วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

แคนนอนเผยราคา 600D, 1100D ก่อนขายจริงสัปดาห์หน้า

แคนนอน มาร์เก็ตติง ประเทศไทย (จำกัด) เปิดตัวกล้อง DSLR รุ่นล่าสุด EOS 600D และ 1100D พร้อมฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ในระดับเอนทรีเลเวลโดยจะวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 19,900 บาท

นายสมรภูมิ เสนคำสอน ผู้เชี่ยวชาญกล้องดิจิตอลแคนนอน ดีเอสแอล์อาร์ กล่าวว่า EOS 600D และ 1100D เป็นกล้องดิจิตอลที่แคนนอนพัฒนาขึ้นมาใหม่ โดยผสานเทคโนโลยีของกล้องรุ่นพี่ เข้ากับฟีเจอร์ใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ของกล้องทั้ง 2 รุ่น รวมถึงความสามารถในการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงลงไป เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่กำลังมองหากล้องดีเอสแอลอาร์เป็นตัวแรก หรือผู้ที่ใช้งานกล้อง DSLR อยู่เดิมที่ต้องการอัปเกรดเทคโนโลยีใหม่ "EOS 600D ผลิตขึ้นมาเพื่อต่อยอดความสำเร็จของกล้องรุ่น 500D ที่เปิดตัวใหม่เมื่อปี 2552 โดยได้มีการเพิ่มในส่วนของฟีเจอร์ A+ หรือ Scene Intelligent Mode เข้ามาซึ่งช่วยให้ภาพถ่ายที่ได้มีความสว่าง คมชัด และให้สีภาพที่เข้มมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้มีการเพิ่มความสามารถในการบันทึกวิดีโอความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ที่ 30fps ที่ให้คุณภาพภาพระดับ Full HD ลงไป"

นอกจากนี้ยังได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ Movie Digital Zoom ที่ช่วยเพิ่มกำลังซูมให้กับเลนส์ที่ใช้ 3-10 เท่า โดยไม่ลดคุณภาพของภาพวิดีโอ, Video Snap Shot ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถบันทึกวิดีโอช็อตสั้นๆ (ความยาว 2, 4, 8 วินาที) ลงไปในโฟลเดอร์ในตัวกล้อง เลือกใส่ Background Music เพื่อสร้างสไลด์โชว์จากบนตัวกล้อง โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมตัดวิดีโอบนคอมพิวเตอร์, มี Creative Filter ที่มาพร้อมโหมดถ่ายภาพ Soft Focus, Miniature Effect, ภาพขาว-ดำ, Toy Camera ซึ่ง EOS 600D ถือเป็นกล้อง DSLR รุ่นแรกของแคนนอนที่มาพร้อมความสามารถในการถ่ายภาพฟิซอาย ซึ่งก่อนหน้านี้ฟีเจอร์ดังกล่าวมีอยู่ในเฉพาะกล้องคอมแพกต์ตระกูล IXUS เท่านั้น

สำหรับฟีเจอร์พื้นฐานนั้น EOS 600D ใช้เซ็นเซอร์แบบ APS-C Sensor ความละเอียด 18 ล้านพิกเซล ซึ่งทำงานร่วมกับระบบประมวลผล Digic 4 มีหน้าจอแบบ Vari-Angle ที่ปรับหมุนได้ขนาดกว้าง 3 นิ้ว สามารถถ่ายภาพที่สัดส่วน 3:2, 4:3, 1:1 และ 16:9, ค่าความไวแสง (ISO) 100-6400, Auto Focus 9 จุด, ระบบวัดแสง 63 จุด และรองรับหน่วยความจำแบบ SD, SDHC และ SDXC โดยจะเริ่มวางจำหน่ายช่วงต้นสัปดาห์หน้า (28 มีนาคม 2554) ในราคา 29,990 บาท พร้อมเลนส์ 18-55IS และ 38,900 บาท พร้อมเลนส์ 18-135

ในส่วนของ EOS 1100D นั้นผลิตขึ้นมาเพื่อต่อยอดความสำเร็จของกล้อง EOS 1000D และถือเป็นกล้อง DSLR รุ่นแรกจากแคนนอนที่ได้มีการแต่งแต้มสีสันลงไปบนตัวกล้อง มีสีให้เลือก 4 สีคือ ดำ, เทา, น้ำตาล และแดงเมททาริกซ์

"EOS 1100D นั้นได้มีการเพิ่มความละเอียดของภาพถ่ายลงไปจากเดิมในรุ่น 1000D ที่มีเพียง 10 ล้านพิกเซล ให้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 12.2 ล้านพิกเซล, ค่าความไวแสงจาก 100-1600 เพิ่มขึ้นเป็น 100 - 6400 ใช้หน่วยประมวลผล Digic 4 (จากเดิมใช้ Digic 3), มีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 2.7 นิ้ว และรองรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวความละเอียด 1280x720 พิกเซล ที่ 30 fps"

Canon EOS1100D คาดว่าจะวางจำหน่ายในช่วงปลายเดือนเมษายนในราคา 19,990 บาท พร้อมเลนส์ 18-55is

"ในส่วนของกล้องดิจิตอลรุ่นอื่นๆ ที่จะออกมาวางจำหน่ายในปีนี้ จะมีงานเปิดตัวอีกครั้งในเดือนเมษายน" นายสมรภูมิกล่าว
แคนนอนเผยราคา 600D, 1100D ก่อนขายจริงสัปดาห์หน้า
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554

ฟูจิฟิล์มขาย X100 ราคาที่32,990บาท

กลาง - นายสิทธิเวช เศวตรพัชร์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอล อิมเมจจิ้ง บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด
ฟูจิฟิล์มรุกตลาดกล้องดิจิตอลในกลุ่มไฮเอนด์ หวังยกระดับภาพพจน์แบรนด์สินค้า เปิดตัว Finepix X100 กล้องดิจิตอลตัวเรือธงแห่งปี ที่มีดีไซน์คลาสิกและมีประสิทธิภาพสูง ระบุผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น โดนโรงงานเต็มๆ เชื่อสินค้ามีคุณภาพพอลูกค้ารอได้

นายสิทธิเวช เศวตรพัชร์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอล อิมเมจจิ้ง บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัว Finepix X100 ถือเป็นการสร้างภาพพจน์แบรนด์ฟูจิฟิล์มให้แก่ลูกค้า เนื่องจากเป็นกล้องระดับพรีเมียมที่มีประสิทธิภาพการใช้งานสูง โดยใช้เทคโนโลยีที่ฟูจิฟิล์มพัฒนาขึ้นมาเอง อีกทั้งยังเป็นกล้องที่ได้รับการโหวตว่าเป็นกล้องดิจิตอลที่น่าสนใจมากที่สุดในงานโฟโตกีน่า ประเทศเยอรมันในปีที่ผ่านมา
Finepix X100 ใช้เซ็นเซอร์ภาพแบบ APS-C CMOS ความละเอียด 12.3ล้านพิกเซล พร้อมช่องมองภาพแบบไฮบริดที่พัฒนาช่องมองภาพให้สามารถใช้งานได้ทั้งแบบ Optical View finder และ Electronic Viewfinder ใช้เลนส์ฟูจินอน ความยาวโฟกัส 23มม.(เทียบเท่าเลนส์ 35 มม.) F2.0-F16 และใช้วิธีปรับค่าแบบ Manual ที่หน้าเลนส์

นอกจากนี้ยังรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด High Definition สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุด 5 ภาพต่อวินาที วางจำหน่ายในราคา 32,990 บาท โดยไทยถือเป็นประเทศที่ 3 ที่มีการเปิดตัวกล้อง X100 หลังจากญี่ปุ่น และจีน

นายสิทธิเวช กล่าวถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหว และคลื่นสึนามิถล่มที่เมืองเซนได ประเทศญี่ปุ่นว่า ฟูจิฟิล์มได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากออฟฟิศในเซนไดเป็นสถานที่ที่ฟูจิฟิล์มใช้ในการวิจัยและพัฒนากล้องฟูจิ ซึ่งแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวส่งผลให้กระบวนการผลิตขัดข้อง ขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบความเสียหายได้ เนื่องจากต้องรอให้รัฐบาลอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุก่อน

"น่าเสียดายที่กล้องดิจิตอล X100 ผลิตในโรงงานที่ได้รับผลกระทบนี้ด้วย จึงทำให้ไม่สามารถทำสินค้าเข้ามาขายในเมืองไทย และประเทศอื่นๆ ได้ ซึ่งคาดว่าน่าจะประมาณกลางเดือนเมษายน จะเริ่มมีสินค้าเข้ามาขายให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการสินค้า โดยก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น ฟูจิฟิล์มได้นำกล้องรุ่นดังกล่าวเข้ามาเพื่อขายในงานคอมมาร์ต 2011ที่เพิ่งผ่านไปเพียง 100 ตัว สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าในตอนนี้ส่วนใหญ่จะทำการจองผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่าย"

พร้อมกันนี้ยังได้มีการะเปิดตัวกล้องดิจิตอลตระกูล EXR CMOS ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ให้สามารถถ่ายภาพได้คมชัดสมจริง และถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงได้ โดยรุ่น Finepix F550 และ F500 จะมาพร้อมความละเอียดภาพ 16 ล้านพิกเซล, ซูม 15 เท่าในแบบออปติคอล และบันทึกวิดีโอในแบบ Full HD โดย F550 จะสามารถถ่ายภาพแบบ Raw File และสามารถบอกพิกัด GPS ได้ นอกจากนี้ยังมี Finepix HS20 EXR ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพความเร็วสูง 8 ภาพต่อวินาที ใช้เลนส์ 24-720มม. ซูม 30เท่าในแบบออปติคอล, รองรับการถ่าย Raw File และสามารถบันทึกวิดีโอแบบ Full HD

หวังดันส่วนแบ่งการตลาด 15%

นายสิทธิเวช เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดกล้องดิจิตอลในประเทศไทยในปีที่ผ่านมาตั้งมีจำนวนทั้งสิ้น 1.3 ล้านตัว คิดเป็นมูลค่าประมาณ 9,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตในเชิงปริมาณ 15% และเชิงมูลค่า 5% คาดการณ์ว่าในปี 2554 จะมีการเติบโตด้านปริมาณขึ้นเป็น 6% ขณะที่การเติบโตด้านมูลค่าจะลดลง 4% เนื่องจากมีการแข่งขันกันด้านราคาในตลาดล่าง (ช่วงราคา 3,000-5,000 บาท) ค่อนข้างสูง

"ตลาดกล้องคอมแพกต์ปี 54 จะมีการแข่งขันด้านราคารุนแรงมากขึ้น โดยช่องทางการจัดจำหน่ายประเภทโมเดิร์นเทรดจะเป็นตัวขับเคลื่อนสินค้าในกลุ่มโลว์เอนต์ ซึ่งถือเป็นตลาดหลักที่ช่วยผลัดดันยอดขายกล้องดิจิตอล ในขณะที่กล้องส่วนใหญ่จะเน้นความสามารถแบบซูเปอร์ซูม และการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง"

ปัจจุบันฟูจิฟิล์มมีส่วนทางการตลาด 12% ถือเป็นเบอร์ 4 ในตลาดกล้องคอมแพกต์รองจากโซนี, ซัมซุง และแคนนอน ที่มีส่วนแบ่งการตลาด 23%, 20% และ 18% ตามลำดับ โดยตั้งเป้าว่าในปี 54 จะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 15% และยังครองเบอร์ 4 เช่นเดิม

"ในปีนี้ฟูจิฟิล์มทุ่มงบการตลาดทั้งสิ้น 40 ล้านบาท โดยจะเน้นการทำโฆษณาผ่านหนังสือพิมพ์, นิตยสาร, แอลซีดีในรถไฟฟ้า BTS และโปรโมชัน ณ จุดขาย อีกทั้งยังได้มีการเปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ที่ไม่เพียงแต่จะโปรโมตกล้อง Finepix X100 แต่ยังสร้างภาพพจน์แบรนด์ฟูจิฟิล์มให้ก้าวกระโดดไปอีกระดับหนึ่ง"
Finepix X100 กล้องคอมแพกต์ระดับพรีเมียมที่มีประสิทธิภาพการใช้งานสูง
ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2554

เอเซอร์บีทัช อี 140

เป็นโทรศัพท์มือถือกลุ่มสมาร์ทโฟนตัวเล็กของเอเซอร์ ก่อนหน้านี้มีรุ่นพี่ บีทัช อี 120 ออกมาวางขายช่วงปลายปีที่แล้ว

เอเซอร์ บีทัช อี 140 เป็นสมาร์ทโฟนที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ รองรับเครือข่าย 3 จี หน่วยประมวลผลใช้ชิปควอลคอมม์ เอ็มเอสเอ็ม 7227 600 เมกะเฮิรตซ์ หน่วยความจำในตัวเครื่อง 512 เมกะไบต์ จอ 2.8 นิ้ว ทีเอฟที คิววีจีเอ ระบบสัมผัส ผ่าน 4 หน้าจอหลัก ด้านหลังเป็นกล้องถ่ายรูปความละเอียด 3 ล้านพิกเซล

รองรับบลูทูธ 2.1 เพิ่มหน่วยความจำผ่านไมโครเอสดี แบตเตอรี่เป็นลิเธียมไอออน 1300 มิลลิแอมแปร์ เป็นแบตเตอรี่ค่อนข้างเล็ก แต่ก็เหมาะสมกับตัวเครื่อง ใช้งานได้เกือบวันเต็ม ๆ แต่หากดาวน์โหลดทั้งวัน อัพเฟซบุ๊กตลอดเวลาก็ได้ประมาณ ครึ่งวันกว่า ๆ หากไม่อยากพกสายชาร์จก็ใช้แค่สายไมโครยูเอสบี เจอคอมพิวเตอร์ที่ไหนก็เสียบชาร์จได้ทันที

ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ เราจะเริ่มเห็นสายชาร์จเป็นพอร์ตไมโครยูเอสบีแทบทุกยี่ห้อ พกแค่สายเดียวสามารถชาร์จได้หลายอุปกรณ์ หรือจะไปหยิบยืมเพื่อนก็ได้ สะดวกดี

จะ เรียก บีทัช 140 เป็นสมาร์ทโฟนจิ๋วก็คงไม่ผิดนัก เพราะตัวเล็กและน้ำหนักเบาไม่ถึง 100 กรัมหรือ 1 ขีด ขนาดรวมแบตเตอรี่ไปแล้วนะ แถมในกล่องนอกจากสายชาร์จ สายยูเอสบี แฮนด์ฟรีเป็นอุปกรณ์มาตรฐานแล้วยังมีซองหนังสีดำ สำหรับใส่มือถือมาให้ด้วย

หน้าตาของบี ทัช 140 ดีไซน์ได้สวยงามและเรียบง่าย ตัวเครื่องด้านหน้าสีดำขอบเป็นโครเมียม ฝาหลังเป็นพลาสติกสีขาว เวลาเปิดใช้งานครั้งแรกเอเซอร์ตั้งเครื่องให้เราลงทะเบียนและเซตอีเมล หากมีแอคเคาท์จีเมลก็ใส่ลงไปได้เลย จากนั้นหากมีจดหมายใหม่หรืออีเมลใหม่เข้ามา เราก็เช็กได้ทันทีจากหน้าจอหลัก

จุดเด่นที่เอเซอร์ใส่เพิ่มเข้ามาก็คือ แอพพลิเคชั่นของเอเซอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงโซเชียลเน็ตเวิร์กได้จากหน้าจอหลัก หรือจัดการระบบจัดเก็บข้อมูลกับเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น เข้าถึงบริการคลังภาพของพิกาซากูเกิล หรือลงทะเบียนเพื่อเข้าถึงการใช้งานเอเซอร์โมบาย เป็นต้น

ในปีนี้ เราจะเห็นสมาร์ทโฟนลงสู่ตลาดทั่วไปมากขึ้น มีหลากหลายราคาและคุณภาพให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม เวลาซื้อสมาร์ทโฟนใช้งานก็ต้องถามตัวเองก่อนว่า พร้อมจะจ่ายค่าจีพีอาร์เอส นอกเหนือไปจากค่าโทรศัพท์ปกติหรือไม่ ถ้าพร้อมก็สนุกกับสมาร์ทโฟนได้เลย.
เอเซอร์บีทัช อี 140
ที่มา เดลินิวส์

โนเกีย เอ็กซ์ 2 มีดีที่แชตและถูก

ไม่ต้องแปลกใจหากจะเห็นคนรุ่นใหม่พอว่างปั๊บ เป็นต้องหยิบโทรศัพท์แล้วกดพิมพ์ ๆ อะไรก็ไม่รู้กันตลอดเวลา นั่นก็เพราะว่า เค้าไม่นิยมคุยกัน แต่ใช้วิธีแชตหรือพูดคุยกันผ่านตัวอักษรบนแป้นโทรศัพท์มือถือ

โนเกีย เอ็กซ์ 2-01 ออกมาวางจำหน่ายได้ระยะหนึ่งแล้ว ทั้งรูปทรงและสีสันจัดจ้านเน้นไปที่กลุ่มวัยรุ่นที่นิยมแชตและเข้าถึงเครือข่ายสังคมออนไลน์ทั้งทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และอีกสารพัด

ที่สำคัญเอ็กซ์ 2 รุ่นนี้ซึ่งมีคีย์บอร์ดคิวเวอร์ตี้ แบบสมัยนิยม มีราคาอยู่ในระดับที่ถูกมาก ๆ ขายพร้อมแพ็กเกจดาต้าจากโอปอเรเตอร์ให้แชตกันแบบไม่ต้องกังวลตอนจ่ายตังค์

โนเกีย เอ็กซ์ 2-01 หรือเอ็กซ์ 2 รุ่นคิวเวอร์ตี้ นั้นมีจอขนาดใหญ่ 2.4 นิ้ว ความจุ 8 กิกะไบต์ มีวิทยุ เอ็มพี 3 และบลูทูธ มีให้เลือกถึง 5 สี แต่ละสีล้วนแต่โดนใจวัยรุ่นทั้งนั้น

อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่า โนเกียรุ่นนี้เค้าออกแบบมาเพื่อคนชอบแชต ชอบอยู่เครือข่ายสังคมออนไลน์ตลอดเวลา พฤติกรรมนี้ส่วนใหญ่ ก็จะเป็นวัยรุ่น เรา สามารถแชต อัพเดทสถานะหรือสเตตัสบนเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ได้ตลอดเวลาจากหน้าจอหลักหรือโฮมสกรีน เพราะเค้าเอาแอพพลิเคชั่นที่ว่ามาทั้งหมดใส่บนจอหลัก เวลาจะใช้งานก็แค่คลิกเลือกที่ไอคอนบนหน้าจอ ไม่ต้องเข้าไปคลิกที่เมนูด้านในช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น

นอกจากนี้ยังมีบริการโอวี่ สโตร์ของโนเกีย วินโดว์ไลฟ์ สรุปแล้วก็คือ อะไรที่เกี่ยวข้องกับการสนทนาบนเครือข่ายออนไลน์ เอ็กซ์ 2-01 เค้าเอามาใส่ให้หมดเลย

ที่สำคัญวัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะดูดี ขนาดอาจจะใหญ่ไปบ้างแต่ก็ตามสไตล์มือถือที่แชตเพราะต้องมีพื้นที่ให้คีย์บอร์ดมาก ๆ

ชอบแชต ชอบออนไลน์เช็กสถานะตัวเองตลอดเวลา ลองไปทดลองโนเกียเอ็กซ์ 2-01 น่าจะถูกใจ แถมราคายังน่าคบ.

ปรารถนา ฉายประเสริฐ
Prathana.chai@gmail.com
ที่มา เดลินิวส์

โนเกีย อี 7 มีครบทุกอย่าง

เห็นโทรศัพท์มือถือโนเกีย เหมือนได้เจอเพื่อนเก่าที่ห่างหายกันไปนาน แต่ก็รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เจอ เพราะความคุ้นเคยที่มีมาตั้งแต่ครั้งแรกที่มีโอกาสเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกในชีวิต

โนเกีย อี 7 เป็นอีกความพยายามล่าสุดของโนเกีย หลังจากปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในองค์กร เห็นรูปลักษณ์ครั้งแรกก็รู้สึกชอบกับหน้าตาอี 7 จอใหญ่และดีไซน์สีดำที่ดูดี ขนาดพอดีมือไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป

จอขนาดใหญ่ 4 นิ้ว เป็นจออะโมเลดที่คมชัด ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ชัดเจน หรือที่เรียกว่าเคลียร์แบล็ก ดิสเพลย์ หน่วยความจำให้มา 16 กิกะไบต์ รองรับเครือข่าย 3 จี

ใช้งานครั้งแรกแนะนำให้อ่านคู่มือก่อน อย่าเผลอไปงัดฝาหลังใส่ซิมด้วยความเคยชิน เพราะรุ่นนี้เค้าไม่ได้ออกแบบมาให้เปิดฝาหลัง สล็อตใส่ซิมจะอยู่ด้านข้าง ซ้ายมือ ด้านบนใกล้ ๆ ปุ่มเปิด-ปิดเครื่องเป็นพอร์ตสำหรับต่อยูเอสดีและชาร์จโทรศัพท์ รวมถึงพอร์ตเอชดีเอ็มไออยู่ข้าง ๆ ให้สนุกสนานกับการเล่นภาพบนจอโทรทัศน์ที่รองรับ

เวลาจะใช้งานคีย์บอร์ดก็แค่เลื่อนสไลด์ไปด้านขวา ก็จะมีคีย์บอร์ดซ่อนอยู่ด้านใน แต่ขอสารภาพว่า แป้นภาษาไทยใช้ค่อนข้างยาก เพราะเรียงมาแปลก ๆ แต่ภาษาอังกฤษนั้นพิมพ์ง่ายมาก เลยหันไปพิมพ์ไทยผ่านจอระบบสัมผัสแทน แถมขยายฟรอนต์ให้ใหญ่ได้ด้วย

โนเกีย อี 7 เป็นระบบปฏิบัติการซิมเบี้ยนเวอร์ชั่นใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อจอระบบสัมผัส รุ่นก่อนหน้านี้ยังไม่ค่อยไวเท่าไหร่ แต่สำหรับอี 7 ระบบทัชหรือระบบสัมผัสไวมาก ๆ ที่สำคัญโนเกียใส่แอพพลิเคชั่นทุกอย่างที่มนุษย์ต้องการมาไว้ในมือถือรุ่นนี้หมด หากเป็นนักธุรกิจที่เน้นใช้งานอีเมล ต่อเน็ต อ่านและแก้ไขไฟล์เอกสาร ไม่ต้องเข้าถึงเมนูหลัก เพราะเค้าเอามาใส่ไว้ให้ที่โฮมสกรีน แค่เซตอีเมลแอคเคาท์ที่มีอยู่ก็รับ-ส่งอีเมลได้ตลอดทั้งวัน

สำหรับผู้ที่ติดเครือข่ายสังคมออนไลน์ ก็อัพเดทเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อยู่บนโฮมสกรีน ให้เห็นตลอดเวลาไม่ต้องนั่งกดเช็กสเตตัสตัวเองบ่อย ๆ ข้อดีของโนเกียอีกอย่างที่เห็นชัดเจนก็คือ หากไม่ต้องการเชื่อมต่อจีพีอาร์เอสทั้งวันเราก็สั่งปิด แบบปิดแล้วปิดเลย ไม่แอบเข้ามาล็อกออนโดยที่เราไม่ได้สั่งเหมือนยี่ห้ออื่น และหากเสร็จภารกิจออนไลน์ระบบก็ตัดการเชื่อมต่อให้ทันที

จะติก็เรื่องกล้องถ่ายรูปนี่แหละ แม้จะเป็นกล้อง 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช แต่ไม่ได้ใส่เลนส์คาร์ลไซส์มาเหมือนรุ่นอื่น ๆ เมื่อเทียบรุ่นเอ็น 8 แล้ว กล้องอี 7 สู้ไม่ได้จริง ๆ เพราะเอาภาพที่ถ่ายจากอี 7 และเอ็น 8 มาเทียบกัน เห็นความแตกต่างได้ชัดเจน

โนเกีย อี 7 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีให้ครบทุกความต้องการมัลติมีเดียและการใช้งานเชิงธุรกิจ หากไม่ซีเรียสกับคุณภาพกล้อง ต้องการถ่ายแค่อัพเดทโลกออนไลน์ ก็รับรองว่า เหมาะกับการใช้งานทุกอย่างแน่นอน แต่ราคาก็หนักเอาการอยู่พอสมควร สองหมื่นปลาย ๆ ขอแค่ชมแล้วกันนะคะ.

ปรารถนา ฉายประเสริฐ
prathana.chai@gmail.com
ที่มา เดลินิวส์

วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2554

สตีฟ จ็อบส์ เปิดตัวไอแพด 2

ไอแพด 2 ผู้บริหารสูงสุดของแอปเปิล สตีฟ จ็อบส์ ขณะแถลงข่าวเปิดตัวไอแพด 2 ที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา แอปเปิลมั่นใจว่าไอแพด 2 จะเป็นแท็บเล็ตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะเป็นไอแพดที่สมบูรณ์แบบที่สุด

เอเซอร์จิ๋ว เอเซอร์ เปิดตัว เอเซอร์ เวอริตอน เดสก์ท็อป รุ่น เอ็น282จี ตัวเล็กกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่การจัดวาง ด้วยการออกแบบให้ติดตั้งไว้ด้านหลังจอแอลซีดี ติดตั้งง่าย มาพร้อมระบบปฏิบัติการ วินโดวส์ 7 โปรเฟสชั่นนอล ราคาเริ่มต้นที่ 16,900 บาท
ที่มา เดลินิวส์

วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2554

Motorola Defy สมาร์ทโฟนไม่กลัวน้ำ

การที่โมโตโรลากลับมาทำตลาดในประเทศไทยอีกครั้งผ่านดิสทริบิวเตอร์อย่าง เอสไอเอส ที่จับตลาดสมาร์ทโฟนเกือบทุกแบรนด์ในปัจจุบัน กลายเป็นอีกหนึ่งสินค้าในลิสต์ที่น่าสนใจของผู้บริโภค จากชื่อชั้นของแบรนด์โมโตฯกับความคงทนแข็งแรงของวัสดุ และการวิจัยพัฒนาช่วยผลักดันให้ Defy กลับมาเกิดในตลาดประเทศไทยอีกครั้ง

แม้ว่าตัวเครื่อง Defy จะเปิดวางขายในต่างประเทศตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ปี 2010 แล้ว แต่ในเรื่องของสเปกนั้นไม่ได้ถือว่าตกรุ่นมากนัก เพราะการปรับราคาลงมาอยู่ในระดับ 12,900 บาท กับความเป็นอินเตอร์แบรนด์ ที่ชูจุดเด่นกันน้ำได้มาเป็นตัวแปรสำคัญ ขณะที่เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.1 ในขณะนั้นก็น่าจะได้รับการอัปเดตในเร็วๆ นี้
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2554

Acer Iconia W500 แท็บเล็ตวินโดวส์ 7

Acer Iconia W500 แท็บเล็ตพีซี ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 7 Home Premium หน้าจอแสดงผลระบบสัมผัส ขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียด 1280 × 800 พิกเซล หน่วยประมวลผล AMD Fusion C-50 APU ความเร็ว 1GHz พร้อมชิพกราฟฟิค AMD Radeon HD 6250 หน่วยความจำ SSD 32 GB, DDR3 RAM 2 GB กล้องหน้า-หลัง ความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล บันทึกวีดีโอคุณภาพระดับ HD สนันสนุนการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n, 3G, Bluetooth 3.0, USB และ พอร์ต HDMI ระบบเสียง Dolby Audio แบตเตอรี่ 3-cell รวมถึงสามารถเชื่อมต่อ dock คีย์บอร์ดภายนอกเปลี่ยนรูปร่างเสมือนโน้ตบุ๊คเสริมการทำงานให้สะดวกในการพิมพ์ข้อความยิ่งขึ้น
Acer Iconia W500 เริ่มวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม ราคาประมาณ 22,300 บาท (£449) และ สำหรับ Acer Iconia W500 พร้อม dock คีย์บอร์ด ราคารวมประมาณ 26,300 บาท (£529)
Acer Iconia W500 แท็บเล็ตวินโดวส์ 7
ที่มา saimphone

"Nintendo3DS" เครื่องเกมพกพาแห่งอนาคต

หลังจากสัปดาห์ที่แล้วผู้เขียนได้เขียนบทความสัมผัสแรก 3DS เป็นการเกริ่นกันก่อนได้เล่นเต็มๆ และเชื่อว่า คอเกมชาวไทยต้องสงสัยว่ามันจะทำได้ทะลุจอจริงหรือ มาวันนี้หลังจากได้ลองเล่นเครื่องเกมหน้าจอทะลุมิติแบบเต็มๆที่ว่ากันว่าจะพลิกรูปแบบการเล่นเดิมๆ และมาร่วมพิสูจน์กันว่าคราวนี้ ปู่นินจะสามารถทำได้สมราคาคุยหรือไม่

โดยอุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่องประกอบด้วย ตัวเครื่อง 3DS ,แท่นชาร์จ ,หม้อแปลงไฟ , คู่มือ และ AR Card 6 ใบ มี SD Card แถมมาให้ 2GB แรกสัมผัสนั้นรูปร่างหน้าตาของเครื่องนั้นมีรูปแบบหลักเหมือนกับเครื่องรุ่นพี่อย่าง NDS ที่เยี่ยมยอดมากคือ วัสดุดูดีมีราคากว่า NDS มาก นินเทนโดเลือกใช้วัสดุที่ดูดีทนทาน โดยเฉพาะฝาพับที่ดูแข็งแรงระดับ Notebook ราคาแพง ตัวเครื่องมีการเล่นระดับสียิ่งทำให้เครื่องดูสวย รวมทั้งการวางตำแหน่งปุ่ม ทำหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ การประกอบเครื่องแน่นหนา เรียกว่าเอาไปโชว์คนอื่นได้ไม่อายใคร ส่วนตัวเครื่อง 3DS มีขนาดใหญ่กว่า NDS ตัวแรกแต่บางกว่าขนาดพอๆกับ DSL และทั้งขนาดและน้ำหนักอยู่ในระดับกำลังดี จับถนัดมือไม่ลื่น การออกแบบโดยรวมถือว่าทำได้ดีเกินคาด เพราะสวยงาม การประกอบก็ดีเยี่ยม

พระเอกของเราคือหน้าจอ 3 มิติขนาด 3.5 นิ้ว มีความละเอียด 800 x 240 โดยแบ่งเป็น400 x 240 ต่อ 1 ดวงตา ที่เป็นการแสดงภาพ 3 มิติแบบนำภาพมาซ้อนกัน โดยมิติที่เกิดมีทั้งลึกและลอยออกมา ซึ่งมันทำได้สมจริง เหมือนมีอะไรอยู่ในจอจริงๆ ที่แม้จะไม่ใช่ของใหม่เพราะมือถือบางเครื่องในญี่ปุ่นก็มีจอแบบนี้ออกมาแล้ว แต่ 3DS ทำได้เยี่ยมกว่า ด้วยความคมชัดของพิกเซล การที่สามารถปรับระดับความลึกของมิติได้ละเอียด ทำให้แม้ผู้เขียนเองจะเป็นคนมึนหัวง่ายมาก แต่กับการเล่น 3DS เกิน 1 ชม. ติดต่อกัน กลับไม่มึนหัวหรือปวดตา อาจจะมีบางในช่วงแรกเรายังไม่ชิน แต่พอชินแล้วคุณจะเล่นได้อย่างลื่นไหล แต่องศาในการเล่นต้องอยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะกับตาของคุณไม่เช่นนั้นภาพอาจจะเบลอได้ นี่อาจเป็นสาเหตุที่มีคนบ่นเกี่ยวกับหน้าจอ 3DS เพราะถ้าคุณหามุมดีๆ ไม่ขยับเครื่องไปทางทิศทางซ้ายขวา แล้ว หน้าจอ 3 มิติของ 3DS ถือว่าแสดงผลได้ดีมาก (แต่ไม่แนะนำให้เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีเล่น) และจอล่างจะเป็นจอสัมผัส ขนาด 3.02 นิ้วที่ดูไม่ต่างจาก NDS

ส่วนปุ่มบน 3DS จะแบ่งออกเป็น ด้านขวาของเครื่องจะมีปุ่ม เปิด/ปิดไวเลส ที่ด้านล่าง ส่วนตรงจอบนจะมี ตัวปรับความลึก 3 มิติ ส่วนด้านซ้ายจะมีช่องใส่ SD Card และปุ่มปรับเสียงแบบเลื่อนได้ และด้านหลังของเครื่องจะมีช่องใส่ ตลับ 3DS ที่มีขนาดใกล้เคียงกับ NDS และด้านหลังยังมีปุ่ม L กับ R ช่องใส่สไตลัส แบบยืดหดได้ ส่วนปุ่มบนเครื่องมี ปุ่มทิศทาง D-pad ปุ่ม Slide pads ที่กดง่ายและลื่นไหลดี ถัดมาจะมี ปุ่ม ABXY เรียงกันมุมเฉียงตามแบบของเครื่องเกมของนินเทนโด และปุ่ม SELECT ,START กับ Home เรียงเป็นแถบเดียวอยู่ด้านล่าง โดยปุ่ม Home ถือว่าเป็นปุ่มหลักของเครื่องที่จะทำให้เราออกจากเกมหรือโหมดในเกมได้เพื่อไปใช้โปรแกรมอื่น และสุดท้ายปุ่มปิดเปิดเครื่อง ที่จะอยู่ด้านล่างขวา ส่วนด้านหน้าของเครื่องจะมีไฟแสดงสถานะ และรูเสียงหูฟังขนาด 3.5 mm

อีกหนึ่งลูกเล่นของเครื่องคือ กล้อง 3มิติ ซึ่งตัว 3DS จะมีกล้องอยู่ 2 จุดคือกล้องด้านหลังซึ่งจะเป็นกล้องแบบ 2 เลนส์ และสามารถถ่ายรูป 3 มิติได้ ส่วนกล้องอีกตัวจะอยู่ที่ด้านบนของหน้าจอ 3 มิติ ซึ่งจะเป็นกล้องธรรมดามีแค่เลนส์เดียว โดยความละเอียดของกล้องจะอยู่แค่ 3แสนพิกเซล ซึ่งดูน้อยมาก และเมื่อเอารูปที่ถ่ายมาลงคอมเพื่อดูก็จะไม่ได้แสดงผลเป็น 3 มิติ แถมคุณภาพรูปก็แย่ แถมยังถ่ายในที่แสงน้อยได้ไม่ดี อาจเพราะกล้องมีไว้ใช้ร่วมกับการเล่นเกม หรือถ่ายรูปเล่นๆเพื่อดูในเครื่องเท่านั้น แต่ตัวกล้องก็ยังใส่ลูกเล่นมาเช่น เอฟเฟค 3 มิติที่สวยงาม และการรวมใบหน้าของ 2 คนเข้าด้วยกันซึ่งแม้จะเป็นลูกเล่นเล็กๆแต่ก็สร้างความฮาได้มากมายเวลาเล่นกับเพื่อนๆ และที่สำคัญ 3DS ยังได้ใส่ motion sensors และ gyro sensors มาในตัวเครื่องเพื่อจับการเคลื่อนไหวของผู้เล่นได้ทุกทิศทาง

ส่วนซอฟท์แวร์ 3DS นำเสนอเมนูเรียงกันเป็นช่องๆที่ดูง่าย และยังมีช่องว่างให้โหลดอะไรได้เพิ่มอีกมาก โดยนินเทนโดได้ใส่เกมแถมมากับเครื่อง 2 เกมคือ AR Game และ Face Raiders ซึ่ง Augmented Reality Games เกมคือการนำ การ์ดรูปต่างๆมาวางบนโต๊ะหรือที่ว่างๆ แล้วใช้กล้องของ 3DS ถอดรหัสแล้วจะเกิดสิ่งอัศจรรย์ขึ้นเพราะ จะมีตัวละครหรือสิ่งของต่างๆออกมาบนโต๊ะให้เราเห็นจริงๆที่หน้าจอเกม ที่สำคัญเรายังสามารถบังคับเพื่อเล่นได้ด้วยเช่นเกมยิงธนูไปโดนเป้า ที่เยี่ยมมากคือเราต้องเดินไปรอบๆเป้าเพื่อหามุมเล็งยิงโดยเป้าในเกมจะเปลี่ยนมุมองศาตามเราเหมือนเราได้ไปเล็งยิงจริงๆ และนอกจากนี้ ในกล่องยังมีการ์ดตัวละครชื่อดังของปู่นินซึ่งเมื่อถอดรหัสมาแล้ว จะมีตัวละครในเกมออกมาให้เราบังคับด้วย แต่การ์ด AR นั้นไม่ได้ใส่รหัสที่ซับซ้อนนัก เพราะผู้เขียนได้ลองเอากล้องมือถือถ่าย การ์ดไว้แล้วให้ 3DS ถอดรหัสผ่านจากรูปถ่ายที่จอโทรศัพท์ ปรากฏว่า ก็ยังสามารถเล่นได้เช่นกัน

อีกเกมที่สนุกไม่แพ้กันคือ Face Raiders ที่จะใช้ความสามารถในการจับการเคลื่อนไหว บวกกับกล้อง เพื่อเล็งยิงศัตรูที่เป็นใบหน้าของใครก็ได้ เพียงแค่คุณถ่ายรูป เกมจะแปลงรูปใบหน้าเป็นศัตรูสุดฮา และบอสให้เราได้เล่น ที่สำคัญใบหน้านั้นยังแสดงอารมณ์ได้อีกด้วย โดย Face Raiders ยังมีลูกเล่นอีกมากมายให้เราเล่นสนุกได้ เรียกว่าคุณอาจลืมตลับเกมที่คุณซื้อมาเลยในเมื่อเครื่อง 3DS มีเกมสนุกๆแถมมาด้วย อีกทั้ง 3DS ยังมี ตัวละคร Mii เหมือนบนเครื่อง วี แต่เราไม่ต้องมานั่งสร้างเองอีกต่อไปเพียงแค่ ถ่ายภาพใบหน้าชัดๆ แล้วเครื่อง 3DS จะสร้าง Mii ขึ้นมาเองได้ ที่สำคัญเครื่องยังสามารถเอาไปออกกำลังกายได้ เพราะมันมีตัววัดว่าวันนี้เราเดินไปแล้วกี่ก้าว และจำนวนก้าวที่ได้มาจะตีค่าเอาไปปลดล็อกของในเกมได้

และสุดท้ายระบบออนไลน์ ที่มี การเชื่อมต่อแบบอัตโนมติ แบบ Street Pass เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเครื่องอื่น โดยมีทั้งการและเปลี่ยนจะมีทั้งในเครื่อง เช่น ตัวละคร Mii หรือในเกมเช่นเกม Nintendogs+Cats จะเป็นการแลกเปลี่ยนรูป ข้อมูล และของขวัญ ส่วนการอัพเดทข้อมูลผ่าน Spot Pass เป็นการอัพเดทข้อมูลผ่าน wifi แบบอัตโนมัติ และการเล่น เว็บเบราเซอร์ยังไม่มีในตอนนี้แต่จะให้โหลดเพิ่มได้ในอนาคต เช่นเดียวกับ 3DS Virtual Console ร้านขายเกมแบบไลน์ที่ยังไม่เปิดในตอนนี้ แต่ที่เยี่ยมที่สุดคือ แต่ละเครื่องมี Friendcode เดียว ทำให้การออนไลน์ทุกเกมใน3DS นั้นเป็นไปด้วยความสะดวกกว่า วี และ NDS แน่

แต่การเล่นอาจจะไม่ลื่นไหลต่อเนื่องนักเพราะ 3DS กินไฟพอสมควรจากการทดสอบผู้เล่นเปิดโหมด 3มิติ และระดับไฟปานกลาง เล่นได้ประมาณ 4-5 ชม. ถือว่าพอใช้ และเครื่องเกมล็อกโซนทำให้คอเกมชาวไทยต้องเลือกว่าจะเล่นโซนไหนตามเกมที่จะออก ส่วน ลำโพงของเกมให้เสียงที่ใสมีมิติ กว่า NDS มากแต่อาจจะไม่มีความดังเท่าไรนักแต่ก็สอบผ่าน ส่วนการฟัง MP3 ผ่านหูฟังนั้นเสียงที่ได้อยู่ในระดับกลางๆ ไม่ดี แต่ก็ไม่ได้เลวร้าย แต่อย่างน้อยเมนูตอนฟังเพลงก็มีอะไรให้เราสนุกไปกับมันได้เช่น นั่งดู มอเตอร์ไซค์ในเกม ExciteBike ลุยอุปสรรคที่ถ้าเรายิ่งเปิดเพลงเร็วจังหวะแรงๆอุปสรรคในเกมจะมีมากขึ้น

สรุปแล้วเป็นอีกครั้งที่ นินเทนโด สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆให้กับวงการเกมได้ เพราะหน้าจอ 3 มิตินั้นสร้าง มิติใหม่ให้กับการเล่นเกม เพียงแต่การเล่นนั้นคุณต้องทำความเข้าใจกันเล็กน้อย เพราะมุมองศา และระดับความลึกของมิติที่ต้องปรับให้ตรงกับตาของผู้เล่นเอง แค่นี้คุณก็จะสนุกไปกับมิติใหม่ของเครื่องเกมแบบพกพาแห่งอนาคตได้ แม้ตอนนี้ราคาอาจจะสูงอยู่สักหน่อย แต่สำหรับสิ่งที่ได้มาถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคา สำหรับมิติใหม่ในการเล่นที่จะดึงคุณเข้าสู่ โลก 3 มิติของเกม ที่ทั้งสนุกสมจริง ถ้าคุณกำลังค้นหามุมมองใหม่ๆของการเล่นเกม Nintendo 3DS อาจมีคำตอบให้คุณ
รูปลักษณ์ 9.5
วัสดุ 10
ระบบเสียง 8
ลูกเล่น 9
จอภาพ 8.8
ภาพรวม 9


ข้อดี: ตัวเครื่องสวย วัสดุดี , ภาพ 3 มิติคมชัด , ลูกเล่นที่แถมมาเยอะมาก
ข้อเสีย: องศาต้องตรงถึงจะมอง 3 มิติได้ถนัด, เครื่องล็อกโซน , แบตเล่นได้ไม่นาน

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ลือแอปเปิลคลอดสินค้าใหม่ฉลองวันเกิด"สตีฟ จ็อบส์"

สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) ซีอีโอและผู้ก่อตั้งแอปเปิล เว็บไซต์แอปเปิลอินไซเดอร์ (AppleInsider) ยืนยันฟันธงว่าแอปเปิลกำลังเตรียมเปิดตัวคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กแมคอินทอชไฮเอนด์ "แมคบุ๊กโปร (MacBook Pro)" รุ่นใหม่ในวันเกิดของซีอีโอสตีฟ จ็อบส์ โดยขณะนี้ รายงานชี้ว่าแมคบุ๊กโปรรุ่นใหม่ซึ่งถูกห่อหุ้มไว้อย่างมิดชิดได้ถูกส่งถึงร้านค้าปลีกและแอปเปิลสโตร์หลายสาขาในสหรัฐฯแล้วบางส่วน

สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) ซีอีโอและผู้ก่อตั้งแอปเปิลนั้นจะมีอายุ 56 ปีในวันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ 2011 โดยข้อมูลจากแอปเปิลอินไซเดอร์นั้นตรงกับข้อมูลจากเว็บไซต์แมครูเมอร์ส (MacRumors) ซึ่งได้ยืนยันมาก่อนหน้านี้ว่าจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิล แม้ว่าโดยปกติแล้ว แอปเปิลมักจะยึดวันอังคารเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในการเปิดตัวสินค้าหรือประกาศบริการใหม่

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แอปเปิลถือฤกษ์วันที่ 24 กุมภาพันธ์เพื่อเป็นกำหนดการเคลื่อนไหวบริษัท โดยปีที่แล้ว แอปเปิลระบุว่า 24 กุมภาพันธ์ 2010 คือวันที่แอปเปิลประกาศว่าสามารถจำหน่ายเพลงบนร้านไอจูนส์ (iTunes) ได้ครบ 10,000 ล้านดาวน์โหลด ถือเป็นหลักไมล์ความสำเร็จจากวิสัยทัศน์ของซีอีโอคนเก่งตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่ครั้งนั้น แอปเปิลก็ไม่ได้ประกาศต่อสาธารณชนถึงความเกี่ยวโยงใดๆกับวันเกิดของซีอีโอ

นอกจากนี้ งานประชุมผู้ถือหุ้นแอปเปิลประจำปีมักถูกจัดขึ้นในช่วงใกล้เคียง 24 กุมภาพันธ์มาตลอด โดยปีนี้ การประชุมผู้ถือหุ้นจะจัดขึ้นในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ซึ่งไม่มีรายงานว่าจ็อบส์จะเข้าร่วมการประชุมหรือไม่เนื่องจากยังอยู่ระหว่างลางานเพื่อรักษาตัว

อย่างไรก็ตาม ข่าวลือเรื่องกำหนดวันเปิดตัวแมคบุ๊กโปรรุ่นใหม่นี้ถือเป็นการเร่งจากข่าวลือเดิม ที่เชื่อว่าแอปเปิลจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์แมคบุ๊กโปรในเดือนมีนาคม 2011

สำหรับคุณสมบัติใหม่ในแมคบุ๊กโปร รายงานต่างประเทศคาดว่าแมคบุ๊กโปรรุ่นใหม่จะติดตั้งทัชแพดรูปแบบใหม่ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าทัชแพดในแมคบุ๊กโปรรุ่นปัจจุบัน มีแนวโน้มสูงว่าจะมีความแวววาวเนื่องจากสื่อต่างประเทศเรียกทัชแพดใหม่ว่า 'glass' เบื้องต้น ข้อมูลชี้ว่าน้ำหนักเครื่องจะลดลงจากเดิม 0.5 ปอนด์ (ราว 220 กรัม) โดยผู้ใช้จะสามารถเลือกได้ว่าต้องการรุ่นที่ใช้หน่วยความจำฮาร์ดดิสก์และ SSD หรือรุ่นที่ใช้ SSD เป็นหน่วยความจำอย่างเดียว
แฟ้มภาพแมคบุ๊กโปร (MacBook Pro) คอมพิวเตอร์แทคอินทอชพกพารุ่นเก่าของแอปเปิล
แฟ้มภาพแมคบุ๊กโปร คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กแมคอินทอชไฮเอนด์จากแอปเปิล
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ฟรีบริการเก็บสถิติเว็บไซด์ FlashSanook แฟลชเกมสนุกของคนออนไลน์