้ 2 ชุด) โดยทางทีมงานคาดว่า หาก GoPano ได้รับการผลิตจริงๆ จะวางจำหน่ายในราคาอยู่ที่ 80 เหรียญฯ หรือประมาณ 2,500 บาท บันทึกวิดีโอ 360 องศาบน iPhone 4
ที่มา Arip

Samsung Galaxy Tab WiFi เล่นเน็ตก็ได้ ให้ความบันเทิงก็ดี

Samsung Galaxy Tab WiFi เล่นเน็ตก็ได้ ให้ความบันเทิงก็ดี Samsung Galaxy Tab WiFi (รหัสรุ่น P1010) ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สำหรับคนใช้ชีวิตในเมือง มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 2.2 Froyo หน่วยประมวลผล ARM Cortex A8 ความเร็ว 1 GHz รองรับการใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi จอแสดงผล ระบบสัมผัส กว้าง 7 นิ้ว สนับสนุนความบันเทิงสมบูรณ์แบบทั้งเครื่องเล่นเพลง เครื่องเล่นวีดีโอ Full HD 1080p กล้องถ่ายรูป ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล บันทึกได้ทั้งภาพนิ่งและเคลื่อนไหว ราคาเปิดตัว 11,900 บาท คุณสมบัติ Samsung Galaxy Tab WiFi (รหัสรุ่น P1010) จอแสดงผล TFT LCD 16.7 ล้านสี ระบบสัมผัส Capacitive - ความละเอียด 1024 x 600 พิกเซล กว้าง 7 นิ้ว ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 2.2 Froyo หน่วยประมวลผล RM Cortex A8 ความเร็ว 1 GHz หน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิค PowerVR SGX540 หน่วยความจำ RAM 512 MB หน่วยความจำภายใน 16 GB หน่วยความจำภายนอก microSD card สูงสุด 32 GB ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Build-In GPS navigation) กล้องดิจิตอล ความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล พร้อม ไฟแฟลช LED - ขนาดภาพถ่ายสูงสุด 2048 x 1536 พิกเซล - ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ (Auto Focus) บันทึกวีดีโอ ความละเอียด 720 x 480 พิกเซล (30 เฟรมต่อวินาที) กล้องตัวที่สอง (Secondary Camera) ความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11b/g/n - Bluetooth 3.0 รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth Stereo) เครื่องเล่นเพลง รองรับไฟล์ MP3, AAC, OGG, WMA, AMR-NB/WB, FLAC, WAV, AC3, MIDI เครื่องเล่นวีดีโอ รองรับไฟล์ DivX, XviD, MPEG4, H.263, H.264
ที่มา Siamphone

Nav7 Windows tablet เปิดให้สั่งจองแล้ว

Nav7 Windows tablet เปิดให้สั่งจองแล้ว Nav7 Windows tablet สเปคพื้นฐาน คือ แรม 1 GB ฮาร์ดดิสก์ SSD 16 GB มี WiFi, Bluetooth, USB จำนวน 2 ช่อง, Ethernet แต่ว่าในราคา 649 เหรียญนี้จะไม่มี Windows 7 แต่จะต้องเพิ่มเงินเป็น 749 เหรียญ ราว 22,700 บาท จะได้เป็น Windows 7 Home Premium ในส่วนของฮาร์ดดิสก์สามารถเลือกความจุได้ คือ 32 และ 64 GB แรมก็สามารถเลือกได้เช่นกันคือ 2 GB และเลือกติดตั้งให้รองรับระบบเครือข่าย 3G ราคาที่เลือกสเปคสูงสุดจะอยู่ที่ 1249 เหรียญ ราว 37,900 บาท Nav7 ยังไม่ใช่แท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ที่ถูกที่สุดในตอนนี้ แต่ทางบริษัทจะชี้ให้เห็นว่าเราสามารถให้ผู้ซื้อมีตัวเลือกในการปรับแต่งได้มากและเป็นแท็บเล็ตอีกหนึ่งตัวที่เป็นจอ 7 นิ้วที่ใช้ Windows 7 ที่มา NotebookSpec